Japan Tokyo Narita Nikko Sendai Fukushima Mount Zao - ทัวร์ญี่ปุ่น โตเกียว นาริตะ นิกโก้ เซนได ฟุกุชิมะ ภูเขาซาโอะ ขึ้นกระเช้าลอยฟ้า
Japan Tokyo Sendai Ibaraki - ทัวร์ญี่ปุ่น โตเกียว เซนได อิบารากิ ตะลุยแดนหิมะ
Japan Sendai Zao Ski - ทัวร์ญี่ปุ่น เรียล เรียล...เซนได ปีศาจหิมะ ปะทะ ความหนาว
Japan Sendai Ouchi Juku Village Snow Festival - ทัวร์ญี่ปุ่น เซนได เทศกาลหิมะหมู่บ้านโบราณโออุจิ จุคุ
เซนได (Sendai) เป็นเมืองหลวงที่ตั้งอยู่ในจังหวัดมิยางิ ประเทศญี่ปุ่น เป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในของภูมิภาคโทโฮคุ และเป็นศูนย์กลางการปกครอง เศรษฐกิจ และวัฒนธรรม จุดเด่นของเซนไดคือ “เมืองแห่งต้นไม้” เนื่องจากมีต้นไม้เขียวขจีรายล้อมอยู่โดยรอบและสวนสาธารณะมากมาย อีกทั้งเมืองนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์มากมาย แต่ก่อนอื่นเราไปทำความรู้จักกับเซนไดกันคร่าว ๆ กันก่อนนะคะ
หากไปเที่ยวเซนไดช่วง เดือนเมษายน จะเป็นช่วงที่ดอกซากุระบานสะพรั่ง สวนสาธารณะอย่างสวนเซนได (Sendai City Park) และปราสาทเซนไดจะเต็มไปด้วยดอกซากุระสีชมพู และอีกหนึ่งช่วงเวลาที่นักท่องเที่ยวนิยมไปเที่ยว คือช่วง เดือนตุลาคม-เดือนพฤศจิกายน เพราะเป็นช่วงที่ใบไม้เปลี่ยนสีนั่นเอง
จังหวัดมิยางิตั้งอยู่ใกล้กับโตเกียว การเดินทางที่เร็วที่สุดต้องเดินทางด้วย รถไฟชินคันเซ็น จากสถานีโตเกียวไปถึงเซนได จะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที หากใครมีบัตร JR Pass หรือ Japan Rail Pass สามารถเข้าถึงจังหวัดมิยางิได้จากทุกที่ในญี่ปุ่นโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
นอกจากนี้ ยังสามารถเดินทางไปยังเซนไดได้ด้วย รถบัส รถยนต์ส่วนตัว รถไฟธรรมดา และทางอากาศอย่างเครื่องบิน ซึ่งถ้าเดินทางจากไทย สามารถจองตั๋วบินกับสายการบินต่าง ๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็น แอร์เอเชีย การบินไทย เป็นต้น
เมืองแห่งต้นไม้ในภูมิภาคโทโฮคุของญี่ปุ่น เป็นสถานที่ที่ผสมผสานระหว่างประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และธรรมชาติอย่างลงตัว ใช้เวลาเดินทางเพียงไม่กี่ชั่วโมงจากโตเกียว แล้วทุกคนจะได้สัมผัสกับความงดงามของสวนสาธารณะที่ร่มรื่น และเทศกาลต่าง ๆ พร้อมทั้งชมวิวทิวทัศน์ที่งดงามในทุกฤดูกาล วันนี้ Travelzeed ได้คัดมาให้แล้ว จะมีที่ไหนบ้าง ไปชมกันเลย!
