ทัวร์ไต้หวัน 2568 ราคาประหยัด พาเที่ยวครบทุกไฮไลท์

ไต้หวัน เป็นเกาะที่ตั้งอยู่ในมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันตกเฉียงเหนือ มีวัฒนธรรมที่หลากหลายและประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน มีเมืองหลวงคือกรุงไทเป ซึ่งเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและการเมืองของประเทศ อีกทั้งยังเป็นที่รู้จักในเรื่องของเทคโนโลยีล้ำสมัยและอุตสาหกรรมการผลิตที่มีคุณภาพสูง นอกจากนี้ยังมีธรรมชาติที่งดงาม เช่น ภูเขา ทะเลสาบ และชายหาด ทำให้เป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจสำหรับนักท่องเที่ยวทั่วโลก

ข้อมูลเบื้องต้นก่อนไปเที่ยวไต้หวัน

การขอวีซ่า

ก่อนออกเดินทางท่องเที่ยวไต้หวันด้วยทัวร์ไต้หวัน มาเตรียมตัวกับข้อมูลสำคัญก่อนเดินทาง สำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทย การเดินทางเข้าไต้หวันนั้นสะดวกสบาย เนื่องจากไม่ต้องขอวีซ่า สามารถพำนักได้ไม่เกิน 90 วัน ระยะเวลาการเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง มีสายการบินบินตรงจากกรุงเทพฯ ไปไต้หวันหลายสายการบิน

อัตราการแลกเปลี่ยนสกุลเงิน

สกุลเงินที่ใช้ในไต้หวันคือ ดอลลาร์ไต้หวัน (NT$) โดยอัตราแลกเปลี่ยนประมาณ 1 NT$ = 1.15 บาทไทย ทำให้ค่าใช้จ่ายค่อนข้างถูกเมื่อเทียบกับสกุลเงินบาท อย่างไรก็ตาม อัตราแลกเปลี่ยนสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามสถานการณ์เศรษฐกิจโลกและนโยบายการเงินของไต้หวัน

การเดินทางท่องเที่ยวในไต้หวัน

ที่ใต้หวันมีระบบคมนาคมที่สะดวกสบาย รถไฟความเร็วสูง (THSR) ที่เชื่อมต่อเมืองหลักต่าง ๆ ทั่วประเทศ และรถไฟธรรมดา (TRA) ที่ครอบคลุมพื้นที่ชนบท นอกจากนี้ยังมีรถไฟฟ้าใต้ดิน (MRT) ในเมืองไทเปและเกาสง รวมถึงรถบัสท้องถิ่นที่เข้าถึงสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ได้อย่างสะดวก จะเลือกนั่งรถเช่ามือสองก็สามารถทำได้ ขึ้นอยู่กับรูปแบบการท่องเที่ยวที่เลือก

สภาพภูมิอากาศของไต้หวัน

ด้านสภาพอากาศของไต้หวันนั้น แบ่งได้เป็น 4 ฤดู ได้แก่

• ฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม - พฤษภาคม): อากาศค่อนข้างอบอุ่นและแจ่มใส เหมาะกับการท่องเที่ยวชมทัศนียภาพและวัฒนธรรม อุณหภูมิเฉลี่ย 20-22 องศาเซลเซียส
• ฤดูร้อน (มิถุนายน - สิงหาคม): อากาศร้อนชื้น บางครั้งอาจมีพายุและฝนตกหนัก ควรเลี่ยงการเดินทางในช่วงนี้หากไม่จำเป็น อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 30 องศาเซลเซียส
• ฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน - ธันวาคม): อากาศเริ่มเย็นสบาย เป็นหนึ่งในฤดูกาลท่องเที่ยวที่นิยม อุณหภูมิเฉลี่ย 20-25 องศาเซลเซียส
• ฤดูหนาว (มกราคม - กุมภาพันธ์): อากาศหนาวเย็น บางพื้นที่อาจมีหิมะปกคลุม เหมาะสำหรับการชมวิวทิวทัศน์หิมะและท่องเที่ยวแหล่งธรรมชาติ อุณหภูมิเฉลี่ย 15 องศาเซลเซียส

โดยนักท่องเที่ยวนิยมเดินทางด้วยทัวร์ไต้หวันในช่วงฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วง ซึ่งมีอากาศที่เหมาะสมต่อการท่องเที่ยว ทำให้สามารถสัมผัสประสบการณ์ท่องเที่ยวในไต้หวันได้อย่างแท้จริง

