ทัวร์มองโกเลีย 2568 ตะลุยดินแดนนภาสีคราม
ประเทศมองโกเลีย (Mongolia) ดินแดนทุ่งหญ้าอันกว้างใหญ่ที่มีพรมแดนทางทิศเหนือติดกับรัสเซีย และทางทิศใต้ติดกับประเทศจีน ประเทศของนักรบโบราณอย่าง เจงกิสข่าน (Genghis Khan) ที่นี่มีสถานที่เที่ยวมากมายที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวมาอย่างล้นหลาม ด้วยภูมิประเทศอันเป็นเอกลักษณ์ ประวัติศาสตร์โบราณ และวัฒนธรรมที่มีมาอย่างยาวนาน ในบทความนี้เราจะมาเจาะลึกข้อมูลต่าง ๆ รวมถึงแนะนําสถานที่ท่องเที่ยวห้ามพลาดในมองโกเลียกันค่ะ
เมืองหลวง
อูลานบาตอร์ (Ulan Bator) เป็นเมืองหลวงที่มีขนาดใหญ่และมีประชากรมากที่สุดในมองโกเลีย โดยผสมผสานความทันสมัยและประเพณีเข้ากันอย่างลงตัว จึงมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายให้นักท่องเที่ยวได้เยี่ยมชม ทั้งวัดที่เป็นศูนย์กลางทางศาสนา พระราชวังที่สำคัญ และพิพิธภัณฑ์แห่งชาติที่มีนิทรรศการเกี่ยวกับประวัติศาสตร์มากมาย นอกจากนี้ยังเป็นเมืองหลวงที่มีอากาศเย็นที่สุดในโลกอีกด้วย เนื่องจากระดับความสูงและอยู่ห่างจากชายฝั่งหลายร้อยกิโลเมตร
รู้หรือไม่? มองโกเลียแบ่งเป็น นอก และ ใน
มองโกเลียนอก ก็คือ ประเทศมองโกเลีย ที่เราได้พูดถึงไปข้างต้นนั่นเองค่ะ ส่วน มองโกเลียใน หรือ เน่ย์เหมิงกู่ (Inner Mongolia) เป็นเขตปกครองตนเองแห่งหนึ่งของจีน โดยทางทิศเหนือติดกับประเทศมองโกเลีย แต่ในยุคอาณานิคมมีการแบ่ง มองโกเลียนอกและใน เพื่อจัดระเบียบอำนาจการปกครองของ ราชวงศ์ชิง ซึ่งมองโกเลียนอกนั้น หลังจากราชวงศ์ชิงล่มสลายก็ได้โซเวียตมาช่วยในการประกาศแยกตนออกมาเป็นเอกราช ส่วนมองโกเลียในไม่ได้เป็นเอกราชไปด้วย เลยยังคงรวมอยู่กับจีนจนถึงทุกวันนี้ แม้ประชากรจะมีเชื้อชาติมองโกเลียมากกว่าสามล้านคน แต่คนเหล่านี้ก็ยังใช้สัญชาติจีน และภาษาจีนเป็นภาษาราชการค่ะ
เที่ยวมองโกเลียเดือนไหนดี
มองโกเลียเป็นประเทศที่มีสภาพอากาศค่อนข้างหนาวเย็นในหลายพื้นที่ เนื่องจากภูมิศาสตร์และภูมิประเทศ เเต่การมาเที่ยวที่นี่ก็เหมือนกับได้เปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ ในแบบที่ประเทศไทยไม่มี ไปดูกันค่ะว่าเดือนไหนน่าเที่ยวบ้าง
- ฤดูใบไม้ผลิ (เดือนมีนาคมถึงพฤษภาคม) โดยมีอุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 13°C อาจมีสภาพอากาศที่แปรปรวน ทั้งมีลมแรงและพายุ แต่ก็ยังเป็นช่วงฤดูผสมพันธุ์ เหมาะแก่การไปเยี่ยมชมฟาร์ม โบราณสถาน หรือพิพิธภัณฑ์