ปราสาทอาโอบะ (Aoba Castle) หรือที่รู้จักกันในชื่อ ปราสาทเซนได (Sendai Castle) ถูกสร้างโดย ดาเตะ มาซามุเนะ (Date Masamune) ซึ่งเป็นไดเมียวที่มีอิทธิพลในยุคนั้น เมื่อ 400 ปีก่อน เป็นปราสาทเก่าแก่ที่ตั้งอยู่บนเนินเขาอาโอบะในเมืองเซนได ปัจจุบันเหลือเพียงเศษซากกำแพงหินด้านนอก และได้มีการสร้างบางส่วนของปราสาทขึ้นใหม่ จุดเด่นของที่นี่ คือ รูปปั้นดาเตะ มาซามุเนะ (Date Masamune Statue) ที่เป็นสัญลักษณ์ของเมืองเซนไดและปราสาทอาโอบะ ที่สร้างขึ้นเพื่อรำลึกและให้เกียรติแก่ ดาเตะ มาซามุเนะ ที่สวมชุดเกราะซามูไรและหมวกที่มีสัญลักษณ์ดวงจันทร์ครึ่งเสี้ยวนั่นเอง
อาคิอุออนเซ็น (Akiu Onsen) เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวและแหล่งน้ำพุร้อนที่มีชื่อเสียงในเมืองเซนได จังหวัดมิยางิ ที่นี่มีประวัติความเป็นมายาวนานตั้งแต่สมัยโบราณ อาคิอุออนเซ็นมีลักษณะเด่น คือ บรรยากาศธรรมชาติที่งดงาม รายล้อมไปด้วยป่าไม้และแม่น้ำ ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถผ่อนคลายและเพลิดเพลินกับความสงบของธรรมชาติ น้ำพุร้อนของอาคิอุมีคุณสมบัติช่วยบำบัดรักษาโรคหลายชนิด เช่น อาการปวดกล้ามเนื้อ โรคผิวหนัง และการปรับปรุงการไหลเวียนของเลือด นอกจากนี้ อาคิอุออนเซ็นยังมีสถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง อย่าง น้ำตกอาคิอุ (Akiu Great Falls) ซึ่งเป็นน้ำตกที่มีความสูงถึง 55 เมตร และเป็นหนึ่งในน้ำตกที่มีความสวยงามที่สุดในญี่ปุ่นอีกด้วย
ซาคุนามิ ออนเซ็น (Sakunami Onsen) ตั้งอยู่ในเมืองเซ็นได จังหวัดมิยางิ เป็นที่รู้จักสำหรับน้ำพุร้อนที่มีคุณภาพสูงและบรรยากาศธรรมชาติที่งดงาม โดยรอบล้อมไปด้วยภูเขาและแม่น้ำฮิโรเสะ ที่นี่มีประวัติศาสตร์ยาวนานและเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวที่ต้องการพักผ่อนในธรรมชาติและเพลิดเพลินกับการแช่น้ำพุร้อน จุดเด่นของซาคุนามิ ออนเซ็น คือ น้ำแร่ธรรมชาติที่มีสรรพคุณในการบำบัดรักษาร่างกาย เช่น ช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อและข้อ และช่วยให้ผิวพรรณเนียนนุ่ม นอกจากนี้ยังมีที่พักหลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่เรียวกังดั้งเดิมไปจนถึงโรงแรมทันสมัย ที่พักส่วนใหญ่จะมีห้องอาบน้ำส่วนตัวที่สามารถชมวิวธรรมชาติได้อีกด้วย
หมู่บ้านสุนัขจิ้งจอกซาโอะ (Zao Fox Village) เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจและไม่เหมือนใคร ตั้งอยู่บนภูเขาในเซนได จังหวัดมิยางิ ภูมิภาคโทโฮคุ ที่นี่เป็นที่อยู่อาศัยของสุนัขจิ้งจอกหลายสายพันธุ์ ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชมและเล่นกับน้อง ๆ สุนัขจิ้งจอกได้อย่างใกล้ชิด โดยที่สามารถให้อาหารได้ด้วย หากใครห่วงเรื่องสุขอนามัย บอกเลยว่าไม่ต้องห่วง เพราะน้องสุนัขจิ้งจอกของที่นี่ได้รับการดูแลเป็นอย่างดี ที่นี่สามารถมาเที่ยวได้ตลอดทั้งปี แต่แนะนำให้มาช่วงฤดูหนาวใน เดือนธันวาคม-กุมภาพันธ์ เพราะน้องสุนัขจิ้งจอกที่นอนเล่นบนหิมะฟู ๆ ทำให้ดูน่ารัก น่าถ่ายรูป บรรยากาศดีสุด ๆ ใครมาเที่ยวไม่ผิดหวังแน่นอน!
