เมื่อคุณได้ลองค้นหาแหล่งท่องเที่ยวของไต้หวัน มั่นใจได้เลยว่า “ทะเลสาบสุริยันจันทรา” ย่อมเป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับการแนะนำขึ้นมาอย่างแน่นอน เพราะว่านี่คือทะเลสาบน้ำจืดที่มีขนาดใหญ่มากที่สุดของไต้หวัน กินพื้นที่กว่า 7.93 ตารางกิโลเมตร

ทะเลสาบแห่งนี้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เนื่องจากความสวยงามของธรรมชาติที่รายล้อมไปด้วยเทือกเขาอันสวยงาม เป็นการท่องเที่ยวที่เหมาะสำหรับผู้ที่อยากหลีกหนีความวุ่นวาย ปล่อยตัวปล่อยใจไปกับบรรยากาศอันสดชื่น แต่บรรยากาศไม่ใช่เพียงสิ่งน่าสนใจอย่างเดียวของแหล่งท่องเที่ยวแห่งนี้ จะมีเรื่องน่าสนใจอย่างไรกันบ้าง ติดตามได้ในบทความนี้

เพราะเหตุใด ทะเลสาบสุริยันจันทรา ถึงถูกขนานนามว่า “สวิตเซอร์แลนด์แห่งไต้หวัน”

ทะเลสาบสุริยันจันทรา (Sun Moon Lake) เคยถูกขนานนามว่าเป็น “สวิตเซอร์แลนด์แห่งไต้หวัน” เนื่องจากบรรยากาศที่คุณจะพบได้จากทะเลสาบแห่งนี้ มีทั้งเทือกเขาน้อยใหญ่ที่เรียงรายอยู่โดยรอบ พร้อมด้วยผืนน้ำที่เปล่งประกายรับกับแสงอาทิตย์ ยิ่งเป็นในช่วงที่มีอากาศเย็น เราสามารถเห็นผืนหมอกที่ปกคลุมบริเวณเทือกเขา ซึ่งทำมีความสวยงามคลับคล้ายคลับคลากับวิวในประเทศสวิตเซอร์แลนด์นั่นเอง

ในส่วนของสาเหตุที่มีการเรียกทะเลสาบแห่งนี้ว่า “สุริยัน จันทรา” เกิดจากรูปทรงของทะเลสาบ หากมองในมุมบน บริเวณทิศเหนือนั้นมีรูปร่างคล้ายกับ “พระอาทิตย์” ในส่วนของทิศใต้มีรูปร่างคล้ายกับ “พระจันทร์เสี้ยว” จึงได้นำเอกลักษณ์ในจุดนี้มาตั้งเป็นชื่ออย่างที่เราได้เห็นกันในทุกวันนี้ 

ข้อมูลที่ควรรู้ก่อนเดินทางไปท่องเที่ยวที่ทะเลสาบสุริยันจันทรา 

แค่ได้รู้ถึงข้อมูลความสวยงามเบื้องต้นของ ทะเลสาบสุริยันจันทรา คุณคงอยากรู้แล้วว่า จะเดินทางไปยังไง ? ไปช่วงไหน ? มีอะไรน่าสนใจบ้าง ? เราได้รวมเรื่องราวที่คุณควรรู้ก่อนเดินทางไปแหล่งท่องเที่ยวแห่งนี้ไว้เรียบร้อยแล้ว จะมีสิ่งไหนที่คุณจะต้องทำความเข้าใจบ้างนั้น ไปชมกันเลย !!!