- ฤดูร้อน (เดือนมิถุนายนถึงสิงหาคม) เป็นช่วงที่นักท่องเที่ยวนิยมมากที่สุด แม้ว่าจะเป็นฤดูฝน แต่มีอุณหภูมิเฉลี่ย 10°C ถึง 27°C ซึ่งสามารถเดินทางได้สะดวกกว่าช่วงนอกฤดูกาล โดยตอนกลางคืนมีอากาศที่เย็นสบายมากค่ะ
- ฤดูใบไม้ร่วง (เดือนกันยายนถึงพฤศจิกายน) เป็นช่วงการเก็บเกี่ยวผลผลิต เพื่อเตรียมรับหน้าหนาวที่จะมาถึง หากมาเที่ยวในช่วงนี้อาจพบกับหิมะประปราย สลับกับสีของธรรมชาติเขียวชอุ่มสวยงามมากค่ะ
- ฤดูหนาว (เดือนพฤศจิกายนถึงกุมภาพันธ์) เป็นช่วงที่จะมีอากาศหนาวที่สุด โดยมีอุณหภูมิประมาณ -40°C ซึ่งเป็นช่วงที่ไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยว เเต่ก็เป็นช่วงที่เหมาะแก่การไปชมทะเลทรายหรือธารนํ้าเเข็งที่สามารถหาชมได้เเค่เฉพาะในฤดูนี้เท่านั้นค่ะ
เดือนที่ดีที่สุดที่แนะนําให้ไปเที่ยวที่มองโกเลียคือ เดือนกรกฎาคม นั่นเองค่ะ ในช่วงนี้อากาศค่อนข้างสบายอบอุ่น เหมาะแก่การท่องเที่ยวและทํากิจกรรมกลางแจ้งต่าง ๆ นอกจากนี้ยังเป็นช่วงที่จัด เทศกาลนาดัม ในวันที่ 11 - 15 กรกฎาคม โดยมีการแข่งขันกีฬาดั้งเดิม เช่น มวยปล้ำ แข่งม้า และยิงธนูอีกด้วยค่ะ
10 สถานที่เที่ยวยอดนิยม ทัวร์มองโกเลีย 2568 เที่ยวปีใหม่ราคาสุดคุ้ม
1. อูลานบาตอร์ (Ulaanbaatar)
อูลานบาตอร์ (Ulaanbaatar) เป็นเมืองหลวงที่ใหญ่ที่สุดในมองโกเลีย ไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาดได้แก่ อนุสรณ์ไซซาน (Zaisan Memorial) เป็นอนุสรณ์ที่สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงทหารพันธมิตร มองโกเลียและโซเวียต ที่เสียชีวิตในสงครามโลกครั้งที่สอง และ อนุสาวรีย์เจงกิสข่าน (Genghis Khan Statue Complex) ที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยเมืองหลวงแห่งนี้ผสมผสานความทันสมัยและประเพณีเข้าด้วยกัน มีบรรยากาศที่เงียบสงบและเย็นสบายมากค่ะ
2. ทะเลทรายโกบี (The Gobi Desert)
ทะเลทรายโกบี (The Gobi Desert) เป็นหนึ่งในทะเลทรายที่ใหญ่ที่สุดในโลก อีกทั้งยังมีภูมิประเทศที่หลากหลาย โดยมีสถานที่ที่เป็นไฮไลท์อย่าง เนินทราย Kongoryn Els ซึ่งถูกเรียกกันว่า ทะเลทรายร้องเพลง ที่จะเกิดเสียงเมื่อมีลมพัดผ่าน และ หน้าผาเพลิง Bayanzag ที่กระทบกับเเสงจนเห็นเป็นสีแดงเพลิงสุดสวยงาม นอกจากนี้ยังมีการค้นพบไข่ไดโนเสาร์ตัวแรกของโลกที่นี่อีกด้วย
3. ทุ่งออร์คอน (Orkhon Valley)
