อีกไม่กี่เดือนใกล้จะผ่านพ้นไปอีกหนึ่งปีแล้ว ใครที่กำลังมองหาสถานที่ท่องเที่ยวแบบไม่ตามรอยใคร ลองมาดู 10 ประเทศน่าเที่ยว ปี 2020 ที่จัดอันดับโดย Lonely Planet นิตยสารท่องเที่ยวชื่อดัง
ตามมาดูกันเลยว่า ประเทศน่าเที่ยวทั้ง 10 แห่งนั้นมีอะไรบ้าง และน่าเที่ยวขนาดไหน เผื่อจะตามเทรนด์ไปเที่ยวกับเขาดูบ้าง !
ภูฏาน (Bhutan)
ภูฏาน เป็นอีกหนึ่งประเทศเล็กๆ ในเทือกเขาหิมาลัยที่โดดเด่นในเรื่องวัฒนธรรม อารยธรรม และสถาปัตยกรรมที่น่าประทับใจ ที่นี่เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวสายวัฒนธรรมที่ต้องการสัมผัสวิถีชีวิตแบบเรียบง่ายของชาวภูฏานและธรรมชาติที่สวยงามแบบไม่มีความเจริญจากภายนอกเข้ามารบกวน และที่นี้ยังมีระบบจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้มข้นมาก เพราะเขาหวังให้การท่องเที่ยวมีผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมของประเทศน้อยที่สุด ทางประเทศยังตั้งเป้าไว้ด้วยว่า จะเป็นประเทศแรกที่ทุกอย่างจะต้องเป็นออแกนิคภายในปี 2020
อังกฤษ (England)
สมัยก่อนอังกฤษ เคยเป็นแนวป้องกันด่านแรกต่อต้านการรุกรานตามแนวชายฝั่งจากศัตรู ในปัจจุบันเป็นสถานที่สงบสุขที่ชาวบ้านและนักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินกับการเดินเล่นริมหาด ดื่มด่ำไปกับทัศนีย์ภาพที่สวยงาม พร้อมกับอิ่มหน่ำกับร้าน fish and chips ในปัจจุบันการท่องเที่ยวที่กำลังเป็นเทรนด์ในอังกฤษ คือจะเป็นการขับรถเที่ยวตามเมืองชายทะเลต่างๆ ซึ่งในปี 2020 นี้ก็จะมีการเปิดเส้นทางใหม่ England Coast Path ระยะทางรวมกว่า 3,000 ไมล์ไปตามแนวชายฝั่งด้วย
มาซิโดเนียเหนือ (North Macedonia)
ประเทศมาซิโดเนีย เป็นรัฐอิสระ ตั้งอยู่บนคาบสมุทรบอลข่านในยุโรปตะวันออกเฉียงใต้ ปัจจุบันกลายมาเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อด้านธรรมชาติ และวัฒนธรรมมากมายของประเทศ อีกทั้งยังมีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ High Scardus Trail ที่มีความยาวถึง 495 กิโลเมตร ทอดตัวยาวไปตามแนวเขา เรียกได้ว่าดึงดูดนักท่องเที่ยว นักผจญภัยให้เข้ามาได้เป็นอย่างดี
อารูบา (Aruba)
อารูบา เป็นเกาะขนาดเล็กที่มีความยาวเพียง 32 กิโลเมตร ตั้งอยู่ในหมู่เกาะเลสเซอร์แอนทิลลีสในทะเลแคริบเบียน มีชื่อเสียงจากหาดทรายสีขาวที่ส่วนใหญ่จะอยู่ทางชายฝั่งทางใต้และตะวันตกของตัวเกาะ ซึ่งเป็นบริเวณที่ได้รับการกำบังจากกระแสน้ำอันรุนแรงจากมหาสมุทร นอกจากวิวทิวทัศน์ของทะเลงามในแบบแคริบเบียนแล้ว ทั้งเมืองนี้ยังเต็มไปด้วยสีสันของอาคารต่างๆ ที่แต่งแต้มด้วยงานศิลปะ ของศิลปินทั้งใน และต่างประเทศ ที่นี่ยังเป็นประเทศที่รณรงค์ให้เป็นเกาะปลอดพลาสติก และมีการห้ามใช้ครีมกันแดดที่มีสารเคมีทำลายปะการังทั้งหมดภายในปี 2020
เอสวาตินี (eSwatini)
เอสวาตินีอยู่ทางใต้ของทวีปแอฟริกา ที่นี่ไม่มีทางออกสู่ทะเลเลย มีประชากรราว 1.3 ล้านคน ถือเป็นประเทศที่เล็กที่สุดแห่งหนึ่งในทวีปแอฟริกานี้ แต่ก็เป็นอาณาจักรที่เต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติสไตล์แอฟริกาใต้ เอสวาตินีเพิ่งเปิดสนามบินนานาชาติเพิ่มด้วย ซึ่งทำให้ในปี 2020 น่าจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเยือนประเทศนี้มากขึ้น ใครชอบเที่ยวแนวลุยๆ ธรมมชาติๆ ซาฟารีแบบดั้งเดิมน่าจะชอบที่นี่
คอสตาริกา (Costa Rica)