ภูเขาไฟซาโอะ (Mount Zao) เป็นภูเขาไฟที่ตั้งอยู่ระหว่างจังหวัดยามากาตะและจังหวัดมิยางิในภูมิภาคโทโฮ ห่างจากเซนไดประมาณ 60 กิโลเมตร เป็นหนึ่งในภูเขาที่มีชื่อเสียงและได้รับความนิยมในเรื่องการท่องเที่ยว ทั้งในช่วงฤดูร้อนและฤดูหนาว ภูเขาไฟซาโอะมีจุดเด่นที่สำคัญคือ ทะเลสาบโอกามะ (Okama Crater Lake) ซึ่งเป็นทะเลสาบปล่องภูเขาไฟที่มีรูปร่างคล้ายหม้อและมีน้ำสีเขียวอมฟ้า และอีกจุดเด่นของที่นี่คือ ในช่วงฤดูหนาวยังมีปรากฏการณ์ธรรมชาติที่เรียกว่า จูเฮียว (Juhyo) หรือ ปีศาจน้ำแข็ง (Snow Monster) ซึ่งเกิดจากต้นไม้ที่ถูกปกคลุมด้วยหิมะและน้ำแข็ง ทำให้มีลักษณะเหมือนปีศาจ หากมองบนกระเช้าลอยฟ้าจากมุมสูง ก็จะเห็นปีศาจหิมะสีขาวทั่วภูเขาที่ดูอลังการมากเลยทีเดียว
ศาลเจ้าโอซากิฮาจิมังกุ (Osaki Hachimangu Shrine) เป็นศาลเจ้าที่สำคัญและมีชื่อเสียงในเมืองเซนได จังหวัดมิยางิ ศาลเจ้าโอซากิฮาจิมังกุได้รับการยกย่องว่าเป็นสมบัติของชาติญี่ปุ่น เนื่องจากมีสถาปัตยกรรมที่งดงามและเป็นเอกลักษณ์ โครงสร้างของศาลเจ้ามีการใช้สีทองและสีดำเป็นหลัก นอกจากความงดงามของสถาปัตยกรรมแล้ว ศาลเจ้าโอซากิฮาจิมังกุยังเป็นที่รู้จักในฐานะสถานที่สำหรับการจัดเทศกาลและพิธีกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับศาสนาชินโต ซึ่งจัดขึ้นในเดือนมกราคมของทุกปีโดยผู้เข้าร่วมจะนำเครื่องรางและวัตถุมงคลต่างๆ ที่ใช้ในปีที่ผ่านมาไปเผาในกองไฟเพื่อเป็นการขอบคุณและขอพรให้มีความสุขและโชคดีในปีใหม่อีกด้วย
ซุยโฮเด็น (Zuihoden) สุสานแห่งนี้ตั้งอยู่บนภูเขาในเมืองเซนได จังหวัดมิยางิ สถาปัตยกรรมของซุยโฮเด็นมีลักษณะสวยงามและละเอียดอ่อน สร้างขึ้นในสไตล์โมโมยามะ (Momoyama) มีการตกแต่งด้วยสีทองและสีสันสดใส มีการแกะสลักลวดลายที่ประณีตและสวยงาม สุสานนี้ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1637 หลังจากถูกทำลายจากการทิ้งระเบิดในสงครามโลกครั้งที่ 2 ก็ได้รับการบูรณะในปี ค.ศ. 1979 นอกจากนี้ ซุยโฮเด็นยังมีพิพิธภัณฑ์ที่แสดงสิ่งของและประวัติความเป็นมาของตระกูลดาเตะ ทำให้ผู้เข้าชมสามารถเรียนรู้เรื่องราวและวัฒนธรรมของตระกูลดาเตะได้
