“ยุโรปตะวันออก มีประเทศอะไรบ้าง?” เป็นคำถามยอดฮิตที่หลายคนสงสัย เพราะภูมิภาคนี้เต็มไปด้วยวัฒนธรรมที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นความสวยงามเมืองเก่า และธรรมชาติสุดอลังการ บางประเทศอาจจะไม่คุ้นชื่อ แต่รับรองว่าทุกประเทศล้วนมีเสน่ห์เฉพาะตัวมากๆ
สำหรับบทความนี้ Travelzeed จะพาคุณไปสำรวจคำตอบของคำถามนี้กัน พร้อมเปิดลิสต์รายชื่อประเทศทั้งหมดใน ยุโรปตะวันออก ตามการจำแนกขององค์การสหประชาชาติ (UN)
ทำความรู้จัก ยุโรปตะวันออก กัน!
ยุโรปตะวันออก คือภูมิภาคหนึ่งของทวีปยุโรปที่มีความหลากหลายทางประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และภูมิประเทศ โดยในอดีตหลายประเทศเคยอยู่ภายใต้อิทธิพลของสหภาพโซเวียต ทำให้ยังคงมีร่องรอยของยุคคอมมิวนิสต์ผสมกับวัฒนธรรมท้องถิ่น
เปิดรายชื่อประเทศทั้งหมดในยุโรปตะวันออก
ตามการจำแนกของ United Nations Statistics Division (UNSD) ประเทศที่อยู่ในกลุ่มยุโรปตะวันออกมีทั้งหมด 10 ประเทศ ได้แก่
1. โปแลนด์ (Poland)
- เมืองหลวง : วอร์ซอว์ (Warsaw)
- สกุลเงิน : โซลอตี (Polish Zloty – PLN)
- จุดเด่น : ประเทศที่มีประวัติศาสตร์เข้มข้น โดยเฉพาะช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง มีทั้งเมืองเก่าที่สวยงามและธรรมชาติบริสุทธิ์
- อาหารท้องถิ่นแนะนำ : Pierogi (เกี๊ยวโปแลนด์), Bigos (สตูว์กะหล่ำปลีและเนื้อ)
- สถานที่ท่องเที่ยวแนะนำ : ปราสาทวาเวลในคราโคว, เมืองเก่าวอร์ซอว์, Auschwitz-Birkenau, เมือง Zakopane และเทือกเขา Tatra
ที่ตั้ง : ประเทศโปแลนด์
2. เช็ก (Czech Republic)
- เมืองหลวง : ปราก (Prague)
- สกุลเงิน : โครูนาเช็ก (Czech Koruna – CZK)
- จุดเด่น : มีชื่อเสียงในด้านสถาปัตยกรรมยุโรปยุคกลาง เบียร์ท้องถิ่น และความโรแมนติกของเมืองเก่า
- อาหารท้องถิ่นแนะนำ : Svíčková (สตูว์เนื้อราดซอสครีม), Trdelník (ขนมอบกลิ่นวานิลลา)
- สถานที่ท่องเที่ยวแนะนำ : ปราสาทปราก, สะพานชาร์ล, หอนาฬิกาดาราศาสตร์, เมืองคาร์โลวี วารี (Karlovy Vary)
ที่ตั้ง : ประเทศเช็ก
3. สโลวาเกีย (Slovakia)
- เมืองหลวง : บราติสลาวา (Bratislava)
- สกุลเงิน: ยูโร (Euro – EUR)
- จุดเด่น : ประเทศเล็กแต่ธรรมชาติยิ่งใหญ่ โดยเฉพาะเทือกเขา Tatra เหมาะสำหรับคนรักการเดินเขาและธรรมชาติ
- อาหารท้องถิ่นแนะนำ : Bryndzové halušky (เกี๊ยวมันฝรั่งกับชีสแพะ), Kapustnica (ซุปกะหล่ำปลี)
