เมื่อฤดูใบไม้ร่วงมาถึงฮอกไกโด ก็เหมือนกับการเปิดม่านมหัศจรรย์แห่งธรรมชาติเลยก็ว่าได้ค่ะ ไม่เพียงแต่นำความสวยงามออกมาให้ชม แต่ยังสร้างบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความสดชื่น และความอบอุ่นในเวลาเดียวกัน ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการชมใบไม้เปลี่ยนสีญี่ปุ่นในภูมิภาคนี้ คือ ช่วงปลายเดือนกันยายน – ต้นเดือนพฤศจิกายนค่ะ คุณลองจินตนาการตามสิค่ะว่า ในป่าเขียวขจีที่เริ่มเปลี่ยนเป็นสีทอง สีส้ม และสีแดง คุณจะรู้สึกเหมือนอยู่ในโลกใหม่ที่น่าหลงใหลขนาดไหน และวันนี้ TravelZeed จะมาอัพเดต จุดชมใบไม้เปลี่ยนสีในฮอกไกโดกันค่ะ (อัพเดต: 21/10/67) ถ้าพร้อมแล้วไปสำรวจกันค่ะ ว่าจะมีที่ไหนกันบ้าง!!!
!! Update !! สภาพใบไม้เปลี่ยนสี Hokkaido 2024
สถานที่ชมใบไม้เปลี่ยนสี |
สถานการณ์ปัจจุบัน (ณ วันที่ 21/10/67) |
ช่วงเวลาที่ดีที่สุด |
ประเภทใบไม้ |
สวนสาธารณะอาโอบะ (เมืองชิโตเสะ) |
เริ่มเปลี่ยนสี 70-80% ของทั้งหมด |
18-25 ตุลาคม |
เมเปิ้ล, แปะก๊วย ฯลฯ |
สวนสาธารณะอาซาฮิกาโอกะ |
เริ่มเปลี่ยนสี 70-80% ของทั้งหมด |
17-24 ตุลาคม |
ต้นเอโซยามาซากุระ |
สวนสาธารณะอาซาฮิยามะ |
เริ่มเปลี่ยนสี 70-80% ของทั้งหมด |
16-25 ตุลาคม |
ต้นเอโซยามะซากุระ |
หุบเขาเอนิวะ |
เริ่มเปลี่ยนสี 60% ของทั้งหมด |
18-25 ตุลาคม |
เอล์มญี่ปุ่น, แปะก๊วย โอ๊ค Quercus, เมเปิ้ล เบิร์ช |
สวนโอโดริ |
เริ่มเปลี่ยนสี 50% ของสีทั้งหมด |
25 ตุลาคม – 4 พฤศจิกายน |
ต้นเมเปิลญี่ปุ่น, ต้นเมเปิลญี่ปุ่น, ชูการ์เมเปิล, แปะก๊วย ฯลฯ |
สวนสาธารณะโอนุมะ |
เริ่มเปลี่ยนสี 60% ของทั้งหมด |
22-31 ตุลาคม |
เมเปิ้ลญี่ปุ่น, เมเปิ้ลญี่ปุ่น, บีช, โอ๊ค, ลาร์ช ฯลฯ |
สวนสาธารณะโอตารุ |
ยังเขียวอยู่ |
29 ตุลาคม |
เมเปิ้ล, แปะก๊วย, โดดัน สึสึจิ, นิชิกิกิ |
สวนสาธารณะโอนิอุชิ |
เริ่มเปลี่ยนสี 20% ของทั้งหมด |
25 ตุลาคม – 4 พฤศจิกายน |
ซากุระ |
สวนคากุระโอกะ |
เริ่มเปลี่ยนสี 70-80% ของทั้งหมด |
19 ตุลาคม |
ต้นเมเปิลญี่ปุ่น คัตสึระ |
ป่าบีชดึกดำบรรพ์ที่ราบสูง Garo |
เริ่มเปลี่ยนสี 70-80% ของทั้งหมด |
19 ตุลาคม |
บีช |
อดีตสวนอิวาฟุเนะ (โคเซทสึเอ็น) |
ยังเขียวอยู่ |
2 พฤศจิกายน |
เมเปิ้ลญี่ปุ่น, เมเปิ้ลญี่ปุ่น, เมเปิ้ลญี่ปุ่น, แปะก๊วย, ต้นสนชนิดหนึ่ง ฯลฯ |
กระเช้าลอยฟ้าซัปโปโรโมอิวะ |
เริ่มเปลี่ยนสี 70-80% ของทั้งหมด |
16-25 ตุลาคม |
เฟอร์ Sakhalin, เฟอร์สก็อต, เมเปิ้ลญี่ปุ่น, ต้นโอ๊กญี่ปุ่น ฯลฯ |
ทะเลสาบชูมาริไน |
เริ่มเปลี่ยนสี 70-80% ของทั้งหมด |
16-25 ตุลาคม |
เบิร์ช, โอ๊ค, โรวัน, เชอร์รี่ |
โจซังเค ออนเซ็น |
