หลาย ๆ คนอาจจะไม่เคยได้ยินชื่อ ฟูก๊วก (Phu quoc) มาก่อน ว่าที่นี่คืออะไร ตั้งอยู่ที่ไหน วันนี้เราจะพาไปทำความรู้จัก “ฟูก๊วก” พร้อมแนะนำ 3 สถานที่สำหรับคนที่ชอบถ่ายรูปค่ะ มีทริคเด็ด ๆ พร้อมพิกัดถ่ายรูปมาให้ด้วยนะ พร้อมแล้วไปชมกันเลย!

รู้จัก ฟูก๊วก เกาะใต้แห่งเวียดนาม

        ฟูก๊วก (Phú Quôc/Phu quoc) เกาะทางใต้ของเวียดนาม ตั้งอยู่ในบริเวณอ่าวไทย ใกล้กันกับประเทศกัมพูชา ฟูก๊วกจัดได้ว่าเป็นเกาะท่องเที่ยวใหม่ที่ใหญ่ที่สุดของเวียดนาม ซึ่งตอนนี้กำลังถูกพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวอันดับต้นของประเทศ และกระแสตอบรับก็ดีเลยทีเดียว เนื่องจากเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ประหยัดงบ มีสถานที่ท่องเที่ยวที่เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย

“หอยนางรมกินแบบสด ๆ หวานฉ่ำสุด ๆ ~ และอาหารทะเลสดมากที่นี่สดมากด้วยค่ะ!”

สภาพอากาศ

        ด้วยความที่เป็นเกาะที่ถูกล้อมรอบด้วยทะเลทั้งสี่ด้าน ทำให้สภาพอากาศที่เกาะฟูก๊วกนั้นร้อนชื้นคล้ายกับประเทศไทย โดยจะมีอุณหภูมิอยู่ที่ประมาณ 27 – 35 องศาเซลเซียส ซึ่งบนเกาะจะมีอยู่ด้วยกัน 2 ฤดู ได้แก่ ฤดูแล้งและฤดูฝน 

• ฤดูแล้ง เริ่มต้นช่วงปลายตุลาคม – เมษายน
• ฤดูฝน เริ่มต้นช่วงปลายพฤษภาคม – ต้นตุลาคม

สำหรับเราแนะนำให้ไปช่วงฤดูแล้งค่ะ เพราะจะได้ไปเล่นน้ำ นอนอาบแดด ได้ทำอะไรหลายอย่างมากกว่าฤดูฝนแน่นอน แต่ก็อย่าลืมพกร่ม แว่นกันแดด และครีมกันแดดไปด้วยนะคะ สำคัญมาก! 

ค่าเงิน / การแลกเงิน

• สกุลเงินเวียดนาม เรียกว่า ดองเวียดนาม (VND) อัตราการแลกเปลี่ยนตอนที่เราไปตก 1 บาท = 650 ดอง ใครจะไปสามารถเช็คค่าเงินจาก Google ได้เลย
• การแลกเงิน สามารถแลกได้ที่ เคาน์เตอร์ Superich, สนามบินที่เวียดนาม (แต่เราว่าเรทแพง), ไกด์หรือหัวหน้าทัวร์ (เราแลกกับหัวหน้าทัวร์หรือไกด์เพราะถูกกว่าค่ะ)

ของที่เกาะฟู้โกว๊กแพงมั้ย? 

        ราคาของที่ฟูก๊วก ต้องยอมรับว่าของบนเกาะราคาแพงกว่าของที่เวียดนาม แต่ก็ไม่ได้ถึงกับหูฉีก ถือว่าแพงในระดับที่รับได้ค่ะ

แนะนำให้แลกเงินที่ Superich เพราะเรทดีสุด (แต่เราไปกับทัวร์ แลกกับไกด์ค่ะ เรทพอกัน)

การเดินทางไปยังเกาะฟูก๊วก & แผนที่เกาะ

        จากประเทศไทยเดินทางไปเกาะฟูก๊วก ปัจจุบันยังมีอยู่ทางเดียวคือนั่งเครื่องบิน เราขึ้นสนามบินสุวรรณภูมิไปเกาะฟู้โกว๊กใช้เวลาไม่ถึง 1 ชั่วโมง (55 นาที) งีบแปปก็เดียวถึง สบายมาก

เกาะฟูก๊วกมีพื้นที่ 574 ตารางกิโลเมตร มากกว่าภูเก็ตแค่ประมาณ 30 ตารางกิโลเมตรเอง! 