- สถานที่ท่องเที่ยวแนะนำ : ปราสาทบราติสลาวา, อุทยานแห่งชาติ High Tatras, ถ้ำ Domica
ที่ตั้ง : ประเทศสโลวาเกีย
4. ฮังการี (Hungary)
- เมืองหลวง : บูดาเปสต์ (Budapest)
- สกุลเงิน : โฟรินต์ฮังการี (Hungarian Forint – HUF)
- จุดเด่น : เมืองหลวงที่ได้รับฉายาว่า “ไข่มุกแห่งแม่น้ำดานูบ” มีแหล่งน้ำแร่และสถาปัตยกรรมที่งดงาม
- อาหารท้องถิ่นแนะนำ : Goulash (สตูว์เนื้อรสเผ็ด), Lángos (แป้งทอดราดซอสกระเทียม)
- สถานที่ท่องเที่ยวแนะนำ : อาคารรัฐสภาฮังการี, Fisherman’s Bastion, บ่อน้ำร้อนเซเชนี (Szechenyi Thermal Bath), สะพานเชน
ที่ตั้ง : ประเทศฮังการี
5. โรมาเนีย (Romania)
- เมืองหลวง : บูคาเรสต์ (Bucharest)
- สกุลเงิน: เลอูโรมาเนีย (Romanian Leu – RON)
- จุดเด่น : ประเทศแห่งปราสาทกลางหุบเขา มีเส้นทางขับรถที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของโลกและตำนานแดร็กคูล่า
- อาหารท้องถิ่นแนะนำ : Sarmale (กะหล่ำปลียัดไส้ข้าวและเนื้อ), Ciorbă de burtă (ซุปไส้)
- สถานที่ท่องเที่ยวแนะนำ : ปราสาทบราน (Bran Castle), ปราสาท Peles, เส้นทาง Transfagarasan, เมือง Sibiu และ Brasov
ที่ตั้ง : ประเทศโรมาเนีย
6. บัลแกเรีย (Bulgaria)
- เมืองหลวง : โซเฟีย (Sofia)
- สกุลเงิน: เลฟบัลแกเรีย (Bulgarian Lev – BGN)
- จุดเด่น : ผสมผสานระหว่างธรรมชาติ ภูเขา และเมืองเก่า มีชายฝั่งทะเลดำและประวัติศาสตร์โบราณ
- อาหารท้องถิ่นแนะนำ : Banitsa (ขนมอบชีส), Shopska salad (สลัดแตงกวา-มะเขือเทศแบบบัลแกเรีย)
- สถานที่ท่องเที่ยวแนะนำ : โบสถ์ Alexander Nevsky, เมือง Plovdiv, อาราม Rila, หุบเขากุหลาบ
ที่ตั้ง : ประเทศบัลแกเรีย
7. เบลารุส (Belarus)
- เมืองหลวง : มินสก์ (Minsk)
- สกุลเงิน : รูเบิลเบลารุส (Belarusian Ruble – BYN)
- จุดเด่น : ประเทศที่ยังคงกลิ่นอายของยุคโซเวียต มีความสงบและความสะอาดเป็นเอกลักษณ์
- อาหารท้องถิ่นแนะนำ : Draniki (แพนเค้กมันฝรั่ง), Machanka (สตูว์เนื้อหมูกับซอสครีม)
- สถานที่ท่องเที่ยวแนะนำ : ป้อม Mir Castle, ปราสาท Nesvizh, Victory Park, National Library of Belarus
ที่ตั้ง : ประเทศเบลารุส
8. มอลโดวา (Moldova)
- เมืองหลวง : คีชีเนา (Chișinău)
- สกุลเงิน : เลอูมอลโดวา (Moldovan Leu – MDL)
- จุดเด่น : สวรรค์ของนักดื่มไวน์ มีไวน์เซลล์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกและวัฒนธรรมพื้นบ้านที่ยังคงบริสุทธิ์