• การเดินทาง ในกรณีเริ่มต้นที่ไทเป วิธีที่สะดวกที่สุดคือการนั่งรถไฟความเร็วสูง (HSR) จากไทเป ไปลงที่สถานี ไทจง จากนั้นสามารถต่อรถบัสไปจนถึงทะเลสาบได้เลย ใช้ระยะเวลารวมแล้วประมาณ 3 ชั่วโมง

• ฤดูกาลที่เหมาะสมต่อการท่องเที่ยว ที่จริงแล้วสามารถเที่ยวได้ทุกฤดู เพราะมีความสวยงามไม่ต่างกัน แต่ช่วงเวลาที่ดีที่สุดจะเป็นช่วงฤดูใบไม้ร่วง ( กันยายน-พฤศจิกายน ) เพราะเป็นช่วงที่ใบไม้กำลังเปลี่ยนสี

• ช่วงเวลาที่เหมาะสม การเดินทางมาเที่ยวที่ทะเลสาบ แนะนำว่าควรเป็นช่วงเวลาประมาณ 09:00 ถึง 18:00 เนื่องจากยังมีบริการล่องเรือให้ใช้บริการ

• ข้อควรระวัง สิ่งที่ควรระวังนอกจาก “อุบัติเหตุ” ก็เห็นว่าจะมีเพียง “ฟ้าฝน” ควรตรวจสอบพยากรณ์อากาศก่อนเดินทาง เพราะถ้ามีฝนตกขึ้นมา อาจทำให้ทริปนี้ของคุณไม่สนุกอีกต่อไป

แนะนำการท่องเที่ยว ทะเลสาบ Sun Moon Lake แบบ One Day Trip

การเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศทั้งที จะให้เที่ยวอยู่ที่เดียวคงเสียดายโอกาสแย่ ดังนั้นการวางแผนเดินทางท่องเที่ยวดี ๆ อาจทำให้คุณได้สัมผัสกับประสบการณ์สุดแปลกใหม่ได้มากกว่าที่เคย หากคุณชื่นชอบการท่องเที่ยวรูปแบบนี้ ทะเลสาบสุริยันจันทรา ตอบโจทย์การท่องเที่ยวของคุณได้อย่างแน่นอน

เนื่องจากที่ตั้งของทะเลสาบอยู่ใน “เมืองหนาวโถว” ซึ่งเดินทางจากไทเปเพียง 3 ชั่วโมงเท่านั้น ส่งผลให้การท่องเที่ยวทะเลสาบ Sun Moon Lake แบบไปเช้าเย็นกลับเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจของหลาย ๆ คน มาดูกันว่าภายใน 1 วัน มีกิจกรรมอะไรที่คุณสามารถทำได้บ้าง 

• ล่องเรือเพื่อชมความสวยงามของ “ทะเลสาบสุริยันจันทรา”

“การล่องเรือ” เป็นกิจกรรมหากไม่ทำ ก็เหมือนมาไม่ถึงทะเลสาบแห่งนี้ โดยเรือจะพาคุณเที่ยวชมบริเวณโดยรอบของทะเลสาบ มีท่าเทียบเรือให้เลือกขึ้นอยู่ถึง 3 แห่งด้วยกัน ระยะเวลาอยู่ที่ประมาณ 60 ถึง 90 นาที ค่าใช้จ่ายอยู่ที่ประมาณ 300 นิด ๆ ( เมื่อเทียบจากค่าเงินในปี 2023 )

นอกจากการล่องเรือแล้วก็ยังมีอีกหลากหลายกิจกรรม ที่ทำให้คุณได้ชื่นชอบบรรยากาศอันสวยงามของแหล่งท่องเที่ยวแห่งนี้ ไม่ว่าจะเป็นการเช่าจักรยานเพื่อปั่นชมโดยรอบของทะเลสาบ รวมไปถึงการนั่งกระเช้าลอยฟ้าซึ่งมีระยะทางยาวถึง 1.87 กิโลเมตร แล้วคุณจะได้ไขข้อข้องใจด้วยตนเอง ว่าทะเลสาบนี้มีรูปร่างเหมือน “ดวงอาทิตย์” และ “พระจันทร์เสี้ยว” จริงหรือไม่ ?