วัฒนธรรมอาหารของไต้หวัน

วัฒนธรรมอาหารของไต้หวันเป็นการผสมผสานระหว่างอิทธิพลจากจีนแผ่นดินใหญ่และอาหารท้องถิ่นของชนพื้นเมืองไต้หวัน เช่น บะหมี่เนื้อ ข้าวหมูพะโล้ และหมั่นโถว ตลาดกลางคืนอย่างซื่อหลินและเหราเหอ ก็เป็นแหล่งรวมอาหารที่หลากหลาย ตั้งแต่เต้าหู้เหม็น หอยทอด ไปจนถึงชาไข่มุกที่เป็นที่นิยม ทำให้นักท่องเที่ยวและนักชิมจากทั่วโลกต่างหลงใหลและอยากมาลองสักครั้งในชีวิต

รวม 13 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม ทัวร์ไต้หวัน ต้องไปให้ได้ในปี  2568

1.เส้นทางรถไฟโบราณสายผิงซี (Pingxi Line)

สถานีรถไฟประเทศไต้หวันแต่ละสถานีนั้นต่างก็มีเอกลักษณ์แตกต่างกันไป แม้จะตั้งอยู่ในเมืองนิวไทเป ที่ขึ้นชื่อเรื่องความทันสมัย แต่การได้ได้ลองมาสัมผัสประสบการณ์การนั่งรถไฟชมวิวบนรถไฟโบราณสายนี้ เป็นเส้นทาง รถไฟโบราณสายผิงซี (Pingxi Line) เป็นหนึ่งในเส้นทางรถไฟยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสกับบรรยากาศย้อนยุคและทิวทัศน์ธรรมชาติของไต้หวัน รถไฟสายนี้เริ่มต้นจากสถานีรถไฟซินเตี้ยน (Sandiaoling) และสิ้นสุดที่สถานีจิงทง (Jingtong) ผ่านสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญหลายแห่ง เช่น หมู่บ้านโบราณชิเฟิน (Shifen Old Street) ที่มีชื่อเสียงในการปล่อยโคมลอย และน้ำตกชิเฟิน (Shifen Waterfall) ที่งดงาม

2.หมู่บ้านโบราณจิ่วเฟิ่น (Jiufen)

หมู่บ้านโบราณจิ่วเฟิ่น (Jiufen) เป็นหมู่บ้านเก่าแก่ที่ตั้งอยู่บนเนินเขาในเขตนิวไทเปของไต้หวัน ที่มีชื่อเสียงด้วยถนนแคบ ๆ และบันไดที่เรียงรายไปด้วยร้านค้าขายของที่ระลึก ร้านชา และร้านอาหารท้องถิ่น บรรยากาศของจิ่วเฟิ่นมีเอกลักษณ์และเสน่ห์เฉพาะตัว อบอวลไปด้วยกลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่น โดยเฉพาะในช่วงค่ำที่โคมไฟแดงที่ประดับตามถนนส่องสว่างสร้างบรรยากาศที่โรแมนติกและน่าตื่นตาตื่นใจ ซึ่งกลายมาเป็นแรงบัลดาลใจของภาพยนตร์แอนิเมชันชื่อดังจากญี่ปุ่นอย่าง “Spirited Away” อีกทั้งที่จิ่วเฟิ่นยังเป็นสวรรค์ของนักกินตัวยง อาหารคาวหวานหลากหลายประเภทเรียงรายละลานตา เรียกได้ว่า ผสมผสานบรรยากาศโรแมนติกและของกินได้อย่างลงตัวเลยทีเดียว

3.อุทยานเย่หลิว (Yehliu Geopark)

อุทยานเย่หลิว (Yehliu Geopark) ตั้งอยู่ที่เมืองนิวไทเปของไต้หวัน เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีชื่อเสียงระดับโลก ด้วยลักษณะภูมิประเทศที่เป็นเอกลักษณ์และงดงาม หินปูนและหินทรายที่ถูกกัดเซาะด้วยน้ำทะเลและลมมานานนับล้านปี จนเกิดเป็นรูปทรงที่หลากหลายและน่าตื่นตาตื่นใจ หนึ่งในจุดเด่นของอุทยานเย่หลิวคือ “หินราชินี” (Queen's Head) ที่มีรูปร่างคล้ายหัวของราชินี และเป็นสัญลักษณ์ของอุทยาน นอกจากนี้ยังมีหินรูปทรงอื่น ๆ นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมทิวทัศน์และถ่ายภาพกับหินเหล่านี้ได้อย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งเรียนรู้เกี่ยวกับกระบวนการทางธรรมชาติที่ก่อให้เกิดลักษณะหินที่แปลกตาเหล่านี้ได้อีกด้วย

4.ทะเลสาบสุริยันจันทรา (Sun Moon Lake)

ทะเลสาบสุริยันจันทรา (Sun Moon Lake)

5.วัดพระถังซำจั๋ง (Xuanzang Temple)

