ประเทศญี่ปุ่น เป็นประเทศที่มีเสน่ห์และดึงดูดนักท่องเที่ยวทั่วโลก แต่รู้หรือไม่ว่า ญี่ปุ่นแบ่งออกเป็น 8 ภูมิภาคหลัก ๆ ในแต่ละภูมิภาคก็มีเอกลักษณ์ที่แตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของธรรมชาติ ภูมิอากาศ วัฒนธรรม และอาหารการกิน วันนี้ TravelZeed จะพาคุณไปเปิดโลกกว้าง เพื่อสัมผัสประสบการณ์ใหม่ ๆ กับความหลากหลายของประเทศญี่ปุ่นในแต่ละภูมิภาค เริ่มตั้งแต่ภาคเหนือสุด อย่างฮอกไกโดที่ปกคลุมไปด้วยหิมะขาวโพลน ไปจนถึงภาคใต้สุด อย่างโอกินาว่าที่มีทะเลสีครามสวยงาม ว่าแต่จะมีภูมิภาคไหนที่ถูกใจคุณมากที่สุด ไปดูกันเลย!!!

1. ภูมิภาคฮอกไกโด (Hokkaido / 北海道) 

ฮอกไกโดเป็นมากกว่าเกาะทางเหนือของญี่ปุ่นค่ะ ที่นี่คือสวรรค์ของคนรักธรรมชาติ ด้วยทุ่งหญ้าเขียวขจีในฤดูร้อน และหิมะสีขาวโพลนในฤดูหนาว นอกจากนี้ยังมีภูเขาไฟหลายลูกที่ยังคงความงดงามและความน่าเกรงขามไว้ได้อย่างครบถ้วน

ฤดูกาลที่ดีที่สุดในการเที่ยวฮอกไกโด

ฤดูใบไม้ผลิ (เมษายน-พฤษภาคม) และฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน-ตุลาคม) อากาศเย็นสบาย เหมาะแก่การท่องเที่ยว

แนะนำเมืองน่าเที่ยวของภูมิภาคฮอกไกโด

1. ซัปโปโร (Sapporo) เมืองหลวงของฮอกไกโด และเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคนี้ ซัปโปโรมีชื่อเสียงในเรื่องเทศกาลหิมะที่ยิ่งใหญ่ รวมถึงอาคารสไตล์ยุโรปที่สวยงาม และอาหารทะเลสดใหม่ อีกทั้งยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย เช่น นาฬิกาซัปโปโร, ตลาดปลาซัปโปโร

2. โอตารุ (Otaru) เมืองท่าเก่าแก่ที่มีเสน่ห์ดึงดูดใจด้วยคลองโอตารุที่สวยงาม และอาคารอิฐแดงโบราณ นอกจากนี้ โอตารุยังขึ้นชื่อเรื่องแก้วเป่ามือที่สวยงาม และกล่องดนตรีที่ทำด้วยมือ

3. ฮาโกดาเตะ (Hakodate) เมืองท่าที่มีวิวพระอาทิตย์ตกดินสวยที่สุดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น ฮาโกดาเตะยังมีป้อมฮาโกดาเตะที่เป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ และยังมีรถรางสายเก่าให้บริการสำหรับนักท่องเที่ยว

4. ฟุราโนะ (Furano) เมืองแห่งทุ่งลาเวนเดอร์ที่สวยงามที่สุดในญี่ปุ่น ช่วงฤดูร้อน ทุ่งลาเวนเดอร์จะบานสะพรั่งเต็มท้องทุ่ง ทำให้ฟุราโนะกลายเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยว

5. บิเอะ (Biei) เมืองเล็กๆ ที่มีทิวทัศน์ธรรมชาติที่สวยงาม อาทิ ต้นไม้รูปทรงแปลกตา และทุ่งดอกไม้หลากสีสัน บิเอะยังมีเส้นทางขับรถชมวิวที่สวยงามให้ได้สัมผัสธรรมชาติอย่างใกล้ชิด

 

2. ภูมิภาคโทโฮคุ (Tohoku / 東北)

โทโฮคุเป็นภูมิภาคที่มีความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติ และยังคงรักษาขนบธรรมเนียมประเพณีดั้งเดิมเอาไว้ได้เป็นอย่างดี ที่นี่คุณจะได้สัมผัสกับวิถีชีวิตของชาวญี่ปุ่นในอดีต และชมความงามของธรรมชาติที่ยังคงความบริสุทธิ์