• เยี่ยมชมวิถีชีวิตของ “ชาวท้าว” 

ทะเลสาบสุริยันจันทรา เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน นอกจากธรรมชาติที่ตกทอดความสวยงามมาจนถึงปัจจุบัน “ชาวท้าว” คือกลุ่มคนพื้นเมืองที่อาศัยอยู่ในดินแดนแห่งนี้มากกว่า 300 ปี โดยในอดีตกลุ่มชาวท้าวได้ดำรงชีวิตด้วยการทำประมงและล่าสัตว์ แต่เมื่อกาลเวลาเปลี่ยนไปพวกเขาก็ได้ปรับตัวตามการเปลี่ยนแปลงของโลกาภิวัตน์

ในปัจจุบันชาวท้าวอาศัยอยู่ในย่าน “Ita Thao” ซึ่งยังมีกลิ่นอายของการเป็นชุมชนพื้นเมืองอย่างเด่นชัด แต่ได้มีการปรับตัวให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยว มีการขายอาหารพื้นเมือง งานฝีมือ และ ของฝาก หากคุณเดินทางมาถูกจังหวะ คุณจะได้พบการเฉลิมฉลองของชาวท้าว ซึ่งจะมีการจัดแสดงดนตรี ร้องรำทำเพลง ตามขนบธรรมเนียมโบราณ ซึ่งเป็นประเพณีที่ตื่นตาตื่นใจสำหรับนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก

• ขอพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ “วัดเหวิ่นหวู่”

อีกหนึ่งกิจกรรมที่เราแนะนำว่าเหล่านักท่องเที่ยวสายมูจะต้องชื่นชอบ คือการเดินทางมาขอพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ “วัดเหวิ่นหวู่” วัดที่ได้รับการสร้างเพื่อทดแทนวัดเก่า 2 แห่งที่ถูกน้ำท่วม จากการก่อสร้างเขื่อนเพื่อสร้างไฟฟ้า ตั้งแต่ช่วงปี ค.ศ. 1938 เป็นสถานที่ประดิษฐานของรูปปั้นของ “กวนอู”  เทพเจ้าแห่งความซื่อสัตย์ และ “ขงจื๊อ” เทพเจ้าแห่งปัญญา

จุดเด่นของวัดแห่งนี้คือสถาปัตยกรรมที่สวยงาม สามารถมองเห็นวิวของทะเลสาบสุริยันจันทราได้อย่างชัดเจน มีบันไดที่ทอดยาวเป็นจำนวน 365 ซึ่งว่ากันว่า เปรียบเสมือนการเดินทางตลอดระยะเวลา 1 ปี ใครอยากขอพรอะไร ก็ให้นำเอากระดิ่งมาแขวนบริเวณขั้นที่เป็นวันเกิดของตนเอง ( ถ้าใครเกิดท้ายปีก็คงต้องเหนื่อยสักหน่อย )

บทส่งท้าย 

นอกจากเนื้อหาที่เราได้กล่าวถึงในบทความนี้ ยังมีความน่าสนใจอีกมากมายของ ทะเลสาบสุริยันจันทรา ที่เราไม่ได้กล่าวถึง บางครั้งเสน่ห์ของการท่องเที่ยวก็มักจะมาพร้อมกับคำว่า “ไม่รู้” การได้ลองเจออะไรใหม่ ๆ ไปยังสถานที่ใหม่ ๆ กินอะไรใหม่ ๆ จะเปลี่ยนจากความไม่รู้ ให้เป็นความประทับใจที่ยากจะลืมเลือน

สุดท้ายนี้หากคุณอยากเดินทางมาท่องเที่ยวที่ไต้หวัน และกำลังมองหา ทัวร์ทะเลสาบสุริยันจันทรา อยู่ล่ะก็ Travelzeed พร้อมเป็นตัวช่วยที่ทำให้ทริปของคุณในครั้งนี้ราบรื่นไปได้ด้วยดี สามารถจองล่วงหน้าได้ เพื่อให้มีระยะเวลาเตรียมตัว เลือกแพ็กเกจที่ชอบ ในราคาที่ใช่ ได้เลยตอนนี้ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อได้ที่ Line ID : @travelzeed หรือ โทร 02-108-7900