หุบเขาออร์คอน (Orkhon Valley) หนึ่งในสถานที่ที่ถูกเลือกให้เป็นมรดกโลกจากยูเนสโก โดยมีทุ่งหญ้าที่เขียวขจี โอบล้อมไปด้วยเนินเขาเป็นคลื่น และมีแม่น้ำไหลผ่าน แสดงให้เห็นธรรมชาติอันน่าทึ่งของมองโกเลีย นอกจากนี้ยังมีศิลาโบราณ และเศษซากของอารยธรรมในอดีตตั้งเเต่ช่วงศตวรรษที่ 6 กระจายอยู่ทั่ว ซึ่งแสดงให้เห็นถึงอารยะธรรมของชนเผ่าเร่ร่อนของชาวมองโกเลียที่มีมาอย่างเนิ่นนาน เหมาะกับการมาเดินชมความงามของชาติอย่างมากเลยค่ะ
4. ทะเลสาบฮุฟสกุล (Khuvsgul Lake)
ทะเลสาบฮุฟสกุล (Khuvsgul Lake) เป็นทะเลสาบที่ใสราวกับกระจก จนได้ฉายาว่า ไข่มุกสีน้ำเงินแห่งมองโกเลีย ที่สําคัญที่นี่ไม่ได้มีเพียงแต่ความสวยงามเท่านั้น แต่ยังมีประวัติที่น่าทึ่งอีกด้วย โดยทะเลสาบแห่งนี้มีอายุมากกว่าสองล้านปีเลยทีเดียว จุดเด่นของที่นี่คือมีกิจกรรมขี่ม้าชมความงดงามของทะลเลสาบ และสัมผัสวัฒนธรรมของคนเลี้ยงกวางเรนเดียร์ซาตันแห่งมองโกเลียอีกด้วย
5. ภูเขาไฟคอร์โก (Khorgo mountain)
ภูเขาไฟคอร์โก (Khorgo mountain) เป็นภูเขาไฟที่มอดดับไปเเล้ว ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติคอร์โก-เทอร์คีน ในมองโกเลียตอนกลาง เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจสำหรับคนรักธรรมชาติ และอยากจะผจญภัยไปกับการสํารวจภูเขาไฟ โดยภูเขาไฟแห่งนี้มีความลึก 70 - 80 เมตร ทำให้สามารถชมทัศนียภาพอันกว้างไกลของภูมิประเทศได้โดยรอบ โดยพื้นที่รอบ ๆ ก็จะมีลาวาที่เหือดแห้ง ถ้ำ และหินบะซอลต์รูปแบบต่าง ๆ ชวนตื่นเต้นอย่างมากเลยค่ะ
6. อุทยานแห่งชาติกอร์ไกเทเรลจ์ (Gorkhi - Terelj National Park)
อุทยานแห่งชาติกอร์ไกเทเรลจ์ (Gorkhi Terelj National Park) เป็นอุทยานที่ตั้งอยู่ใกล้กับอูลานบาตอร์ ซึ่งเป็นเหมือนมรดกอันล้ำค่าของมองโกเลียเลยค่ะ เนื่องจากมีทิวทัศน์ที่งดงามดังภาพวาด อีกทั้งยังมีหินแกรนิตที่แกะสลักโดยธรรมชาติอายุนับพันปี ที่เรียกกันว่า หินเต่า (Turtle Rock) และมีรูปปั้นไดโนเสาร์เรียงรายอยู่ ซึ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวจำนวนมาก เหมาะกับกิจกรรมกลางแจ้งอย่าง การเดินป่า ปีนเขา ขี่ม้า และตั้งแคมป์เป็นอย่างยิ่งค่ะ
7. อารามเออร์ดีนซู (Erdene Zuu Monastery)
อารามเออร์ดีนซู (Erdene Zuu Monastery) เป็นอารามที่ตั้งอยู่ในเมืองโบราณ คาราโครัม (Karakorum) ซึ่งเป็นเมืองหลวงเก่าของจักรวรรดิมองโกล ถูกก่อตั้งขึ้นในปี 1585 และเป็นวัดพุทธที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศ โดยเปิดให้นักท่องเที่ยวสามารถชมสถาปัตยกรรม ศิลปะ และโบราณวัตถุอันเก่าแก่ของที่นี่ได้ค่ะ ด้วยบรรยากาศที่เงียบสงบ และความขลังของอารามแห่งนี้ ทําให้รู้สึกเหมือนดังต้องมนต์เลยแหละค่ะ