ฤดูกาลที่ดีที่สุดในการเที่ยวโทโฮคุ

ฤดูใบไม้ผลิ (เมษายน-พฤษภาคม) และฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน-ตุลาคม) อากาศเย็นสบาย เหมาะแก่การท่องเที่ยว

แนะนำเมืองน่าเที่ยวของภูมิภาคโทโฮคุ

1. อาโอโมริ (Aomori) เมืองหลวงของจังหวัดอาโอโมริ ที่มีชื่อเสียงในเรื่องของเทศกาลเนบุตะ (Nebuta Festival) ซึ่งเป็นเทศกาลที่มีสีสันและความยิ่งใหญ่ โดยมีการแห่โคมไฟขนาดใหญ่รูปสัตว์และบุคคลต่างๆ อย่างสวยงาม นอกจากนี้ อาโอโมริยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ที่น่าสนใจ เช่น ปราสาทฮิโรซากิ (Hirosaki Castle), อุโมงค์แอปเปิล (Apple Tunnel)

2. อาคิตะ (Akita) เมืองที่ขึ้นชื่อเรื่องหมาอะคิตะ ออนเซ็น และข้าวสวย อีกทั้งยังมีเทศกาลขนนกฮางา (Kanamara Matsuri) ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งเป็นเทศกาลที่จัดขึ้นเพื่ออธิษฐานขอให้การเกษตรและการคลอดบุตรราบรื่น

3. อิวาเตะ (Iwate) จังหวัดอิวาเตะมีธรรมชาติที่สวยงามมากมาย เช่น ภูเขา ทะเลสาบ และน้ำตก โดยเฉพาะทะเลสาบโทวาดะ (Lake Towada) ที่เป็นทะเลสาบภูเขาไฟขนาดใหญ่ที่มีความสวยงามตามธรรมชาติ

4. มิยากิ (Miyagi) จังหวัดมิยากิเป็นที่ตั้งของเมืองเซ็นได (Sendai) ซึ่งเป็นเมืองใหญ่และเป็นศูนย์กลางการคมนาคมขนส่งของภูมิภาคโทโฮคุ นอกจากนี้ มิยากิยังมีสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่น่าสนใจ เช่น ปราสาทเซ็นได และวัดซูซูวะ

5. ยามากาตะ (Yamagata) จังหวัดยามากาตะเป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องของออนเซ็น และธรรมชาติที่สวยงาม โดยเฉพาะในฤดูใบไม้ร่วงที่ใบไม้เปลี่ยนสีจะทำให้ทิวทัศน์สวยงามมากยิ่งขึ้น

3. ภูมิภาคคันโต (Kanto / 関東)

คันโตเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรมของญี่ปุ่น มีทั้งตึกสูงระฟ้า สวนสาธารณะขนาดใหญ่ และแหล่งช้อปปิ้งมากมาย นอกจากนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจอีกด้วย

ฤดูกาลที่ดีที่สุดในการเที่ยวคันโต

ฤดูใบไม้ผลิ (เมษายน-พฤษภาคม) และฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน-ตุลาคม) อากาศเย็นสบาย เหมาะแก่การท่องเที่ยว

แนะนำเมืองน่าเที่ยวของภูมิภาคคันโต

1. โตเกียว (Tokyo) เมืองหลวงของญี่ปุ่น ที่เต็มไปด้วยตึกสูง อาคารทันสมัย และแหล่งช้อปปิ้งมากมาย นอกจากนี้ โตเกียวยังมีวัดวาอารามเก่าแก่ และสวนสวยให้ได้เยี่ยมชม เช่น วัดเซนโซจิ (Sensoji Temple), สวนชินจูกุ เกียวเอ็น (Shinjuku Gyoen National Garden)

2. คาโงชิมา (Kagoshima) เมืองที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของเกาะคิวชู มีชื่อเสียงในเรื่องของภูเขาไฟซากุระจิมะที่ยังคงมีพลัง และออนเซ็นธรรมชาติ

3. คามาคุระ (Kamakura) เมืองเก่าแก่ที่เคยเป็นศูนย์กลางทางการเมืองของญี่ปุ่นในสมัยก่อน คามาคุระมีวัดและศาลเจ้าที่สวยงามมากมาย เช่น วัดโคโตคุอิน (Kotoku-in Temple)

5. ฮาโกเน่ (Hakone) เมืองตากอากาศที่ตั้งอยู่บริเวณเชิงเขาฟูจิ ฮาโกเน่มีธรรมชาติที่สวยงาม อากาศดี และมีออนเซ็นให้แช่น้ำผ่อนคลาย

