ประเทศจีนมีกี่ฤดู คำถามยอดฮิตสำหรับใครที่กำลังมีแพลนจะไปเที่ยวประเทศจีน หรือไปทัวร์จีน มีช่วงเวลาไหนและฤดูไหนบ้างที่เหมาะสมสำหรับการไปเที่ยวจีนที่สุด ซึ่งในบทความนี้ ทาง Travelzeed ได้รวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับประเทศจีน ไว้ให้ทุกท่านได้ศึกษาก่อนบินเข้าสู่น่านฟ้าจีนกันค่ะ
ข้อมูลทั่วไปของประเทศจีน
- เวลา: เวลาของจีนกับไทยต่างกันกี่ชั่วโมง สำหรับประเทศจีนมีเวลามาตรฐานจีนหรือปักกิ่ง ซึ่งเป็นเขตเวลาที่ใช้ในจีนแผ่นดินใหญ่ โดยเวลาจะเร็วกว่าเวลามาตรฐานเชิงพิกัด 8 ชั่วโมง แต่มีบางมณฑลที่ใช้เวลาต่างกัน เช่น เขตปกครองตัวเองชินเจียงอุยกูร์ โดยเวลาจะช้ากว่าเวลามาตรฐานจีน 2 ชั่วโมง เนื่องจากที่ตั้งอยู่ตะวันตกของประเทศ ทั้งนี้เวลาที่ห่างจากประเทศไทยคือ เร็วกว่า 1 ชั่วโมง
- อัตราการแลกเงิน: เงินของประเทศคือ หยวน โดยอัตราการแลกเงินปัจจุบันอยู่ที่ 1 หยวน เท่ากับ 4.87 บาท และอัตราแลกเปลี่ยนของดอลลาร์กับหยวนคือ 1 ดอลลาร์ เท่ากับ 7.24 หยวน
- อินเตอร์เน็ต: ในประเทศจีนเป็นประเทศที่มีการจำกัดการใช้อินเตอร์เน็ต ที่ไม่สามารถใช้บางเว็บไซต์ได้ อาทิ Facebook เป็นต้น ดังนั้นถ้าจะเดินทางท่องเที่ยวในประเทศจีน แนะนำว่าควรจะศึกษาให้เรียบร้อยก่อนถึงประเทศจีนน้า
- อาหาร: สำหรับเมนูในอาหารจีนยอดนิยมมีหลายเมนู เช่น เป็ดปักกิ่ง เสิร์ฟในรูปแบบแผ่นหนังบางกรอบ ที่มาพร้อมกับแผ่นบางห่อ ทานคู่กับซอสหวาน, ติ๋มซำ อาหารเรียกน้ำย่อย เป็นอาหารที่ปรุงโดยการนึ่ง อย่างขนมจีบหรือซาลาเปา และ หมาล่า พลาดไม่ได้กับเมนูยอดฮิตในไทย ความเผ็ดร้อนที่ชาลิ้น ซึ่งใครที่ไปถึงประเทศจีนแล้วพลาดไม่ได้
- สถานที่ท่องเที่ยว: สำหรับประเทศจีนมีที่เที่ยวมากมาย ทั้งสายธรรมชาติ และสายเดินเล่นในเมือง โดย ที่เที่ยวจีน ที่น่าสนใจมีดังนี้ เซี่ยงไฮ้, กำแพงเมืองจีน, จัตุรัสเทียนอันเหมิน, เดอะบัน, อุทยานแห่งชาติจางเจียเจี้ย และ ฮาร์บิน เป็นต้น
ประเทศจีนมีกี่ฤดู ไปเที่ยวเมืองไหนให้เหมาะกับฤดูกาล
สำหรับประเทศจีนมีด้วยกัน 4 ฤดูกาลคือ ฤดูหนาว, ฤดูร้อน, ฤดูใบไม้ร่วง และฤดูใบไม้ผลิ ซึ่งทั้ง 4 ฤดู ของจีนนี้มีเมืองไหนที่เหมาะกับการท่องเที่ยวในแต่ละฤดูบ้างไปดูกัน
ฤดูหนาว
ฤดูหนาวของประเทศจีน เริ่มตั้งแต่พฤศจิกายน-มีนาคม และฤดูหนาวประเทศจีนกี่องศา โดยจะมีอุณหภูมิอยู่ประมาณ 10 องศาเซลเซียสลงมา โดยเมืองที่น่าท่องเที่ยวในฤดูหนาว มีหลายเมืองที่สามารถไป ชมหิมะ ดูวิวทะเลสาบ และเยี่ยมบรรยากาศชนบทของประเทศ มีที่ไหนบ้างไปดูกัน
- เมืองฮาร์บิน เมืองแห่งน้ำแข็ง มีอุณหภูมิลดสูงสุดที่ -40 องศา ซึ่งเป็นเมืองที่มีฤดูหนาวนานกว่าเมืองอื่น มีวัฒนธรรมที่เกี่ยวกับหิมะและน้ำแข็ง ได้รับฉายาว่า ปารีสแห่งตะวันออก ด้วยสถาปัตยกรรมที่สวยงาม แปลกตา สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ คือ เทศกาลแกะสลักน้ำแข็ง มารังสรรค์เป็นเมือง ปราสาทราชวัง เป็นต้น