วัดพระถังซำจั๋ง (Xuanzang Temple) หลายคนอาจจะคุ้นชื่อกันในชื่อวัดสวนกวง โดยที่นี่จะมีนักท่องเที่ยวมากราบไว้สักการะไม่ขาดสายตลอดปี ตั้งอยู่ทางตอนใต้บริเวณริมทะเลสาบสุริยันจันทรา บนเนินเขาเล็ก ๆ ที่สามารถมองเห็นวิวทะเลสาบสุริยันจันทราได้อย่างชัดเจน ในวัดนี้มีศาลาประดิษฐานพระพุทธรูปและพระบรมสารีริกธาตุ รวมถึงรูปปั้นพระถังซำจั๋งที่เป็นที่เคารพนับถือของชาวพุทธนอกจากนี้ยังมีเรื่องราวเกี่ยวกับการไปอัญเชิญพระไตรปิฎกจากอินเดียจัดแสดงอยู่ในบริเวณวัดอีกด้วย ใครเป็นนักท่องเที่ยวสายบุญอย่าลืมแวะมากราบไหว้กันนะ

6.วัดเหวินหวู่ (Wenwu Temple)

อีกหนึ่งวัดที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากทะเลสาบสุริยันจันทรา คือ วัดเหวินหวู่ (Wenwu Temple) อยู่ระหว่างเขาทางทิศเหนือ เรียกกันอีกชื่อว่าวัดกวนอู วัดแห่งนี้เป็นวัดที่มีความสำคัญและงดงามด้วยสถาปัตยกรรมที่ยิ่งใหญ่และประณีต สร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์ชิง และได้มีการปรับปรุงและขยายต่อมาเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น ภายในวัดมีรูปปั้นของขงจื้อและเทพกวนอู ซึ่งมีความเชื่อว่าใครที่บูชาเทพกวนอู จะประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน จึงเป็นอีกหนึ่งสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวไต้หวันให้ความเคารพนับถือ

7.อุทยานแห่งชาติเขาอาลีซาน (Alishan Forest Recreation Area)

หากคุณรักในการชมธรรมชาติ อุทยานแห่งชาติเขาอาลีซาน (Alishan Forest Recreation Area) เป็นอีกที่ที่ควรเป็นจุดหมายสำคัญในการเดินทางมา ตั้งอยู่ในเขตเจียอี้ (Chiayi County) ของไต้หวัน เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงที่สุดของประเทศ โดยมีธรรมชาติที่งดงามและอากาศบริสุทธิ์ อาลีซานเป็นที่รู้จักในเรื่องของทิวทัศน์ภูเขาที่สวยงาม ป่าสนขนาดใหญ่ แถมยังมีกิจกรรมไฮไลต์อย่างชมหมอกบนยอดเขาในช่วงเช้า และชมพระอาทิตย์ขึ้นที่จุดชมวิวจูซาน อีกทั้งยังมีบริการนั่งรถไฟผจญภัยไต่เขาอีกด้วย

8.ตลาดกลางคืนฝงเจี่ย (Feng Chia Night Market)

ตลาดกลางคืนฝงเจี่ย (Feng Chia Night Market) เป็นตลาดกลางคืนที่ใหญ่ที่สุดและมีชื่อเสียงที่สุดในเมืองไถจงของไต้หวัน ตั้งอยู่ใกล้กับมหาวิทยาลัยฝงเจี่ย (Feng Chia University) ทำให้ตลาดนี้เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักศึกษาและนักท่องเที่ยว โดยตลาดกลางคืนฝงเจี่ยมีบรรยากาศที่คึกคักและเต็มไปด้วยชีวิตชีวา โดยมีร้านค้ามากมายที่ขายของที่ระลึก เสื้อผ้า เครื่องประดับ และสินค้าแฟชั่นต่าง ๆ นอกจากนี้ยังมีร้านอาหารและแผงขายอาหารข้างทางที่น่าสนใจมากมาย ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถลิ้มลองอาหารท้องถิ่นหลากหลายชนิดอีกด้วย

9.วัดหลงซาน (Lungshan Temple)

หนุ่มโสดหรือสาวโสดเตรียมจดลง Bucket List กันไว้เลย เนื่องจาก วัดหลงซาน (Lungshan Temple) แห่งนี้โด่งดังมาก ๆ ในเรื่องการขอพรความรักให้สมหวังดั่งใจปรารถนา โดยวัดหลงซานมีอายุเก่าแก่กว่า 300 ปี เป็นวัดเก่าแก่และสำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของไต้หวัน สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1738 เพื่อบูชาเจ้าแม่กวนอิม (Guanyin) เทพเจ้าแห่งความเมตตา และในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 วัดแห่งนี้ไม่ได้รับความเสียหายใด ๆ แม้แต่นิด ทำให้ชาวไต้หวันเกิดความศรัทธาอย่างมาก นอกจากด้านความรักแล้วก็ยังสามารถข้อพรในเรื่องอื่น ๆ ได้เช่นกัน อย่าง การเรียน การงาน สุขภาพ เป็นต้น