6. นิกโก้ (Nikko) เมืองที่ขึ้นชื่อเรื่องวัดวาอารามที่สวยงาม โดยเฉพาะศาลเจ้าโทโชกุ (Toshogu Shrine) ซึ่งเป็นมรดกโลกของยูเนสโก

 

4. ภูมิภาคชูบุ (Chubu / 中部)

ชูบุเป็นภูมิภาคที่มีเทือกเขาสูงชัน ทะเลสาบที่สวยงาม และเมืองเล็กๆ ที่เงียบสงบ ที่นี่คุณจะได้สัมผัสกับธรรมชาติที่สวยงาม และวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์

ฤดูกาลที่ดีที่สุดในการเที่ยวชูบุ

ฤดูใบไม้ผลิ (เมษายน-พฤษภาคม) และฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน-ตุลาคม) อากาศเย็นสบาย เหมาะแก่การท่องเที่ยว

แนะนำเมืองน่าเที่ยวของภูมิภาคชูบุ

1. นาโกย่า (Nagoya) เมืองหลวงของจังหวัดไอจิ และเป็นเมืองใหญ่เป็นอันดับ 4 ของญี่ปุ่น นาโกย่ามีทั้งตึกสูง อาคารทันสมัย และแหล่งช้อปปิ้งมากมาย นอกจากนี้ นาโกย่ายังมีวัดวาอารามเก่าแก่ และปราสาทที่สวยงาม เช่นปราสาทนาโกย่า (Nagoya Castle), ย่านโอสุ (Osu Shopping District)

2. กิฟุ (Gifu) เมืองที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำกิฟุ มีชื่อเสียงในเรื่องของนกกระเรียนญี่ปุ่น และเทศกาลตกปลากระเรียน มีสถานที่น่าสนใจ เช่น ปราสาทกิฟุ (Gifu Castle), หมู่บ้านชิราคาวาโกะ (Shirakawago) 

3. ทาคายาม่า (Takayama) เมืองเก่าแก่ที่ยังคงรักษาสถาปัตยกรรมแบบญี่ปุ่นดั้งเดิมเอาไว้ได้เป็นอย่างดี ทาคายาม่ามีซอยเล็กซอยน้อยที่น่าเดิน และมีร้านค้าขายของที่ระลึกมากมาย เช่น ย่านซันมาชิสุจิ (Sanmachi Suji), เทศกาลทาคายาม่า (Takayama Festival)

4. มัตสึโมโตะ (Matsumoto) เมืองที่ขึ้นชื่อเรื่องปราสาทมัตสึโมโตะ ซึ่งเป็นหนึ่งในปราสาทไม้ที่ใหญ่ที่สุดและเก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น

5. เกะโระ (Gero) เมืองออนเซ็นที่มีชื่อเสียงโด่งดัง เกะโระมีออนเซ็นให้เลือกแช่หลายแห่ง โดยเฉพาะออนเซ็นกลางแจ้งที่สามารถชมวิวธรรมชาติได้อย่างสวยงาม

 

5. ภูมิภาคคันไซ (Kansai / 関西)

คันไซเป็นภูมิภาคที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน และเป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรมของญี่ปุ่น ที่นี่คุณจะได้สัมผัสกับวัดวาอารามเก่าแก่ ศาลเจ้าชินโต และปราสาทโบราณ

ฤดูกาลที่ดีที่สุดในการเที่ยวคันไซ

ฤดูใบไม้ผลิ (เมษายน-พฤษภาคม) และฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน-ตุลาคม) อากาศเย็นสบาย เหมาะแก่การท่องเที่ยว

แนะนำเมืองน่าเที่ยวของภูมิภาคคันไซ

1. เกียวโต (Kyoto) เมืองหลวงเก่าของญี่ปุ่น ที่ยังคงรักษาสถาปัตยกรรมแบบญี่ปุ่นดั้งเดิมเอาไว้ได้เป็นอย่างดี เกียวโตมีวัดวาอารามที่สวยงามมากมาย เช่น วัดคิโยมิซุ (Kiyomizu-dera) และศาลเจ้าฟูชิมิ อินาริไทชา (Fushimi Inari-taisha)

2. โอซาก้า (Osaka) เมืองที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา มีทั้งแหล่งช้อปปิ้ง ร้านอาหารอร่อย และสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เช่น ปราสาทโอซาก้า (Osaka Castle) และย่านโดทงโบริ (Dotonbori)

5. นารา (Nara) เมืองเก่าแก่ที่มีชื่อเสียงในเรื่องของพระพุทธรูปโตไซไดบุตสึ และกวางป่าที่เดินเล่นอย่างอิสระ สถานที่น่าสนใจ เช่น วัดโทไดจิ (Todai-ji) และสวนนาราโคเอ็น (Nara Park)