 

        ที่นี่จะแบ่งเป็นเกาะฝั่งเหนือกับฝั่งใต้ (เหมือนพัทยาเลย) โดยฝั่งเหนือจะได้รับการพัฒนา มีแหล่งท่องเที่ยวเจริญ ๆ เยอะกว่าทางฝั่งใต้ ใครจะวางแพลน เที่ยวฝั่งใต้ก่อนแล้วค่อยไปฝั่งเหนือยาว ๆ ได้เลยค่ะ

การเดินทางบนเกาะฟูก๊วก 

        ระหว่างเที่ยวเกาะฟูก๊วกแต่ละที่ใช้เวลาไม่นานเลยค่ะ พื้นที่กว้างกว่าพัทยาบ้านเราไม่เกิน 200 กิโลเมตร ถ้าไปจากฝั่งใต้ขึ้นเหนือใช้เวลาเพียงประมาณ 45 นาที (เรานั่งรถทัวร์นะคะ) ซึ่งโดยปกติจะเห็นนักท่องเที่ยวเช่ารถจักรยานยน เช่ารถ แท็กซี่หรือ Grab ค่ะ 

คนที่นี่ใช้รถจักรยานไฟฟ้ากันเป็นส่วนใหญ่ ถึงขนาดที่โรงแรมมีแท่นให้ชาร์จแบบเยอะมาก

มาถึงแล้วจ้า พาร์ทแนะนำ 3 ไฮไลท์ที่ฟูก๊วกสำหรับสายถ่ายรูป ที่เราคิดว่าถ่ายรูปออกมาได้สวย เทสดีที่สุด! จะมีที่ไหนบ้างไปชมกันเล้ยยยย

3 ไฮไลท์เด็ดสำหรับสายถ่ายรูปที่ ฟูก๊วก (Phu Quoc)

1. ล่องเรือที่ แกรนด์เวิลด์ ฟูก๊วก (Grand world Phú Quôc) 

“ที่นี่มีฉายาว่าเป็นสถานที่ที่ไม่เคยหลับไหล เพราะช่วงไฮซีซั่นแกรนด์เวิลด์ฟูก๊วกจะเปิดต้อนรับนักท่องเที่ยวตลอดเวลา”

กิจกรรมภายในแกรนด์เวิลด์ ฟูก๊วก (Grand world Phú Quôc)

• ชมโชว์การแสดงช่วงกลางวันและกลางคืนต่าง ๆ เช่น โชว์เลเซอร์ น้ำพุ ศิลปะการต่อสู้โดยไม่ใช้อาวุธ 
• ชมสถาปัตยกรรมสวย ๆ ในเมือง พร้อมถ่ายรูป
• ล่องเรือกอนโดลา
• ชมพิพิธภัณฑ์หมีเทดดี้ 
• ซื้อของกิน เดินเล่น 

        พอมาถึงแล้วเราจะเจอลานกว้าง สิ่งที่จะเห็นเป็นอย่างแรกคือ The Bamboo legend  ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมที่สร้างจากไม้ไผ่ที่ใหญ่ที่สุดในเวียดนาม ใช้ไม้ไผ่สร้างถึง 3000 กว่าตัว

“คนน้อย รูปสวย ข้อดีของ Low Season อ่านะ”

“เดินเข้ามาเราก็จะเจอจุดขายตั๋วนั่งเรืออยู่ข้างหน้าเลยค่ะ หลังจุดขายตั๋วก็จะเป็นแบบนี้”

“เซอร์ไพรส์หนึ่ง! ไอติมผัดของไทยดังอยู่นะเนี่ย ที่นี่เขาเริ่มขายที่ 30,000 VND (ประมาณ 40 กว่าบาท)”

        นี่แหละค่ะ เค้าถึงเรียกกันว่า เวนิสแห่งเวียดนาม ถ้าเดินไปถ่ายรูปข้าง ๆ เมืองจะได้รูปสวยมาก ถ่ายมุมไหนก็ออกมาสวยแน่นอนค่ะ แนะนำเลย

        ไปกันต่อที่เรือกอนโดลากัน มาถึงแล้วจะไม่ล่องเรือกอนโดลาได้ไงเนอะ สำหรับเราคิดว่าราคาไม่แพงเกินไปนะ เพราะงั้นจัดไป!

