ท่ามกลางความหนาวเย็นของไซบีเรีย มีทะเลสาบศักดิ์สิทธิ์แห่งหนึ่งที่ชาวพื้นเมืองเรียกว่า ทะเลศักดิ์สิทธิ์ หรือที่เรารู้จักกันในนาม ทะเลสาบไบคาล สถานที่แห่งนี้ไม่ได้มีเพียงความงดงามทางธรรมชาติเท่านั้นนะคะ แต่ยังเต็มไปด้วยตำนาน และเรื่องเล่าที่สืบทอดกันมาหลายชั่วอายุคน และวันนี้ TravelZeed พาไปรู้จักกับเรื่องราวอันน่าทึ่งเหล่านี้กันค่ะ !!!
ตำนานการเกิดทะเลสาบไบคาล
ในยุคดึกดำบรรพ์ ดินแดนแห่งนี้เคยเป็นเพียงพื้นที่ราบกว้างธรรมดา ๆ จนกระทั่งวันหนึ่ง เทพเจ้าบนสรวงสวรรค์ได้มองลงมายังโลกมนุษย์ และเห็นว่าผืนแผ่นดินนี้กำลังจะขาดแคลนน้ำ เทพเจ้าจึงตัดสินใจส่งของขวัญชิ้นพิเศษลงมายังโลก
ตำนานเล่าว่า เทพเจ้าได้โยนก้อนหินศักดิ์สิทธิ์ขนาดมหึมาลงมายังโลก เมื่อก้อนหินได้กระทบลงพื้น พลังอันยิ่งใหญ่ได้ทำให้เกิดรอยแยกขนาดใหญ่บนผืนดิน น้ำจากใต้พิภพได้พวยพุ่งขึ้นมาเติมเต็มรอยแยกนั้น จนกลายเป็นทะเลสาบที่กว้างใหญ่จนถึงปัจจุบัน และชาวเบอร์ยัต (Buryat) ซึ่งเป็นชนพื้นเมืองในแถบนี้เชื่อว่า ก้อนหินก้อนนั้น ยังคงอยู่ที่ก้นทะเลสาบจนถึงทุกวันนี้ และเป็นสาเหตุที่ทำให้ทะเลสาบไบคาลลึกที่สุดในโลก ด้วยความลึกกว่า 1,642 เมตร
ตำนานเทพเจ้าไบคาล ราชาแห่งทะเลสาบผู้ทรงพลัง
ในความเชื่อของชาวพื้นเมือง ทะเลสาบไบคาลไม่ใช่เพียงแค่ผืนน้ำธรรมดา แต่มีวิญญาณศักดิ์สิทธิ์สถิตอยู่ นั่นคือ พ่อไบคาล (Father Baikal) เทพเจ้าผู้ทรงพลัง และมีอารมณ์แปรปรวนดั่งคลื่นในทะเลสาบ
ตำนานเล่ากันว่า พ่อไบคาลมีลูกสาวมากถึง 336 คน แต่ละคนเป็นตัวแทนของแม่น้ำที่ไหลเข้าสู่ทะเลสาบ ทุกวันพวกเธอจะนำน้ำที่ใสบริสุทธิ์มามอบให้พ่อ ทำให้น้ำในทะเลสาบไบคาลมีความใสสะอาดจนสามารถมองเห็นก้นทะเลได้ลึกถึง 40 เมตร ในบรรดาลูกสาวทั้งหมด พ่อไบคาลรักและเอ็นดู แม่น้ำแองการา (Angara) มากที่สุด เธองดงาม และมีจิตใจดี เป็นแม่น้ำสายเดียวที่ไหลออกจากทะเลสาบ แต่ความรักของพ่อก็นำมาซึ่งโศกนาฏกรรมที่กลายเป็นตำนานอันโด่งดังจนถึงทุกวันนี้ค่ะ
ตำนานความรักของแม่น้ำแองการา
เรื่องราวความรักของแม่น้ำแองการา เป็นตำนานที่ชาวบ้านเล่าขานกันมาจนถึงทุกวันนี้ว่า พ่อไบคาลต้องการให้ลูกสาวคนโปรดแต่งงานกับ แม่น้ำอีร์คุต (Irkut) ซึ่งเป็นแม่น้ำที่แข็งแกร่ง และมั่งคั่ง แต่หัวใจของแองการากลับเลือกที่จะรัก แม่น้ำเยนีเซย์ (Yenisei) ผู้มีความสง่างาม ซึ่งอยู่ห่างออกไป และมีอยู่คืนหนึ่ง ขณะที่พ่อไบคาลหลับ แองการาตัดสินใจหนีออกจากบ้าน เพื่อไปพบกับคนรัก เมื่อพ่อไบคาลรู้เข้า ก็โกรธจนสั่นสะเทือนทั้งทะเลสาบ พ่อไบคาลได้ขว้างก้อนหินขนาดมหึมาใส่ลูกสาวผู้ทรยศ ก้อนหินนั้นก็กลายเป็น ชาแมนร็อค (Shaman Rock) ที่ตั้งตระหง่านอยู่จนถึงปัจจุบัน
Shaman Rock หินศักดิ์สิทธิ์ทะเลสาบไบคาล