10.ย่านซีเหมินติง (Ximending)

ย่านซีเหมินติง (Ximending) เป็นย่านช้อปปิ้งและบันเทิงที่มีชีวิตชีวาและคึกคักที่สุดแห่งหนึ่งในกรุงไทเป ไต้หวัน เปรียบเสมือน “ชิบูย่า” ของโตเกียว หรือ “สยาม” ของไทย ที่นี่เป็นแหล่งรวมของร้านค้า แฟชั่น อาหาร สถานบันเทิง และกิจกรรมทางวัฒนธรรมที่หลากหลาย ทำให้เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวและคนท้องถิ่น โดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่น การเดินทางมาก็ง่ายมาก ๆ เพราะตั้งอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟ Xiamen Metro Station ไม่ว่าจะช็อปจนดึกดื่นแค่ไหน ก็เดินทางไปกลับได้อย่างสะดวก

11.ตึกไทเป 101 (Taipei 101)

ตึกไทเป 101 (Taipei 101) สิ่งก่อสร้างแลนด์มาร์กที่มีชื่อเสียงระดับโลก ด้วยความสูงของตึก 508 เมตร และมีจำนวนชั้นมากถึง 101 ชั้น ทำให้ตึกแห่งนี้เป็นตึกที่สูงที่สุดในโลกในช่วงปี ค.ศ. 2004 - 2010 อีกทั้งสถาปัตยกรรมภายในก็ถูกออกแบบมาอย่างสวยงามประณีต นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไปชมวิวที่จุดชมวิวบนชั้นที่ 89 และ 91 ซึ่งจุดนี้จะสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ที่งดงามของกรุงไทเปได้ทั้งหมด นอกจากนี้ยังมีชั้นที่ 88 ที่แสดงลูกตุ้มขนาดใหญ่ ที่ช่วยลดแรงสั่นสะเทือนของอาคารในกรณีที่เกิดแผ่นดินไหวหรือพายุลมแรงอีกด้วย

12.หมู่บ้านสายรุ้ง (Rainbow Village)

หมู่บ้านสายรุ้ง (Rainbow Village) นับเป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไต้หวันและนักท่องเที่ยวต่างชาติ เรื่องราวของหมู่บ้านสายรุ้งเริ่มขึ้นจากการวาดภาพศิลปะของฝีมือ “คุณตาสายรุ้ง” ที่เริ่มวาดภาพบนกำแพงและพื้นของหมู่บ้านเพื่อป้องกันการรื้อถอนและรักษาความทรงจำของชุมชน เขาได้ใช้ศิลปะในการสร้างสรรค์ภาพวาดที่มีสีสันสดใสและลวดลายน่ารักตามมุมต่าง ๆ ของบ้านเมือง ทำให้หมู่บ้านสายรุ้งกลายเป็นสถานที่ที่มีเสน่ห์และดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก

13.พิพิธภัณฑ์แห่งชาติกู้กง (National Palace Museum)

ปิดท้ายกันด้วย พิพิธภัณฑ์พระราชวังแห่งชาติกู้กง (National Palace Museum) เป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์ที่สำคัญและมีชื่อเสียงที่สุดในโลก โดยมีการจัดแสดงศิลปวัตถุและโบราณวัตถุจีนที่มีค่ามากมาย และเก็บรักษาสมบัติล้ำค่าที่ถูกนำมาจากพระราชวังกู้กงในกรุงปักกิ่งเมื่อครั้งสงครามกลางเมืองจีน ภายในพิพิธภัณฑ์มีการจัดแสดงศิลปวัตถุมากกว่า 700,000 ชิ้น ซึ่งครอบคลุมช่วงเวลาประวัติศาสตร์จีนหลายพันปี ตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์จนถึงราชวงศ์ชิง นอกจากการจัดแสดงพิพิธภัณฑ์แห่งชาติกู้กงยังมีการจัดนิทรรศการชั่วคราวที่เปลี่ยนแปลงไปตามฤดูกาล และกิจกรรมทางวัฒนธรรมต่าง ๆ เพื่อส่งเสริมความรู้และความเข้าใจในศิลปะและวัฒนธรรมจีนมากยิ่งขึ้น

บทส่งท้าย

ไต้หวัน ถือเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์การท่องเที่ยวสุดพิเศษที่ทั้งสนุกและคุ้มค่า ด้วยสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม ทิวทัศน์และวัฒนธรรมที่น่าค้นหา อีกทั้ง Travelzeed มีโปรแกรม ทัวร์ไต้หวัน ที่ออกแบบมาให้เที่ยวครบทุกจุดสำคัญในราคาประหยัด เหมาะสำหรับทุกคนในครอบครัว ที่พร้อมสัมผัสประสบการณ์การเดินทางครั้งพิเศษในปีนี้ ที่บอกเลยว่าห้ามพลาด!