6. โกเบ (Kobe) เมืองท่าที่มีวิวทะเลที่สวยงาม และมีอาหารทะเลสดใหม่ สถานที่น่าสนใจ เช่น โกเบ พอร์ท ทาวเวอร์ (Kobe Port Tower), โกเบ ฮาร์เบอร์แลนด์ (Kobe Harborland) และศาลเจ้าอิคุตะ (Ikuta Shrine)

7. ฮิเมจิ (Himeji) เมืองที่ขึ้นชื่อเรื่องปราสาทฮิเมจิ ซึ่งเป็นหนึ่งในปราสาทไม้ที่สวยงามที่สุดในญี่ปุ่น

 

6. ภูมิภาคชิโคกุ (Shikoku / 四国)

ชิโคกุเป็นภูมิภาคที่เงียบสงบ และมีธรรมชาติที่สวยงาม ที่นี่คุณจะได้สัมผัสกับเส้นทางเดินป่า วัดวาอาราม และธรรมชาติที่ยังคงความบริสุทธิ์

ฤดูกาลที่ดีที่สุดในการเที่ยวชิโคกุ

ฤดูใบไม้ผลิ (เมษายน-พฤษภาคม) และฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน-ตุลาคม) อากาศเย็นสบาย เหมาะแก่การท่องเที่ยว

แนะนำเมืองน่าเที่ยวของภูมิภาคชิโคกุ

1. มาทสุยามะ (Matsuyama) เมืองที่มีชื่อเสียงในเรื่องของปราสาทมัตสุยามะ ซึ่งเป็นหนึ่งในปราสาทที่ยังคงสภาพเดิมได้ดีที่สุดในญี่ปุ่น นอกจากนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ที่น่าสนใจ เช่น โดโกะ ออนเซ็น (Dogo Onsen) และภูเขาคัตสึอุระ

2. ทาคามัตสึ (Takamatsu) เมืองหลวงของจังหวัดคางาวะ ที่มีชื่อเสียงในเรื่องของอุด้งซานุกิ และศาลเจ้าโคโตฮิระกู ซึ่งเป็นศาลเจ้าชินโตที่สำคัญแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น นอกจากนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ที่น่าสนใจ เช่น สวนริทสึริน (Ritsurin Garden) และเกาะโชโดชิมะ (Shodoshima Island)

4. โคจิ (Kochi) เมืองหลวงของจังหวัดโคจิ ที่มีชื่อเสียงในเรื่องของแม่น้ำชิมันโตะ (Shimanto River) ซึ่งเป็นแม่น้ำสายตามธรรมชาติที่มีความอุดมสมบูรณ์ มีความยาวทั้งสิ้นเกือบ 200 กิโลเมตร นอกจากนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ที่น่าสนใจ เช่น ปราสาทโคจิ (Kochi Castle) และอุทยานชิโกะกุคาสต์ (Shikoku Karst)

5. โทคุชิมะ (Tokushima) มีชื่อเสียงในเรื่องของการแสดงอะวะโอดริ (Awa Odori)  ซึ่งเป็นเทศกาลเต้นรำที่มีชื่อเสียงระดับโลก นอกจากนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ที่น่าสนใจ เช่น หมู่บ้านอิยะ และภูเขาตุรุกิ (Mount Tsurugi)

 

7. ภูมิภาคชูโกกุ (Chugoku / 中国)

ชูโกกุเป็นภูมิภาคที่มีทั้งภูเขาสูงชัน ทะเลที่สวยงาม และเมืองเก่าแก่ ที่นี่คุณจะได้สัมผัสกับประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน และธรรมชาติสวยงาม 

ฤดูกาลที่ดีที่สุดในการเที่ยวชูโกกุ

ฤดูใบไม้ผลิ (เมษายน-พฤษภาคม) และฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน-ตุลาคม) อากาศเย็นสบาย เหมาะแก่การท่องเที่ยว

แนะนำเมืองน่าเที่ยวของภูมิภาคชูโกกุ

1. ฮิโรชิมะ (Hiroshima) เมืองที่เป็นที่รู้จักไปทั่วโลกจากเหตุการณ์ระเบิดปรมาณู แต่ก็เป็นเมืองที่ฟื้นฟูตัวเองขึ้นมาใหม่ได้อย่างน่าทึ่งมาก มีสถานที่ที่น่าสนใจ เช่น สวนสันติภาพฮิโรชิมะ (Hiroshima Peace Memorial Park) และ โดมอะตอม (Atomic Bomb Dome)