- เมืองแชงกรีล่า เมืองที่สวยงามแห่งเทือกเขาหิมาลัย เมืองแห่งนิยาย โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรม ซึ่งเมืองแชงกรีล่ามีนครหลวงชื่อว่า ซัมบาลา นครแห่งความสุข มั่นคั่งและบริสุทธิ์ มีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจ อาทิ ภูเขาหิมะลือข่า และ วัดซงจ้านหลิน เป็นต้น
- เมืองเสฉวน จิ่วจ้ายโกว ที่เที่ยวที่สวยงาม ในฤดูหนาว หิมะตกเริ่มต้นเดือนพฤศจิกายน ถึง เดือนกุมภาพันธ์ ปกคลุมไปด้วยหิมะสีขาวโพลน ทะเลสาบกลายเป็นผืนนํ้าแข็ง ให้บรรยากาศโรแมนติกปนเหงาอย่างบอกไม่ถูก เป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวที่ไม่ควรพลาดในช่วงหน้าหนาว
ฤดูร้อน
ฤดูร้อนของประเทศจีน เริ่มต้นตั้งแต่พฤษภาคม-สิงหาคม และฤดูร้อนประเทศจีนกี่องศา โดยอุณภูมิโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 22 องศาเซลเซียส สำหรับเมืองที่น่าท่องเที่ยวจะมีดังนี้
- เมืองจี๋หลิน เมืองที่ตั้งอยู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ดินแดนที่เคยมีชาวแมนจูอาศัยอยู่ โดยเคยเป็นส่วนหนึ่งของแค้วนแมนจูเรีย สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจของเมืองจี๋หลิน คือ ทะเลสาบสวรรค์ (Heaven Lake) เป็นทะเลสาบบนภูเขาไป๋ซาน ซึ่งสวยงามอันดับต้นๆของประเทศจีน
- เมืองลิ่วผานสุ่ย เมืองนี้ตั้งอยู่ที่ทางตะวันตก มณฑลกุ้ยโจว ประเทศจีน อุณภูมิของเมืองนี้หน้าร้อนอยู่ประมาณ 19 องศาเซลเซียส ซึ่งอากาศกำลังดี ไม่ร้อนจนเกินไป เหมาะสำหรับเดินเล่นในเมือง มีพื้นที่ชมป่าไม้มากมาย
ฤดูใบไม้ร่วง
ฤดูใบไม้ร่วงของประเทศจีน เริ่มต้นตั้งแต่กันยายน – ตุลาคม อุณภูมิโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 10-22 องศาเซลเซียส โดยในช่วงฤดูใบไม้ร่วงนี้มีโอกาสเกิดฝนตกค่อนข้างมาก สำหรับเมืองที่น่าท่องเที่ยวในฤดูใบไม้ร่วง มีดังนี้
- เมืองเสฉวน ตั้งอยู่บริเวณตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศจีน อยู่ใกล้กับที่ราบสูงของธิเบต สถานที่น่าสนใจคือ ถนนโบราณจินหลี่ ย่านการค้าที่สำคัญของประเทศจีน ตั้งแต่สมัยราชวงศ์ฉิน (ปีค.ศ.221-206 ก่อนคริสตกาล) และหุบเขาจิ่วจ้ายโกว มีทะเลสาบสีฟ้าใส สวยงาม ต้นไม้ที่สีสันแปลกตา รอให้นักท่องเที่ยวได้มาสัมผัส
- เมืองซินเจียง เมืองที่มีทรัพยากรธรรชาติเป็นจุดเด่น มีเทือกเขามากกว่า 56 เปอร์เซ็น และพื้นที่แอ่งกระทะกว่าร้อยละ 44 เปอร์เซ็น ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ป่าไม้ มีสถานที่น่าสนใจ คือ อุทยานคานาสือ ภูเขาที่ปกคลุมไปด้วยต้นไม้สีเหลืองและแดงไล่เฉดสีกันอย่างลงตัว ทำให้ที่นี้ได้รับฉายาว่า สวิสเซอร์แลนด์แดนมังกร