ชาแมนร็อค (Shaman Rock) ไม่ใช่แค่ก้อนหินธรรมดาที่ตั้งอยู่บน เกาะโอลคอน (Olkhon Island) แต่เป็นก้อนหินขนาดใหญ่ที่ตั้งตระหง่านกลางทะเลสาบไบคาล เป็นสถานที่ที่ชาวไซบีเรียและนักท่องเที่ยวต่างมาเยี่ยมเยือนเพื่อสักการะและขอพร เพราะมีความเชื่อว่าหินก้อนนี้เป็นที่อยู่ของวิญญาณผู้ปกป้องทะเลสาบ เป็นดั่งศูนย์กลางของพลังอำนาจทางจิตวิญญาณที่ลึกลับ ชาวบ้านบางคนกล่าวว่าถ้ามีการทำพิธีบูชาที่ถูกต้อง วิญญาณในหินจะอวยพรให้คนเหล่านั้นได้รับพลังหรือโชคดี ผู้นำทางจิตวิญญาณท้องถิ่นยังคงสืบทอดพิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์นี้ไปยังคนรุ่นหลัง สะท้อนถึงความผูกพันระหว่างคนกับธรรมชาติอย่างลึกซึ้ง
แมวน้ำ ผู้พิทักษ์ทะเลสาบไบคาล
ทะเลสาบไบคาลในรัสเซีย มีสิ่งมีชีวิตพิเศษที่ไม่เหมือนใคร นั่นคือ แมวน้ำไบคาล หรือที่เรียกว่า เนิร์ปา (Nerpa) ซึ่งเป็นแมวน้ำพันธุ์เดียวในโลกที่อาศัยอยู่ในน้ำจืด และเป็นดั่งผู้พิทักษ์แห่งทะเลสาบอันศักดิ์สิทธิ์นี้ เรื่องเล่าของชาวไซบีเรียบอกว่า เนิร์ปา คือ ของขวัญจากสวรรค์ที่ถูกส่งลงมา เพื่อคุ้มครองทะเลสาบไบคาลในยามที่ต้องการความสงบ และบริสุทธิ์ ชาวบ้านเล่าว่าแมวน้ำเหล่านี้จะปรากฏตัว เมื่อทะเลสาบต้องการการดูแลจากพวกเรา เป็นสัญญาณที่กระตุ้นให้เราตระหนักถึงความสำคัญของการเคารพธรรมชาตินั้นเองค่ะ นักท่องเที่ยวที่มีโอกาสได้เห็นเนิร์ปาบอกได้เลยว่า โชคดีมาก ๆ ค่ะ ตำนานแมวน้ำแห่งไบคาลนี้ไม่ได้เป็นแค่เรื่องเล่า แต่ยังสะท้อนถึงความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติในดินแดนไซบีเรียอีกด้วยค่ะ
สายน้ำแห่งการเยียวยา
น้ำในทะเลสาบไบคาลนั้นใสสะอาด และบริสุทธิ์ถึงขนาดที่สามารถดื่มได้โดยไม่ต้องกรอง ชาวบ้านบางคนเชื่อกันว่า น้ำในทะเลสาบไบคาล มีพลังศักดิ์สิทธิ์และช่วยรักษาโรคได้ พวกเขามักนำเอาน้ำจากไบคาลไปใช้ในการประกอบพิธีต่าง ๆ เช่น การทำพิธีขอพร เพื่อความเป็นมงคล มีเรื่องเล่าว่าถ้าใครได้ดื่มน้ำจากไบคาลด้วยความศรัทธา เขาหรือเธอจะได้รับพลังในการรักษาบาดแผลทั้งกาย ใจ และความสมบูรณ์จากธรรมชาติ ในทุกฤดูกาล จะมีพิธีกรรมขอพรจากทะเลสาบ โดยเฉพาะในฤดูหนาวเมื่อน้ำกลายเป็นน้ำแข็ง ชาวบ้านจะทำพิธีบูชาพ่อไบคาลด้วยการเทนม และเหล้าลงบนน้ำแข็ง เพราะเชื่อว่าจะนำมาซึ่งโชคลาภ และความอุดมสมบูรณ์
ข้อปฏิบัติ และการอยู่ร่วมกับธรรมชาติอย่างเคารพที่สืบทอดมาจากตำนาน
จากตำนาน และความเชื่อเหล่านี้ ได้กลายเป็นข้อปฏิบัติที่ชาวบ้าน และนักท่องเที่ยวควรรู้ ดังนี้
1. การเคารพสถานที่ และการอนุรักษ์ธรรมชาติ
- ห้ามส่งเสียงดังรบกวนความสงบของทะเลสาบ
- ช่วยกันดูแลความสะอาดไม่ทิ้งขยะ และไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม
- เคารพกฎระเบียบของแต่ละพื้นที่
- ไม่จับสัตว์น้ำในเขตอนุรักษ์
- ใช้น้ำอย่างประหยัด
2. พิธีกรรมเมื่อมาเยือน
- ทำพิธีขอขมาก่อนลงเรือ
- ขออนุญาตถ่ายรูปในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์
- ทำพิธีไหว้เทพเจ้าไบคาล เมื่อมาถึงครั้งแรก
3. การปฏิบัติตนในพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์
- แต่งกายสุภาพเรียบร้อย
- ไม่ดื่มเครื่องดื่มมึนเมาในเขตศักดิ์สิทธิ์
- ไม่เก็บสิ่งของใด ๆ จากพื้นที่กลับบ้าน