เริ่มเปลี่ยนสี 70-80% ของทั้งหมด |
16-29 ตุลาคม |
เมเปิ้ล, เมเปิ้ล, คัตสึระ, เชอร์รี่, จีน, ไม้เลื้อยพิษ, องุ่นป่า ฯลฯ |
ทะเลสาบชิเรโตโกะโกโค |
เริ่มเปลี่ยนสี 70-80% ของทั้งหมด |
16-22 ตุลาคม |
โรวัน, เมเปิ้ลญี่ปุ่น, โอ๊กญี่ปุ่น, เมเปิ้ลญี่ปุ่น |
ทะเลสาบโทยะ |
เริ่มเปลี่ยนสี 70-80% ของทั้งหมด |
20 ตุลาคม – 5 พฤศจิกายน |
เมเปิ้ล, เมเปิ้ล, โรวัน, บีช, เบิร์ช |
สวนสาธารณะโทคิวะ |
เริ่มเปลี่ยนสี 70-80% ของทั้งหมด |
16-25 ตุลาคม |
– |
สวนสาธารณะนากาจิมะ |
เริ่มเปลี่ยนสี 60% ของทั้งหมด |
24 ตุลาคม – 13 พฤศจิกายน |
แปะก๊วย เมเปิ้ลร้องไห้ เชอร์รี่ เบิร์ช เมเปิ้ล |
โนโบริเบ็ตสึออนเซ็น |
เริ่มเปลี่ยนสี 40% ของทั้งหมด |
20 ตุลาคม – 1 พฤศจิกายน |
โรวัน, ซูแมคภูเขา, เมเปิ้ลภูเขา |
สวนสาธารณะฮาโกดาเตะ |
ยังเขียวอยู่ |
30 ตุลาคม – 9 พฤศจิกายน |
เมเปิ้ล เมเปิ้ล ฯลฯ |
ต้นแปะก๊วยมหาวิทยาลัยฮอกไกโด |
เริ่มเปลี่ยนสี 500% ของทั้งหมด |
30 ตุลาคม – 9 พฤศจิกายน |
แปะก๊วย biloba |
สวนหน้าอาคารรัฐบาลเก่าฮอกไกโด |
ยังเขียวอยู่ |
29 ตุลาคม – 10 พฤศจิกายน |
แปะก๊วย เมเปิ้ล เมเปิ้ล ป็อปลาร์ |
สวนสาธารณะมารุยามะ |
เริ่มเปลี่ยนสี 20% ของทั้งหมด |
22 – 28 ตุลาคม |
คัตสึระ, อาซาดะ, เมเปิ้ลญี่ปุ่น, เมเปิ้ลญี่ปุ่น, ต้นซากุระ ฯลฯ |
แนะนำจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีญี่ปุ่นในฮอกไกโด
1. สวนสาธารณะอาโอบะ เมืองชิโตเสะ (Aoba Park Chitose City)
สวนสาธารณะอาโอบะ ในเมืองชิโตเสะ ประเทศญี่ปุ่น เป็นหนึ่งสถานที่ที่ได้รับความนิยม ช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ด้วยความหลากหลายของพันธุ์ไม้ที่ปลูกไว้ในสวน ทำให้กลายเป็นสถานที่ที่งดงามราวกับภาพวาดเลยก็ว่าได้ค่ะ
2. สวนสาธารณะอาซาฮิกาโอกะ (Asahigaoka Park)
สวนแห่งนี้มีพื้นที่ที่สวยงามและมีความเงียบสงบ เหมาะสำหรับการพักผ่อน และเดินเล่น จุดเด่นของสวนนี้คือการชมใบไม้เปลี่ยนสี โดยในช่วงนี้ต้นไม้ในสวนจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองและสีแดงสดใส ทำให้สวนดูสวยงามและเป็นจุดท่องเที่ยวยอดนิยมสำหรับผู้ที่ชื่นชอบธรรมชาติและบรรยากาศที่สวยงาม
3. สวนสาธารณะอาซาฮิยามะ (Asahiyama Park)
แม้จะไม่ได้เป็นที่รู้จักกันในเรื่องใบไม้เปลี่ยนสีมากเท่ากับสถานที่อื่น ๆ แต่มีความสวยงามเฉพาะตัว ในช่วง ฤดูใบไม้เปลี่ยนสี โดยเเฉพาะทิวทัศน์ของภูเขาอาซาฮิยามะที่โอบล้อมไปด้วยสีสันของใบไม้เปลี่ยนสี ทำให้ภาพที่เห็นยิ่งทำให้ใจฟูแน่นอนค่ะ
4. หุบเขาเอนิวะ (Eniwa Valley)