8. เทือกเขาอัลไต (Altai Tavan Bogd National Park)
เทือกเขาอัลไต (Altai Tavan Bogd National Park) เป็นอุทยานที่ตั้งอยู่ทางตะวันตกของมองโกเลีย มีชื่อเสียงในเรื่องทิวทัศน์ที่สวยงาม รวมถึงยอดเขาที่สูงที่สุดในมองโกเลีย นั่นคือ ยอดเขาคูอิเทน (Khüiten) โดยอุทยานแห่งนี้ตั้งชื่อตาม "ยอดเขาศักดิ์สิทธิ์ทั้งห้า" โดยหากใครได้มาที่นี่ต้องห้ามพลาดถ่ายรุปกับธารนํ้าเเข็งของที่นี่เลยค่ะ โดยเป็นธารนํ้าเเข็งที่ยาวสุดลูกหูลูกตา ขั้นอยู่ตรงกลางของภูเขาที่ถูกปกคลุมไปด้วยหิมะ นอกจากนี้ อุทยานแห่งนี้ยังเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่ามากมาย เช่น เสือดาวหิมะ แพะป่า และแกะอาร์กาลีที่หายากอีกด้วยค่ะ
9. ทะเลสาบเทอร์คินซากาอัน (Terkhiin Tsagaan Lake)
ทะเลสาบเทอร์คินซากาอัน (Terkhiin Tsagaan Lake) เป็นทะเลสาบที่มักเรียกกันว่าทะเลสาบภูเขาไฟ หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่าทะเลสาบสีขาวขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ทางตอนกลางของมองโกเลีย ใกล้กับภูเขาไฟ Khorgo ที่มอดดับไปเเล้ว โดยสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติเเห่งนี้ถูกล้อมรอบไปด้วยทัศนียภาพที่สวยงาม เหมาะแก่การมา ตกปลา พายเรือ และตั้งแคมป์เป็นอย่างยิ่งเลยค่ะ
10. เหมืองแร่ซากาน ซูวาร์กา (Tsagaan Suvarga mine)
เหมืองแร่ซากาน ซูวาร์กา (Tsagaan Suvarga mine) เป็นเหมืองเเร่ทองเเดงที่มักเรียกกันว่า "เจดีย์สีขาว" ตั้งอยู่ในจังหวัด Dornogovi ของมองโกเลีย เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่โดดเด่นและไม่เหมือนใคร ด้วยหน้าผาหินปูนหลากสีที่สูงถึง 60 เมตร ซึ่งถูกกัดเซาะตลอดหลายพันปีทำให้มีรูปร่างแปลกตา และเห็นเป็นชั้นต่างๆ ที่สวยงาม อีกทั้งยังมีโดยมีการค้นพบฟอสซิลของสัตว์ทะเลโบราณที่นี่อีกด้วย
บทส่งท้าย
มองโกเลีย ที่ซึ่งมีภูมิประเทศที่กว้างใหญ่ วัฒนธรรมเก่าเเก่ และธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ ทั้ง ๆ ที่แต่ละที่อาจจะดูแตกต่างกัน แต่เมื่อรวมกันแล้ว กลับกลายเป็นความหลากหลายน่าหลงใหลอย่างมากเลยค่ะ ถือเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจสําหรับใครหลายคนเลย สําหรับใครที่สนใจทัวร์ราคาสุดคุ้มสามารถแวะเข้าไปชมโปรแกรม ทัวร์มองโกเลีย กันได้ที่นี่เลยค่ะ