ฤดูใบไม้ผลิ
ฤดูใบไม้ผลิของประเทศจีน เริ่มต้นตั้งแต่มีนาคม-พฤษภาคม อุณหภูมิโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 10-22 องศาเซลเซียส สำหรับเมืองที่น่าท่องเที่ยวในฤดูใบไม้ผลิ มีดังนี้
- เมืองกุ้ยหลิน ดินแดนแห่งขุนเขาและสายน้ำ มีธรรมชาติเป็นจุดเด่น ด้วยบรรยากาศที่เงียบเหมาะสำหรับการพักผ่อนหย่อนใจ มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย อาทิ แม่น้ำหลีเจียง, เขางวงช้าง, นาขั้นบันไดหลงเซิ่น และถ้ำขลุ่ยอ้อ เรียกได้ว่ามาเที่ยงกุ้ยหลินครบที่สุด ทั้งทะเลและภูเขา
- เมืองจางเจียเจี้ย เมืองที่มีภูเขาที่สวยที่สุดของประเทศจีน โดยภูเขาที่ว่านั้นคือ ภูเขาเทียนเหมินซาน หรือประตูสวรรค์ มีวิวที่งดงาม โดยการเดินทางไปภูเขาเทียนเหมินซาน สามารถไปได้ด้วย การนั่งกระเช้า ชมความสวยงามของป่าไม้ ซึ่งกระเช้าที่นี้ถือเป็นหนึ่งเส้นทางกระเช้าที่ยาวที่สุดในโลก มีช่องเขาที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ อยู่เหนือบันได 999 ขั้น มีความสวยงามตอนเวลาที่แสงอาทิตย์ลอดผ่าน
🚩ไปประเทศจีนครั้งแรก เรื่องที่ควรรู้🚩
ไปจีนใช้แอปอะไรจ่ายเงิน
คนจีนส่วนมากไม่ว่าจะเป็นเด็ก ผู้ใหญ่ หรือคนมีอายุ มักจะใช้ Alipay และ WeChat ในการแสกนจ่าย และเมื่อไม่นานมานี้ True Money Wallet ก็สามารถใช้ในจีนได้แล้ว เพียงแสกนจ่ายร้านที่มีสัญลักษณ์ Alipay จ่ายได้ง่าย ไม่ต้องแลกเงิน
ห้องนํ้าจีนสกปรกไหม ในปี 2024
ห้องน้ำจีนในปัจจุบัน โดยเฉพาะในเมืองและสถานที่ท่องเที่ยว มีการรักษาความสะอาดอย่างยอดเยี่ยม เนี๊ยบและทันสมัย มีคนคอยทำความสะอาดตลอด ข้อเสียคือ ไม่มีสายฉีดตูด ที่คนไทยคุ้นเคยเท่านั้นเอง ออกนอกเมืองหรือชนบทอาจมีห้องนํ้าที่สกปรกอยู่บ้าง ควรพกทิชชู่ในกรณีฉุกเฉินด้วย
ข้อห้ามในการขึ้นรถไฟความเร็วสูงจีน
การขึ้นรถไฟความเร็วสูงมีการจำกัดสิ่งของ ขนาดและนํ้าหนักของสัมภาระ ดังนี้
- นํ้าหนักของสัมภาระ ไม่เกิน 130 เซนติเมตร โดยวัดจากความกว้าง + ความยาว + ความสูง และรถไฟประเภทอื่นไม่เกิน 160 เซนติเมตร
- น้ำหนักของสัมภาระ ผู้ใหญ่นำขึ้นไปได้ไม่เกิน 20 กิโลกรัม และเด็กไม่เกิน 10 กิโลกรัม
- ของที่ห้ามนำขึ้นรถไฟความเร็วสูง บางอย่างห้ามนำขึ้นโดยเด็ดขาด และสิ่งของบางอย่างสามารถนำขึ้นได้ แต่มีการจำกัดปริมาณ
- สิ่งที่อาจนำไปต่อยอดเป็นอาวุธได้ เช่น มีด ค้อน ขวาน ปืน กระสุน
- นํ้ายาเคลือบหรือสารเคมีต่างๆ เช่น นํ้ายาทาเล็บ นํ้ายาย้อมผม (ห้ามเกิน 20 มิลลิลิตร)
- สเปรย์ของเหลวต่างๆ เช่น สเปรย์ฉีดผม โฟมใส่ผม นํ้าหอมปรับอากาศ ยาฆ่าแมลง (ห้ามเกิน 120 มิลลิลิตร)
- ไม้ขีดไฟ (ห้ามเกิน 2 กล่อง)
- ไฟแช็กธรรมดา (ห้ามเกิน 2 อัน)