2. โอคายามะ (Okayama) เมืองที่เป็นที่ตั้งของปราสาทโอคายามะ (Okayama Castle) หรือที่รู้จักอีกชื่อว่า ปราสาทอีกา และสวนญี่ปุ่นที่เต็มไปด้วยความร่มรื่นอย่าง สวนโคระคุเอน (Korakuen Garden) นอกจากนี้ยังมีสถานที่ที่น่าสนใจอื่น ๆ อีก เช่น ยูบาระออนเซ็น (Yubara Onsen) และศาลเจ้าคิบิตสึ (Kibitsu Shrine) 

3. คุราชิกิ (Kurashiki) เมืองเก่าแก่ที่ยังคงรักษาสถาปัตยกรรมแบบญี่ปุ่นดั้งเดิมเอาไว้ได้เป็นอย่างดี มีคลอง และบ้านเรือนที่สร้างด้วยไม้ที่ดูเรียบง่าย และสวยงามมาก ๆ อย่าง เขตอนุรักษ์คุราชิกิบิคัง (Kurashiki Bikan Historical Quarter) คือย่านท่องเที่ยวสัมผัสวัฒนธรรมญี่ปุ่นผสมผสานตะวันตกที่ได้รับ 2 ดาวจากหนังสือนำเที่ยวชื่อดัง

5. มัตสึเอะ (Matsue) เมืองที่ตั้งอยู่ริมทะเลญี่ปุ่น มีปราสาทที่สวยงามและเป้นเอกลักษณ์อย่างปราสาทมัตสึเอะ (Matsue Castle) และ และทะเลสาบชินจิ (Lake Shinji) ซึ่งเป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคชูโกกุ

6. ชิมาเนะ (Shimane) มีสถานที่ท่องเที่ยวที่โด่งดังอย่าง เหมืองแร่เงินอิวามิกินซัน (Iwami Ginzan Silver Mine) เป็นเหมืองเงินเก่าแก่ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกของยูเนสโก มีอุโมงค์เหมือง และหมู่บ้านเก่าแก่ให้ชม

 

8. ภูมิภาคคิวชู (Kyushu / 九州)

คิวชูเป็นภูมิภาคที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของญี่ปุ่น เต็มไปด้วยธรรมชาติที่สวยงาม วัฒนธรรมที่หลาหลายและอาหารอร่อย ๆ

ฤดูกาลที่ดีที่สุดในการเที่ยวคิวชู

ฤดูใบไม้ผลิ (เมษายน-พฤษภาคม) และฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน-ตุลาคม) อากาศเย็นสบาย เหมาะแก่การท่องเที่ยว

แนะนำเมืองน่าเที่ยวของภูมิภาคคิวชู

1. ฟุกุโอกะ (Fukuoka) เป็นเมืองที่ทันสมัย มีชีวิตชีวา และมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เช่น หอคอยฟุกุโอกะ (Fukuoka Tower), ศาลเจ้าดาไซฟุ เท็นมังงู (Dazaifu Tenmangu Shrine), เกาะชิกาโนะชิมะ (Shikanoshima Island), อิโตชิมะ (Itoshima) และวัดคะงะ (Kanō Shrine) 

2. คุมาโมโตะ (Kumamoto) เมืองที่ขึ้นชื่อเรื่อง ปราสาทคุมาโมโตะ (Kumamoto Castle) และธรรมชาติที่สวยงาม เช่น ภูเขาอะโซ (Mount Aso): ภูเขาไฟที่ยังมีพลัง และเป็นภูเขาไฟที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น

3. นางาซากิ (Nagasaki) เมืองที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน ผสมผสานวัฒนธรรมตะวันตก และตะวันออกเข้าด้วยกัน มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย เช่น พิพิธภัณฑ์ระเบิดปรมาณูนางาซากิ (Nagasaki Atomic Bomb Museum),สวนสันติภาพนางาซากิ (Nagasaki Peace Park): สวนที่สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์ระเบิดปรมาณู, ชินชิไช (Chinatown) และบ่อนรก หุบเขาอุนเซ็น (Unzen jigoku)

4. นาฮา (Naha)

เมืองหลวงของจังหวัดโอกินาว่า มีสถานที่ท่องเที่ยวที่โดดเด่นมากมาย เช่น หมู่เกาะยาเอะยามะ (Yaeyama Islands), ถ้ำเกียวคุเซนโด (Gyokusendo Cave), แหลมมันซาโมะ (Cape Manzamo),ปราสาทชูริ (Shuri Castle) และพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำชูราอุมิ (Okinawa Churaumi Aquarium)