ซินเจียง เป็นเขตปกครองตนเองในประเทศจีน ซึ่งตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ โดยมีชื่อเต็มว่า “เขตปกครองตนเองชนชาติอุยกูร์ซินเจียง” เป็นพื้นที่ที่มีขนาดใหญ่กว่า 1.6 ล้านตารางกิโลเมตร ซึ่งใหญ่กว่าประเทศไทยเกือบ 3 เท่าเลยทีเดียว และมีความหลากหลายทางวัฒนธรรมและชาติพันธุ์สูง โดยมีชนชาติอุยกูร์เป็นกลุ่มชนหลักที่อาศัยอยู่ในพื้นที่นี้ราว ๆ 12 ล้านคน
ซินเจียง มีสองส่วนจริงหรือ?
คำตอบคือ ใช่ค่ะ ซินเจียงแบ่งออกเป็นสองส่วนหลัก ๆ ตามลักษณะทางภูมิศาสตร์และการปกครอง ได้แก่
- ซินเจียงตอนเหนือ (Northern Xinjiang)
- ซินเจียงตอนใต้ (Southern Xinjiang)
การแบ่งส่วนเหล่านี้มีเหตุผลสำคัญดังนี้
- ภูมิประเทศและภูมิอากาศ : ภูมิประเทศและภูมิอากาศของซินเจียงตอนเหนือและตอนใต้มีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน ส่งผลให้วิถีชีวิตและการทำมาหากินของประชากรในแต่ละส่วนแตกต่างกัน
- วัฒนธรรมและประชากร : ซินเจียงตอนเหนือมีการผสมผสานของวัฒนธรรมและประชากรที่หลากหลายมากขึ้น ในขณะที่ซินเจียงตอนใต้มีชาวอุยกูร์เป็นประชากรส่วนใหญ่และมีวัฒนธรรมที่เฉพาะเจาะจง
- การพัฒนาเศรษฐกิจ : ซินเจียงตอนเหนือมีการพัฒนาอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีมากขึ้น ในขณะที่ซินเจียงตอนใต้เน้นการเกษตรและการค้าแบบดั้งเดิม
ซินเจียงมีชื่อเสียงในเรื่องอะไรมากที่สุด?
ซินเจียงมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และภูมิศาสตร์ โดยตั้งอยู่บน เส้นทางสายไหม (Silk Road) ซึ่งเป็นเส้นทางการค้าสำคัญที่เชื่อมต่อระหว่างเอเชียและยุโรปมาเป็นพันปี พื้นที่นี้ยังมีภูมิประเทศที่หลากหลาย ตั้งแต่ทะเลทราย ทุ่งหญ้า ไปจนถึงภูเขาสูง เช่น ภูเขาเทียนซาน
เที่ยวซินเจียง เดือนไหนดีที่สุด?
โดยปกติแล้ว ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเที่ยวซินเจียงคือช่วงเดือน พฤษภาคมถึงตุลาคม ซึ่งเป็นช่วงที่อากาศอบอุ่นและสบาย อีกทั้งยังเป็นช่วงธรรมชาติสวยที่สุด เหล่าดอกไม้ต่างพากันบานสะพรั่ง ทุ่งหญ้าเจริญเติบโตอย่างอุดมสมบูรณ์
โดยอุณหภูมิจะอยู่ระหว่าง 15°C ถึง 30°C และโดยทั่วไปช่วงกลางวันจะมีแดดจัดและแห้ง ซึ่งนี่เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมแก่การชมธรรมชาติสวย ๆ อย่าง ภูเขาเทียนซาน ทะเลทรายโกบี เป็นต้น
5 ที่เที่ยวซินเจียง ดินแดนสุดขอบประเทศจีน
1.ทะเลสาบคานาส (Kanas Lake)
ทะเลสาบคานาส หรือ คานาสือ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงในเขตปกครองตนเองซินเจียง อุยกูร์ ซึ่งมีความงดงามและเป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวและนักถ่ายภาพ เพราะที่ทะเลสาบแห่งนี้มีสิ่งที่แตกต่างจากที่อื่น ตรงที่น้ำในทะเลของคานาสือจะเปลี่ยนสีไปตามฤดูกาลและสภาพอากาศ ซึ่งแต่ละสีมีความสวยงามแตกต่างกันไป
คานาสือมีฉายาว่า “สวิตเซอร์แลนด์แดนมังกร” เพราะถ้าหากไปเที่ยวช่วงเดือนกันยายน ที่นี่จะเข้าสู่ช่วงฤดูใบไม้ร่วงหรือฤดูใบไม้เปลี่ยนสีนั่นเอง ซึ่งจะทำให้เราหลงใหลไปกับความสวยงามของธรรมชาติ ที่เต็มไปด้วยสีสัน สีเหลืองสลับส้ม อีกทั้งยังเป็นอีกหนึ่งจุดที่เป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยที่สุดในจีนอีกด้วย ให้บรรยากาศเหมือนกับอยู่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์เลยทีเดียว
2.คัชการ์ (Kashgar)
คัชการ์ เมืองโบราณอายุนับพันปีของซินเจียง ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศจีน ที่มีชายแดนติดกับหลายประเทศ จึงทำให้ที่นี่เต็มไปด้วยมีความหลากหลายทางวัฒนธรรม รวมถึงผู้คนที่อาศัยอยู่ที่นี่ อีกทั้งคัชการ์ยังมีความสำคัญทั้งทางด้านการค้าและวัฒนธรรม โดยเป็นหนึ่งในเมืองสำคัญบนเส้นทางสายไหมอีกด้วย