ข้อมูลควรรู้ล่องเรือกอนโดลา 

• มีเคาเตอร์ขายตั๋ว (Ticket counter) เข้าไปซื้อตั๋วตรงนั้นเลยค่ะ 
• ค่านั่งราคา 200,000 VND/คน แปลงราคาเอากันเองน้า (ตอนนั้น 100 บาทไทย  =  65,000 VND)
• นั่งได้มากสุด 4 คน  
• เวลาล่องเรือ 15-20 นาที

“เห็นสะพานมั้ย ถ้าเดินมาถ่ายรูปตรงสะพานก็ได้รูปสวยเหมือนกันนะ แต่เราไม่ได้ขึ้นไปถ่าย”

        เซอไพรส์อีกรอบ! ลุงที่พายเรือถ่ายรูปให้ทุกมุมเลย จัดท่าให้ด้วยนะ มืออย่างนี้ ขาวางแบบนี้ 5555 เลยทำให้ได้รูปกับวิดีโอมาลง Story IG เยอะมากกก การันตีว่าสายถ่ายรูปชอบแน่นอน จริง ๆ อีกที่นึงที่สายถ่ายรูปน่าจะชอบคือ พิพิธภัณฑ์หมีเทดดี้นะ มีหมีตัวใหญ่ให้กอดด้วย

สรุปการเที่ยว Grand world Phú Quôc

แกรนด์เวิลฟูก๊วกเป็นที่เที่ยวเน้นกิจกรรมให้เดินเล่น กิน ถ่ายรูป ชมการแสดงช่วงระหว่างวันและช่วงดึก 

• พิกัด: Vinpearl Grand World Phu Quoc
• เวลาที่ใช้: ขั้นต่ำ 1 ชั่วโมงครึ่ง
• ช่วงเวลาถ่ายรูป: เช้าและก่อนพระอาทิตย์ตก 

2. Sunset town Phu quoc

        Sunset town หรือเมืองเมดิเตอร์เรเนียนที่ทุกคนใฝ่ฝัน! มุมถ่ายรูปเยอะตั้งแต่ตัวเมืองข้างล่าง ไปจนถึงจุดที่ชมพระอาทิตย์ตก ที่นี่จึงเป็นจุดไว้เดินเล่นชิล ๆ ยามเช้าหรือยามเย็น เหมาะกับการชมพระอาทิตย์ตกเป็นที่สุด

แนะนำจุดชมพระอาทิตย์ตกพร้อมพิกัด

จุดที่ 1

พิกัด: Observatory đài quan sát

        เราถึง Sunset town ช่วงพระอาทิตย์ตกพอดี เลยจะมีรูปให้ชมแค่รูปนี้ (แถมรูปย้อนแสงอีกต่างหาก) แต่มุมนี้คือดีจริง ๆ นะ

จุดที่ 2

พิกัด: Hon Thom Departure Terminal – Sun World Thom Nature Park

        กว่าจะเดินถึงน่าจะมืดแล้วเราเลยไม่ได้ไปเซอเวย์ แต่ดูเหมือนจะถ่ายออกมาสวยเหมือนกันนะ ถึงมันจะยังเป็นตึกที่ร้างอยู่ เดี๋ยวใครไปเที่ยวจะตกใจ (เลยบอกไว้ก่อน) ไม่ใช่เพราะล้มละลายหรืออะไรหรอก แต่เพราะหลังจากสร้างเมืองเมดิเตอร์เรเนียนเสร็จก็มีนักธุรกิจมาจับจองมากมาย ตอนนี้ก็เหมือนรอเอาของมาลงเท่านั้น

จุดที่ 3

พิกัด: (ร้านอาหาร) ไม่มีพิกัดแต่อยู่ใกล้กับ Kiss The Star – Sun Signature show

        มุมนี้เดินมาจากพิกัดที่แล้วนิดเดียวก็ถึงแล้ว ฝั่งตรงข้ามยังเป็นจุดขึ้น – ลงกระเช้าที่คนอื่นชอบถ่ายรูปกัน แต่ตอนเรามากระเช้าดันปิด (เศร้า)

        พูดถึงเรื่องกระเช้าปิด ไกด์บอกว่าช่วงนี้เป็นช่วงที่เด็ก ๆ เวียดนามปิดเทอมด้วย คงถือว่าเป็นโลว์ซีซั่นของเขา เพราะฉะนั้นเลยถือโอกาสปิดปรับปรุงซะเลย(มั้ง) และถ้าถามว่า กระเช้าปิดแบบนี้เราเดินทางมาเกาะยังไง? คำตอบคือนั่งเรือสปีดโบ๊ทจ้าาา

        ใครอยากได้พิกัดถ่ายรูป เราแนะนำเปิด Google Map จากจุดที่เราให้แล้วคลิ๊กดูรีวิวแต่ละสถานที่นะ บอกเลยเว่าเพียบ! ทั้งชายหาด บันไดเอย หอนาฬิกาเอย มีครบทุกองค์ประกอบของสายถ่ายรูปแน่นอน!