- อาหารท้องถิ่นแนะนำ : Plăcintă (พายยัดไส้ชีสหรือมันฝรั่ง), Mămăligă (โจ๊กข้าวโพดกับครีมและชีส)
- สถานที่ท่องเที่ยวแนะนำ : ไร่องุ่น Milestii Mici, ป้อม Soroca, หมู่บ้าน Orheiul Vechi
ที่ตั้ง : ประเทศมอลโดวา
9. รัสเซีย เฉพาะฝั่งยุโรป (Russia)
- เมืองหลวง : มอสโก (Moscow)
- สกุลเงิน : รูเบิลรัสเซีย (Russian Ruble – RUB)
- จุดเด่น : ประเทศที่มีขนาดใหญ่และหลากหลายด้านวัฒนธรรม เมืองหลวงมีสถาปัตยกรรมสุดอลังการและเป็นศูนย์กลางการเมือง
- อาหารท้องถิ่นแนะนำ : Borscht (ซุปบีทรูท), Pelmeni (เกี๊ยวเนื้อ)
- สถานที่ท่องเที่ยวแนะนำ : จัตุรัสแดง, เครมลิน, วิหารเซนต์บาซิล, พระราชวังฤดูร้อนเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก
ที่ตั้ง : ประเทศรัสเซีย
10. ยูเครน (Ukraine)
- เมืองหลวง : เคียฟ (Kyiv)
- สกุลเงิน : ฮรีฟเนียยูเครน (Ukrainian Hryvnia – UAH)
- จุดเด่น : มีวัฒนธรรมที่หลากหลายและประวัติศาสตร์ทางศาสนาอย่างลึกซึ้ง เมืองลาวิฟให้กลิ่นอายยุโรปตะวันตกในราคาประหยัด
- อาหารท้องถิ่นแนะนำ : Varenyky (เกี๊ยวไส้มันฝรั่งหรือชีส), Holubtsi (กะหล่ำปลียัดไส้)
- สถานที่ท่องเที่ยวแนะนำ : โบสถ์ St. Sophia, เมืองเก่าลาวิฟ, ปราสาท Kamianets-Podilskyi, Carpathian Mountains
ที่ตั้ง : ประเทศยูเครน
ทำไมต้องไปเที่ยวยุโรปตะวันออก?
- ประวัติศาสตร์อันยาวนาน: หลายประเทศผ่านสงครามและการเปลี่ยนแปลงการปกครอง ทำให้มีสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์จำนวนมาก
- วัฒนธรรมที่หลากหลาย: ผสมผสานอิทธิพลจากยุโรปตะวันตก เอเชีย และยุคโซเวียต
- ธรรมชาติที่งดงาม: ทั้งเทือกเขา ทะเลสาบ ทุ่งดอกไม้ และแม่น้ำสายใหญ่
- ค่าครองชีพไม่สูง: เทียบกับยุโรปตะวันตกแล้ว การเดินทาง ที่พัก และอาหารถือว่าคุ้มค่ามาก
ไกด์เที่ยวยุโรปตะวันออกฉบับเบื้องต้น
ประเทศแนะนำ สำหรับนักท่องเที่ยว
- โปแลนด์ : เหมาะสำหรับสายประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม
- ฮังการี : สำหรับคนชอบเมืองใหญ่ผสานธรรมชาติ และแช่น้ำร้อน
- โรมาเนีย : เหมาะกับผู้ที่ชอบภูเขา ปราสาท และตำนาน
- เช็ก : สำหรับสายโรแมนติก ชอบเดินชมเมืองเก่า
สิ่งที่ไม่ควรพลาด เมื่อไปเที่ยวยุโรปตะวันออก
- เยี่ยมชมเมืองเก่า เช่น ปราก ลาวิฟ และคราโคว
- ลิ้มลองอาหารท้องถิ่น เช่น Pierogi, Borscht, Goulash
- ร่วมงานเทศกาลท้องถิ่น เช่น เทศกาลดอกกุหลาบในบัลแกเรีย
Facebook Comments