เป็นจุดท่องเที่ยวธรรมชาติที่สวยงาม และมีชื่อเสียงในฮอกไกโด ในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมธรรมชาติระหว่างทางผ่านป่าเขียวชอุ่มที่กลายเป็นสีสันสดใสของใบไม้ในฤดูใบไม้ร่วง หุบเขาเอนิวะยังมีน้ำตกชื่อดังสามแห่ง ได้แก่ น้ำตกริวชิ (Ryuushi Falls), น้ำตกฮะคุบุ (Hakubu Falls) และน้ำตกซันซันได (Sansandai Falls) ซึ่งช่วยให้ภูมิทัศน์ดูงดงามยิ่งขึ้น
5. สวนโอโดริ (Odori Park)
เป็นเหมือนฉากในนิทานที่ทำให้หัวใจของใครหลาย ๆ คนพองโต เมื่อมองเห็นใบไม้แดง ส้ม และเหลืองที่ปลิวตามลม สวนโอโดริทอดยาวเป็นเส้นตรงเหมือนสายรุ้งของธรรมชาติที่เปลี่ยนสีตามฤดูกาล ไม่ว่าจะเดินเล่นเพลิดเพลิน หรือนั่งพักใต้ต้นไม้ใหญ่ สัมผัสกับบรรยากาศสดชื่น ก็รู้สึกเหมือนได้หนีจากความวุ่นวายมาสู่มุมสงบ แถมยังมีกิจกรรมอื่นมากมาย เช่น การถ่ายภาพกับวิวใบไม้เปลี่ยนสีที่งดงามสุดๆ ซึ่งทำให้สวนโอโดริกลายเป็นจุดหมายที่ต้องห้ามพลาดเมื่อมาเยือนฮอกไกโดในฤดูใบไม้ร่วงนี้
6. สวนสาธารณะโอนุมะ (Onuma Park)
เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อในเรื่องความสวยงามของธรรมชาติ โดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ภูเขาโคมากาตาเกะ ที่ตั้งอยู่บริเวณใกล้เคียงทำให้มีทัศนียภาพที่สวยงามเป็นมากขึ้นเป็นพิเศษ ภายในสวนมีเกาะเล็กๆ หลายเกาะที่เชื่อมต่อกันด้วยสะพาน ทำให้ผู้มาเยือนได้เพลิดเพลินกับการเดินเล่นและล่องเรือชมวิว ใบไม้ที่เปลี่ยนสีที่สะท้อนกับผืนน้ำช่วยสร้างบรรยากาศที่สวยงามและเงียบสงบ นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมต่างๆ เช่น ปั่นจักรยาน และพายเรือคายัค ที่ให้ผู้มาเยือนได้สัมผัสกับธรรมชาติอย่างเต็มที่อีกด้วยค่ะ
7. สวนสาธารณะโอตารุ (Otaru Park)
เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีเสน่ห์มาก ๆ โดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ต้นไม้จะเปลี่ยนเป็นสีแดง เหลือง และส้ม ภายในสวนมีเส้นทางเดินเล่นที่ร่มรื่น เหมาะสำหรับการเดินเล่น พร้อมอากาศที่เย็นสบายในฤดูใบไม้ร่วง นับได้ว่าเป็นที่นิยม สำหรับครอบครัวที่เดินทางมาพักผ่อน ภายในมีสนามเด็กเล่น และพื้นที่กว้างขวางให้ทุกคนได้ผ่อนคลายอย่างเต็มที่ นักท่องเที่ยวยังสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ของเมืองโอตารุได้อีกด้วยค่ะ
8. สวนสาธารณะโอนิอุชิ (Oniushi Park)
ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของฮอกไกโด เป็นสถานที่ที่เงียบสงบ สวนแห่งนี้มีต้นไม้หลากหลายชนิด และเส้นทางเดินเล่น บรรยากาศภายในสวนเงียบสงบ เหมาะสำหรับการปิกนิก เดินเล่น และถ่ายภาพทิวทัศน์ นอกจากนี้ สวนโอนิอุชิยังเข้าถึงได้ง่าย ทำให้เป็นสถานที่ยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเยือนพื้นที่ทางตอนใต้ของฮอกไกโดอีกด้วยค่ะ