สรุปการเที่ยว Sunset town

ที่นี่เหมาะกับการถ่ายรูป เดินเล่นชมบรรยากาศ หาร้านอาหารสักร้านเพื่อรับประทานอาหารทะเลและนั่งชมพระอาทิตย์ตกกับครอบครัว ยิ่งถ้ามากับคนรักจะยิ่งโรแมนติกขึ้นไปอีก

• เวลาที่ใช้: ขั้นต่ำ 1 ชั่วโมงครึ่ง
• ช่วงเวลาถ่ายรูป: ก่อนพระอาทิตย์ขึ้นและก่อนพระอาทิตย์ตก

3. พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ Vinwonders Phu quoc

        มาถึงพิกัดสุดท้ายแล้ว! กับพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ (Vinke & Vinpearl Aquarium) ที่ตั้งอยู่ในสวนสนุก Vinwonders Phu quoc ซึ่งตัวพิพิธภัณฑ์จะอยู่ใน รูปปั้นเต่ายักษ์ ซึ่งน้องได้รับการยอมรับว่าเป็นพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำรูปเต่าที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดย World Records Union

ข้อมูลที่ควรรู้ก่อนเที่ยว Vinke & Vinpearl Aquarium

• เวลาเปิด: จันทร์-ศุกร์ เปิด 10:00 น. – 22:00 น. / วันหยุดและเสาร์-อาทิตย์ เปิด 9:30 น. – 22:00 น.
• ค่าเข้าชม Aquarium: จันทร์ – ศุกร์ 190.000 VND (สูงไม่เกิน 140 cm. 140.000 VND) / วันหยุดและเสาร์-อาทิตย์ 250.000 VND (สูงไม่เกิน 140 cm. 190.000 VND)
• ชมการแสดงนางเงือก: จันทร์-ศุกร์ ช่วง 11:00 น. – 11:10 น. และ 14:00น. – 14:10 น. / วันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุด ช่วง 11:00 น. – 11:10 น. / 14:00 น. – 14:10 น. /17:30 น. -17:40 น./20:00 น. – 20:10 น.
• ชมให้อาหารเพนกวิน: ทุกวัน ช่วง 16:00 น. – 16:30 น.
• สัมผัสสัตว์เลื้อยคลาน: ทุกวัน ช่วง 16:00 น. – 17:00 น.
• ชมให้อาหารปลา: ทุกวัน ช่วง 10:30 น. – 10:45 น. / 17:00 น. – 17:15 น.

 

        เมื่อมาถึงเราจะได้เห็นหน้าต่างอควาเรียมที่ใหญ่มาก มันคือกระจกอะคริลิกที่กว้างถึง 200 ตารางเมตร ถือว่าเป็นอควาเรียมที่ใหญ่ที่สุดในโลก และนี่ก็คือมุมแรกที่เราต้องไปถ่ายรูป!

เคล็ดลับ: ถ่ายรูปที่อควาเรียมยังไง ไม่ให้ติดคนเยอะ

        เคล็ดลับของเราก็คืออ…! การไปถ่ายรูปในช่วงที่คนไปชมการแสดงนางเงือกนั่นเอง! ข้อนี้สำคัญมากกก โดยการแสดงนางเงือกจะจัดในช่วง 11:00 น. – 11:10 น. และ 14:00น. – 14:10 น.

* รูปหน้ากระจกอควาเรียมยักษ์ต้องถ่ายก่อนการแสดงเงือกนะ เพราะเค้าจะแสดงเงือกตรงนั้น

 “คนน้อยมาก เลยเลือกมุมถ่ายได้นาน ที่สำคัญไม่ต้องรีบถ่ายเพราะไม่มีคนรอ ปังสุด!”