สิ่งที่ทำให้นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ต่างพากันมาที่นี่ เป็นเพราะที่นี่เป็น เมืองสุดท้ายที่สิ้นสุดเส้นทางสายไหมภายในประเทศจีน ซึ่งเป็นเส้นทางการค้าที่เชื่อมต่อระหว่างเอเชียและยุโรปมากกว่าพันปี นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวก็จะได้สัมผัสกับวัฒนธรรมของชาวอุยกูร์ที่เป็นเอกลักษณ์ ทั้งในด้านภาษา อาหาร และดนตรี ที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมต่างจากที่อื่นด้วยนั่นเอง
3.ทะเลสาบเทียนฉือ (Tianchi Lake)
ทะเลสาบเทียนฉือ ตั้งอยู่ที่เขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ของประเทศจีน ในเทือกเขาเทียนซาน โดยมีความสูงถึง 1,980 เมตรเหนือจากระดับน้ำทะเล มีความยาวประมาณ 3.4 กิโลเมตร และกว้างประมาณ 1.5 กิโลเมตร ซึ่งน้ำในทะเลสาบมีสีเขียวอมฟ้าและใสสะอาด เนื่องจากน้ำมาจากการละลายของหิมะในภูเขาเทียนซานนั่นเอง
ที่นี่ถูกขนานนามว่าเป็น “ทะเลสาบแห่งสรวงสวรรค์” เลยทีเดียว อีกทั้งยังเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติขึ้นชื่อของซินเจียงเหนือ ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจาก UNESCO อีกด้วย โดยกิจกรรมที่นิยมของที่นี่ คือ การเดินป่าหรือการล่องเรือในทะเลสาบเพื่อชมวิวที่สวยงามของทะเลสาบพร้อมกับวิวทิวทัศน์ของภูเขาหิมะเทียนซาน บอกเลยว่าสวยเหมือนไปเที่ยวยุโรปแน่นอน
4.หมู่บ้านเหอมู่ (Hemu Village)
หมู่บ้านเหอมู่ ตั้งอยู่ในป่าเขาลึกของเทือกเขาอัลไตทางตอนเหนือของเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ ได้ชื่อว่าเป็น “หมู่บ้านที่สวยที่สุดในฤดูใบไม้ร่วง” อีกทั้งยังเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวหลาย ๆ คนด้วย ซึ่งจุดเด่นของหมู่บ้านนี้ คือ หมอกในช่วงเช้าที่ลอยเหนือหมู่บ้านและฤดูใบไม้ร่วงที่ทำให้หมู่บ้านเหอมู่กลายเป็นที่ชมธรรมชาติดั่งภาพวาดที่สวยที่สุด
หมู่บ้านนี้รายล้อมไปด้วยภูเขาสูงตระหง่านและป่าเบิร์ชอันเขียวชอุ่ม ซึ่งน่าทึ่งเป็นพิเศษในฤดูใบไม้ร่วง ป่าเบิร์ชโดยรอบจะเปลี่ยนเป็นสีทองทุกปี หากใครรักธรรมชาติและการถ่ายภาพ บรรยากาศอันเงียบสงบและงดงามของบ้านไม้แบบดั้งเดิม ใครที่อยากจะมาพักจากเรื่องเครียด ๆ ผ่อนคลายไปกับธรรมชาติที่สวยงาม ที่หมู่บ้านเหอมู่ตอบโจทย์เลยแหละค่ะ
5.เมืองอีหนิง (Yining)
เมืองอีหนิง หรือที่รู้จักกันในชื่อจีนว่า เมืองอีหลี เป็นเมืองแห่งสวนดอกไม้ที่ตั้งอยู่ทางชายแดนตะวันตกเฉียงเหนือของเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ ซึ่งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีน เมืองนี้ตั้งอยู่กลางแม่น้ำอีหลีเหอ และอยู่ทางตะวันตกของภูเขาเทียนซาน นอกจากนี้เมืองอี้หนิงเป็นศูนย์กลางการคมนาคมทางบกระหว่างภาคตะวันและภาคตะวันออกของจีน อีกทั้งยังถือเป็นเมืองประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมระดับชาติอีกด้วย
มีการละเล่นของชนกลุ่มน้อยหลายชนิด เช่น การแข่งขันขี่ม้าและการแย่งแพะของชนเผ่าคาซัก ซึ่งเป็นวัฒนธรรมที่มีเอกลักษณ์ของเมืองอีหนิง นอกจากนี้ ที่เมืองอีหนิงมีทุ่งลาเวนเดอร์ที่บานสะพรั่งตามหุบเขาแม่น้ำอีหลีเหอสุดโด่งดังจนได้รับฉายาว่า The Most Beautiful Place in Xinjiang ด้วยนะ โดยจะเริ่มบานช่วง มิถุนายน-สิงหาคม เท่านั้น และยังมีที่ท่องเที่ยวอีกหลายแห่งอย่าง สวนสนุกไห่จิง ภูเขาหิมะ เป็นต้น