9. สวนคากุระโอกะ (Kaguraoka Park)
เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่น่าสนใจในช่วงฤดูใบไม้ร่วง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ชื่นชอบธรรมชาติและความเงียบสงบ การได้มาเยือนสวนแห่งนี้ในช่วงที่ใบไม้เปลี่ยนสี จะทำให้คุณได้สัมผัสกับความงามของธรรมชาติอย่างเต็มที่
10. ป่าบีชดึกดำบรรพ์ที่ราบสูง Garo (Karo Plateau beech forest)
เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ควรค่าแก่การมาเยือนในช่วงฤดูใบไม้ร่วง ด้วยความหลากหลายของพันธุ์ไม้บีชที่เติบโตมานานนับพันปี ทำให้ที่นี่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เมื่อถึงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ป่าบีชแห่งนี้จะเปลี่ยนสีเป็นพรมใบไม้หลากสีสัน ตั้งแต่สีเหลืองทองไปจนถึงสีแดงเข้ม สร้างความประทับใจให้กับผู้มาเยือนอย่างไม่รู้ลืม
11. อดีตสวนอิวาฟุเนะ (โคเซทสึเอ็น) the former Iwafune family garden (Kosetsuen)
หรือที่เคยรู้จักกันในชื่อ สวนอิวาฟุเนะ เป็นสวนญี่ปุ่นที่เคยมีชื่อเสียงมากในด้านความสวยงามของสวนหินและการจัดสวนแบบดั้งเดิม โดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้ร่วง เมื่อใบไม้เปลี่ยนสีจะทำให้สวนแห่งนี้ดูงดงามราวกับภาพวาด
12. กระเช้าลอยฟ้าซัปโปโรโมอิวะ (Sapporo Mount Moiwa Ropeway)
การนั่งกระเช้าลอยฟ้าขึ้นไปชมวิวบน ภูเขาโมอิวะ (Mount Moiwa) ในเมืองซัปโปโร ประเทศญี่ปุ่น เป็นประสบการณ์ที่น่าประทับใจอยู่แล้ว แต่หากได้ไปสัมผัสในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี บรรยากาศจะยิ่งโรแมนติกและงดงามเป็นพิเศษ เพราะคุณจะได้เห็นทัศนียภาพของเมืองซัปโปโรที่รายล้อมไปด้วยสีสันสดใสของใบไม้เปลี่ยนสี
13. ทะเลสาบชูมาริไน (Lake Shumarinai)
เป็นหนึ่งในทะเลสาบที่มนุษย์สร้างขึ้นที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น โดดเด่นด้วยความสวยงามของธรรมชาติที่ล้อมรอบไปด้วยป่าไม้หนาแน่นและเนินเขา ซึ่งทำให้บรรยากาศเงียบสงบ เหมาะสำหรับคนรักธรรมชาติ และในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี สีสันของต้นไม้จะสะท้อนกับน้ำใสของทะเลสาบ กลายเป็นภาพที่สวยงามราวกับภาพวาด นอกจากนี้ ทะเลสาบแห่งนี้ยังเป็นจุดหมายยอดนิยม สำหรับการตกปลา พายเรือคายัค และตั้งแคมป์ ดึงดูดนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบกิจกรรมกลางแจ้ง
14. โจซังเค ออนเซ็น (Jozankei Hot Springs)
เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง เรื่องของน้ำพุร้อนและธรรมชาติที่สวยงาม เป้นสถานที่ที่ถูกล้อมรอบด้วยป่าไม้และแม่น้ำที่ โดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้ร่วง ต้นไม้รอบ ๆ จะเปลี่ยนสีเป็นโทนสีแดงและเหลือง นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินกับการแช่ออนเซ็นทั้งแบบกลางแจ้งและในร่ม นอกจากนี้ยังเป็นจุดที่เหมาะสำหรับการเดินป่าและเที่ยวชมสถานที่ใกล้เคียง เช่น เขื่อนโฮเฮเคียว โจซังเคอิจึงเป็นสถานที่ที่สมบูรณ์แบบสำหรับการพักผ่อนและสัมผัสกับธรรมชาติอย่างเต็มที่
15. ทะเลสาบชิเรโตโกะโกโค (Shiretoko Five Lakes)
เป็นหนึ่งในทะเลสาบห้าแห่ง ที่ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติชิเรโตโกะ ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติของยูเนสโก และเมื่อถึงฤดูใบไม้ร่วง ทะเลสาบแห่งนี้จะเปลี่ยนตัวเองไปตามเฉดสีต่าง ๆ ด้วยสีสันที่สวยงามของใบไม้ที่สะท้อนลงบนผิวน้ำใสราวกระจกเลบก็ว่าได้ค่ะ
16. ทะเลสาบโทยะ (Lake Toya)
เป็นทะเลสาบปล่องภูเขาไฟที่ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติชิโคสึ-โทยะ ฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น โดดเด่นด้วยน้ำที่ใสสะอาดและวิวทิวทัศน์ที่งดงามรอบด้าน พร้อมกับบ่อน้ำพุร้อนธรรมชาติ (ออนเซ็น) ที่กระจายอยู่ในบริเวณโดยรอบ อากาศที่อบอุ่นของทะเลสาบทำให้ทะเลสาบไม่แข็งตัวในฤดูหนาว ทำให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจตลอดทั้งปี โดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้ร่วง บริเวณรอบทะเลสาบจะเต็มไปด้วยใบไม้เปลี่ยนสีที่งดงาม ยิ่งทำให้ทะเลสาบแห่งนี้สวยมากขึ้นเป้น 10 เท่าเลยค่ะ
17. สวนสาธารณะโทคิวะ (Tokiwa Park)
เป็นโอเอซิสสีเขียวขนาดใหญ่ใจกลางเมืองมิโตะ จังหวัดอิบารากิ ประเทศญี่ปุ่น และเป็นหนึ่งในสวนสาธารณะที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศ ด้วยพื้นที่กว้างขวางกว่า 183 เฮกตาร์ ทำให้สวนแห่งนี้มีทั้งป่าธรรมชาติ สวนดอกไม้ สวนสัตว์ และสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย
18. โนโบริเบ็ตสึออนเซ็น (Noboribetsu Onsen)
เป็นหนึ่งในรีสอร์ทน้ำพุร้อนที่มีชื่อเสียงในญี่ปุ่น ความโดดเด่นอยุ่ที่น้ำพุร้อนที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุหลากหลายชนิด ซึ่งแต่ละแห่งมีสรรพคุณทางสุขภาพที่แตกต่างกัน ตั้งแต่น้ำพุร้อนกำมะถัน ไปจนถึงน้ำพุร้อนที่มีธาตุเหล็กสูง นอกจากนี้ยังมี “หุบเขานรก” (Jigokudani) ซึ่งเพิ่มบรรยากาศอันน่าตื่นตาตื่นใจ ด้วยไอน้ำและกำมะถันที่พุ่งขึ้นจากภูเขาไฟ โดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยงามมาก นอกจากจะได้ฟื้นฟูร่ายกายแล้ว ใจก็จะฟูตามไปด้วย เพราะใบไม้เปลี่ยนสีที่นี่สวยมากจริง ๆ ค่ะ