        สำหรับเราก็เฉย ๆ กับการแสดงไม่ได้อยากดูเท่าไหร่ แต่ใครที่อยากดูอาจจะเลือกดูช่วงเช้า แวะไปทานข้าว แล้วกลับมาถ่ายรูปช่วงบ่าย 2 ก็ได้ค่ะ

สรุปการเที่ยว Aquarium

Aquarium Vinpearl เน้นกิจกรรมชมการแสดง ให้อาหารสัตว์ ชมความน่ารักของปลา เพนกวิน แมงกระพรุน และถ่ายรูป จริง ๆ ข้างในมีภัตราคารด้วยนะ ฟีลแบบกินไปชมสัตว์ไป เลิศมาก แต่เราไม่ได้ไปกิน

• พิกัด: Thủy Cung Vinpearl Land Phú Quốc
• เวลาที่ใช้: ขั้นต่ำ 40 นาที
• ช่วงเวลาถ่ายรูป: ทั้งวัน *อย่าลืมอ่านเคล็ดลับและวางแผนนะ*

แนะนำ 3 ของฝากจาก ฟูก๊วก (Phu quoc)

ที่ฟูก๊วกของฝากยังมีไม่ค่อยเยอะค่ะ โดยปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์เด่น ๆ ด้วยกัน 3 อย่างคือ

1. น้ำปลา (150.00 – 200.000 VND/ลิตร)

        น้ำปลาของที่นี่จะมีหลากหลายชนิด โดยสูตรดั้งเดิมจะทำมาจากปลาแอนโชวี่หมักในถังเกลือขนาดใหญ่ โดยที่นี่ผลิตน้ำมาปลามานานกว่า 200 ปี การท่องเที่ยวของเวียดนามได้ยกให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่เป็นนามธรรมของชาติ และตัวผลิตภัณฑ์พึ่งจะกลับมาดังในช่วง 2012 นี้เองค่ะ

2. พริกไทยดำ (222.000 VND – 380.000 VND)

        พริกไทยดำของที่นี่ขึ้นชื่อว่าเป็นพริกไทยดำระดับโลกเลยนะคะ เราคาดว่าการปลูกพริกไทยน่าจะเป็นเกษตรกรรมหลักของที่นี่เพราะผลิตพริกไทยดำมากถึง 1,000 ตัน/ปี ส่วนใหญ่จะปลูกทางตอนเหนือและกลางของเกาะ (ไกด์บอกว่าสมัยก่อนมีการส่งให้ไปต่างชาติด้วย) มีพริกไทย 3 ประเภทคือ พริกไทยดำ พริกไทยขาว และพริกแดง

3. หอยมุก

        ที่ไปล่าสุด เหมือนทางเวียดนามพยายามจะดันหอยมุกให้เป็นอีกผลิตภัณฑ์สำคัญของฟูก๊วก โดยใช้เทคนิคจากไทยนี่แหละ ประมาณว่าเอาเปลือกหอยมาทำลูกกลม ๆ แล้วใส่เข้าไปในตัวหอยมุกอีกที จะได้หอยมุกที่ดูมีคุณภาพขึ้น ราคาเริ่มต้นเราไม่แน่ใจ แต่ราคา 2,000 บาท ก็มีเหมือนกันค่ะ ส่วนตัวไม่เคยไปดูโรงงานทำไข่มุกที่ไทยด้วยเลยไม่รู้ว่าที่ไหนถูกหรือแพงกว่ากัน

ฟูก๊วก (Phu quoc) โดยรวมแล้วเหมาะกับใคร คุ้มค่าต่อการไปมั้ย?

        เราคิดว่าฟูก๊วกเหมาะกับการมาเที่ยวแบบครอบครัว จะสังเกตได้ว่าสถานที่เที่ยวเหมาะกับเด็กไปจนถึงวัยรุ่น เช่น สวนสนุก สวนน้ำ การแสดงโชว์ต่าง ๆ แต่ในขณะเดียวกันก็มีสถานที่สำหรับวัยทำงานอย่างเราให้ได้ถ่ายรูป เดินเล่น ทานข้าวกับครอบครัว ส่วนผู้สูงอายุน่าจะชอบวิวกระเช้า วิวพระอาทิตย์ตก หรือการได้ดูหลาน ๆ เล่นมากกว่า

        นอกจากนี้ฟูก๊วกยังเหมาะกับคนที่ต้องการพาครอบครัวเที่ยวต่างประเทศครั้งแรก หรือคนที่ต้องการเที่ยวแบบประหยัดงบด้วยเพราะค่าใช้จ่ายถือว่าไม่แพงมาก (แต่ต้องยอมรับว่าแพงกว่าที่เวียดนาม เพราะเป็นเกาะ)