คอสตาริกา เป็นประเทศในอเมริกากลาง มีอาณาเขตจรดประเทศนิการากัวทางทิศเหนือ จรดประเทศปานามาทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ และจรดทะเลแคริบเบียนทางทิศตะวันออก มีขนาดพื้นที่ประมาณ 51,110 ตารางกิโลเมตร เป็นประเทศที่เน้นหนักเรื่องการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน สร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมให้น้อยที่สุด โดยมีจุดเด่นด้านความหลากหลายของสัตว์ป่าในแต่ละสปีชีส์ ที่ล้วนหาชมได้แค่ที่นี่เท่านั้น รวมถึงกิจกรรมการผจญภัยที่หาจากประเทศไหนๆ ไม่ได้แน่ๆ เช่น เดินขึ้นไปชมภูเขาไฟ แล้วโรยตัวลงมาจาก zip line เป็นต้น
เนเธอร์แลนด์ (Netherlands)
ประเทศ เนเธอร์แลนด์ หรือที่มักเรียกกันว่า ฮอลแลนด์ เป็นประเทศที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ คลองไร่ที่ดินสวยงาม กังหันลม และชายหาดที่น่ารื่นรมย์ และเรายังสามารถไปปั่นจักรยานเล่นนอกเมืองก็ได้ ซึ่งที่นี่เขาขึ้นชื่อเรื่องความเป็นมิตรต่อนักปั่นสูงมาก มีเส้นทางปั่นพร้อมรองรับอย่างเต็มที่ รวมแล้วกว่า 35,000 กิโลเมตรเลยทีเดียว และแน่นอนว่าเป็นเส้นทางที่ใช้ได้จริงด้วยนะ
ไลบีเรีย (Liberia)
Cr.forumsyd
สาธารณรัฐไลบีเรีย เป็นประเทศที่อยู่ในเขตแอฟริกาตะวันตก ไลบีเรีย ด้วยความที่เป็นประเทศเล็กๆ ไม่เป็นที่รู้จักต่อชาวโลกมากนัก จึงทำให้น้อยคนจะรู้ว่าที่นี่มีแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติที่น่าตื่นตาตื่นใจมาก โดยเฉพาะชายหาดต่างๆ ที่ในหมู่นักเซิร์ฟถือว่าที่นี่เป็นดั่งสวรรค์ของการโต้คลื่น หากไม่สันทัดเรื่องนี้ ไลบีเรียยังมีที่เที่ยวแบบป่าดิบชื้นอยู่ด้วย ที่ อุทยานแห่งชาติ Sapo ซึ่งเป็นป่าที่มีความอุดมสมบูรณ์ และใหญ่เป็นอันดับ 2 ของแถบแอฟริกาตะวันตก ด้วยความที่ป่ายังมีความดิบอยู่มาก เราจึงสามารถพบเห็นได้ทั้งฮิปโป ช้างป่า ชิมแปนซี ฯลฯ
โมร็อคโค (Morocco)
ประเทศโมรอคโค ตั้งอยู่ที่ทวีปแอฟริกาตอนเหนือ ติดกับมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือและทะเลเมดิเตอร์เรเนียน โมร็อคโคเป็นดินแดนที่มีความหลากหลายทางภูมิประเทศมาก ตั้งแต่ทะเลทรายแห้งแล้ง ชายฝั่งทะเล และเทือกเขาสูง เดี๋ยวนี้การเดินทางภายในประเทศมีความสะดวกมากขึ้นด้วยรถไฟความเร็วสูง ที่เชื่อมทุกเมืองทางภาคเหนือ และตามแนวชายฝั่งทะเล และถนนหนทางต่างๆ ที่โมร็อคโคได้สร้างขึ้น นักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการผจญภัยจะต้องหลงรักที่นี่
อุรุกวัย (Uruguay)
อุรุกวัยเป็นประเทศเล็กๆ ที่อยู่ติดกับประเทศอาร์เจนตินาและบราซิลนี้มักถูกนักท่องเที่ยวมองข้ามไป แต่หากได้มาเยือนแล้วจะได้ดื่มดำกับแนวชายฝั่งที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ไปจนถึงพื้นที่ตามธรรมชาติ การขี่ม้าเลี้ยงวัวตามทุ่งหญ้า และวัฒนธรรมพื้นเมืองต่างๆ อุรุกวัยในปี 2020 นั้นเป็นหนึ่งในประเทศที่คุณควรตั้งเป้าไปเที่ยวให้ได้ มีสิ่งที่น่าค้นหาอยู่มากมาย และยังเป็นดินแดนที่มีความเสรีในหลายด้าน ทั้งเรื่องสิทธิของชาว LGBTQ+, กฎหมายเรื่องกัญชาเสรี, เป็นประเทศผู้นำด้านพลังงานสะอาด ฯลฯ โดยแหล่งท่องเที่ยวที่เด่นสุดของที่นี่ เห็นจะเป็นการเที่ยวไปตามแนวชายฝั่งทะเลที่มีความยาว 660 กิโลเมตร
___________________________
ขอบคุณข้อมูลจาก : travel.trueid , lonelyplanet
รวมโปรแกรมทัวร์ : https://bit.ly/2rUTL8h
Instragram : @travel_zeed
Facebook https : https://www.facebook.com/Travelzeed/
Youtube Channel : https://bit.ly/2J1yNfZ
สอบถามข้อมูลโปรแกรมทัวร์ : https://line.me/R/ti/p/@travelzeed