เซ็นได ไดแคนนอน (Sendai Daikannon) เป็นรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมที่ตั้งอยู่ในเมืองเซนได รูปปั้นนี้เป็นหนึ่งในรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมที่สูงที่สุดในโลก โดยมีความสูงประมาณ 100 เมตร ทำให้เป็นจุดเด่นของเมืองเซนได ภายในองค์เจ้าแม่กวนอิม จะมีทั้งหมด 12 ชั้น ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไปชมวิวและเรียนรู้เกี่ยวกับพระพุทธศาสนา รวมไปถึงวิวที่สวยงามของเมืองเซนไดจากชั้นบนสุดของรูปปั้นได้ จึงเป็นหนึ่งในสถานที่ที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเที่ยวที่เซนไดเลย
หมู่บ้านออนเซ็นโบราณ (Ginzan Onsen) ตั้งอยู่ในภูเขาของจังหวัดยามากาตะ ห่างจากเซนไดประมาณ 1-2 ชั่วโมง มีชื่อเสียงในเรื่องความสวยงามแบบย้อนยุคที่ทำให้เหมือนกับเดินเข้าไปในภาพยังหมู่บ้านอาคารไม้เก่าในยุคไทโช ที่เรียงรายไปตามริมฝั่งแม่น้ำ ซึ่งในฤดูหนาว หมู่บ้านแห่งนี้จะถูกปกคลุมด้วยไปหิมะขาวโพลน ทำให้บรรยากาศยิ่งดูสวยงามขึ้นไปอีก บรรยากาศที่เงียบสงบและสวยงามของที่นี่ ทำให้เป็นที่นิยมสำหรับการมาพักผ่อนและการเดินชมในหมู่บ้านที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของญี่ปุ่นนั่นเอง
หุบเขานารุโกะ (Naruko Gorge) เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่งดงามและมีชื่อเสียงในจังหวัดมิยางิ ซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจากเมืองเซนได หุบเขาแห่งนี้เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติและเป็นจุดชมวิวที่ได้รับความนิยมอย่างมาก โดยเฉพาะในฤดูใบไม้ร่วงที่ใบไม้จะเปลี่ยนสีเป็นสีแดง สีส้ม และสีเหลือง ทำให้ทิวทัศน์ดูงดงามตระการตา หุบเขามีความยาวประมาณ 2.5 กิโลเมตร และมีความลึกประมาณ 100 เมตร นักท่องเที่ยวสามารถเดินตามเส้นทางเดินป่าที่จัดเตรียมไว้เพื่อชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม และสามารถมองเห็นแม่น้ำโอฮิระที่ไหลผ่านหุบเขา สะพานโอบะเคียว (Ofukazawa Bridge) ที่ทอดยาวข้ามหุบเขาก็เป็นจุดชมวิวที่น่าตื่นตาตื่นใจ และเป็นจุดถ่ายภาพที่นักท่องเที่ยวนิยมกันอย่างมาก
เซนไดเป็นสถานที่ที่ผสมผสานความเป็นมาอันยาวนานกับความเจริญรุ่งเรืองในปัจจุบันอย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็นการเดินเล่นในสวนสาธารณะอันร่มรื่น การเยี่ยมชมปราสาทและวัดวาอารามที่เก่าแก่ การลิ้มลองอาหารท้องถิ่น หรือจะเป็นการซื้อของฝากไปฝากคนที่บ้าน หากใครสนใจไปญี่ปุ่นแล้วล่ะก็ Travelzeed มีโปรแกรม ทัวร์เซนได ที่มีคุณภาพ ราคาดี รอให้ทุกคนมาจองแล้วไปสัมผัสประสบการณ์ดี ๆ กับพวกเรากันอยู่นะคะ!
ติดต่อ