19. สวนสาธารณะนากาจิมะ (Nakajima Park)
เป็นสวนสาธารณะมีความสวยงาม และเป็นที่นิยมในการมาพักผ่อนหย่อนใจท่ามกลางธรรมชาติที่เงียบสงบ ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงที่สวนจะเปลี่ยนเป็นสีส้ม แดง และเหลือง ซึ่งสวยมาก มีบ่อน้ำที่สงบเงียบ และมีอาคารเก่าแก่ เช่น โรงแรมโฮเฮคัง (Hoheikan) ซึ่งเป็นโรงแรมแบบตะวันตกเก่าแก่ นอกจากนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์วรรณกรรมฮอกไกโดให้เยี่ยมชม สวนแห่งนี้จึงเป็นจุดหมายที่เหมาะสำหรับการพักผ่อนท่ามกลางใบไม้เปลี่ยนสี
20. สวนสาธารณะฮาโกดาเตะ (Hakodate Park)
สวนแห่งนี้เป็นสถานที่ใบไม้เปลี่ยนสีสวยมากก มีบรรยากาศที่เงียบสงบ ทำให้เหมาะสำหรับการเดินเล่น และถ่ายรูป นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งรวมประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม เพราะมีพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำเล็ก ๆ และสนามเด็กเล่นด้วยค่ะ จุดชมวิวจากสวนจะทำให้มองเห็นวิวท่าเรือ และเมืองฮาโกดาเตะได้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะช่วงเย็นที่มีแสงไฟยิ่งทำให้สวยงามมากขึ้นไปอีก
21. ต้นแปะก๊วยมหาวิทยาลัยฮอกไกโด (Hokkaido University Ginkgo Tree Line)
เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่คุณไม่ควรพลาด เมื่อมาเยือนซัปโปโรในช่วงฤดูใบไม้ร่วง โดยเฉพาะ อุโมงค์ต้นแปะก๊วย ที่ขึ้นชื่อว่าสวยงามมาก เมื่อใบแปะก๊วยเปลี่ยนสีเป็นสีเหลืองทองอร่าม ก็ยิ่งจะสร้างบรรยากาศให้โรแมนติกและอบอุ่นมากยิ่งขึ้น
22. สวนหน้าอาคารรัฐบาลเก่าฮอกไกโด (Former Hokkaido Government Office Building Front Garden)
หรือที่รู้จักกันในชื่อ ทำเนียบอิฐแดง เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่มีความสวยงาม และโรแมนติกมาก ในช่วงฤดูใบไม้ร่วง เมื่อใบไม้เปลี่ยนสี ต้นไม้ในสวนก็จะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองทองอร่าม ทำให้บรรยากาศอบอุ่นและคลาสสิกมาก ซึ่งตัดกับสีอิฐแดงของอาคารได้อย่างลงตัว
23. สวนสาธารณะมารุยามะ (Maruyama Park)
เป็นสถานที่ยอดนิยมสำหรับชมใบไม้เปลี่ยนสีและซากุระในฤดูใบไม้ผลิ ภายในมีสวนที่ร่มรื่น และศาลเจ้าฮอกไกโดที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ เมื่อเข้าสู่ช่วงฤดูใบไม้ร่วง สีสันของใบเมเปิ้ลและต้นแปะก๊วยจะเปลี่ยนเป็นสีแดงและเหลืองสวยงาม ทำให้ที่นี่กลายเป็นจุดชมวิวที่เงียบสงบและน่าทึ่ง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเดินเล่นท่ามกลางธรรมชาติหรือถ่ายรูปในบรรยากาศสดชื่นของฤดูใบไม้เปลี่ยนสี