เทศกาลอีสเตอร์ (Easter Day) เป็นหนึ่งในเทศกาลที่สำคัญที่สุดในปฏิทินคริสตชน นอกจากจะเป็นการเฉลิมฉลองการฟื้นคืนพระชนม์ของพระเยซูคริสต์แล้ว ยังแฝงไปด้วยความเชื่อ และประเพณีที่หลากหลายซึ่งสะท้อนถึงการเริ่มต้นใหม่ในฤดูใบไม้ผลิ วันนี้ Travelzeed จะพามาทำความรู้จักกับเทศกาลอีสเตอร์ผ่านบทความนี้กัน!!
ตำนาน และความเชื่อที่เกี่ยวข้องกับเทศกาลอีสเตอร์
ตำนานเทพเจ้าอีสเตอร์ และไข่อีสเตอร์
ต้นกำเนิดของคำว่า “Easter” เชื่อมโยงกับเทพเจ้าแห่งรุ่งอรุณในวัฒนธรรมเยอรมันโบราณที่ชื่อ “Éostre” เทพองค์นี้เกี่ยวข้องกับการเกิดใหม่และฤดูใบไม้ผลิ ไข่ถูกใช้เป็นสัญลักษณ์ของชีวิตใหม่มาตั้งแต่ยุคโบราณ ในช่วงเทศกาลนี้ ผู้คนจะมอบไข่ให้กัน เพื่อแสดงถึงความอุดมสมบูรณ์ และการเริ่มต้นใหม่
ความเชื่อทางศาสนาคริสต์เกี่ยวกับการฟื้นคืนชีพ
สำหรับชาวคริสต์ เทศกาลอีสเตอร์เป็นการรำลึกถึงการฟื้นคืนพระชนม์ของพระเยซูคริสต์หลังจากการตรึงกางเขนในวันศุกร์ศักดิ์สิทธิ์ การฟื้นคืนชีพนี้ถือเป็นแก่นสำคัญของศาสนาคริสต์ที่ยืนยันถึงชัยชนะเหนือความตาย และบาป เป็นเหตุให้วันอีสเตอร์มีความหมายลึกซึ้งทั้งทางจิตวิญญาณและศาสนามากๆ
วันอีสเตอร์กับฤดูใบไม้ผลิ
ฤดูใบไม้ผลิเป็นช่วงเวลาแห่งการฟื้นคืนชีพของธรรมชาติ ดอกไม้ผลิบาน และสัตว์ต่าง ๆ กลับมาออกหากินอีกครั้ง เทศกาลอีสเตอร์จึงสะท้อนถึงธรรมชาติที่ฟื้นคืนชีวิตพร้อมกับความเชื่อทางศาสนา การเปรียบเทียบนี้ทำให้อีสเตอร์มีเสน่ห์และเชื่อมโยงกับผู้คนทั่วโลก และสำหรับในปี 2025 วันอีสเตอร์จะจัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 20 เมษายน 2025
ประเพณี และกิจกรรมเฉลิมฉลองเทศกาลอีสเตอร์ทั่วโลก
การล่าไข่อีสเตอร์
กิจกรรมที่เป็นที่นิยมในหมู่เด็ก ๆ คือการล่าไข่อีสเตอร์ ซึ่งไข่ที่ตกแต่งสีสันสดใสมักถูกซ่อนอยู่ในสวนหรือบริเวณบ้าน เด็ก ๆ จะค้นหาไข่เหล่านี้พร้อมความตื่นเต้นและสนุกสนาน ถือเป็นกิจกรรมที่ช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ในครอบครัวและชุมชน ทำให้มีเวลาอยู่ด้วยกัน ผ่านกิจกรรมที่สนุกสนานและสร้างความทรงจำดี ๆ
การตกแต่งไข่อีสเตอร์
การตกแต่งไข่อีสเตอร์เป็นอีกหนึ่งประเพณีที่แพร่หลาย ผู้คนใช้สีสันและลวดลายต่าง ๆ ในการตกแต่งไข่ บางครั้งอาจใช้วัสดุธรรมชาติ เช่น เปลือกหัวหอม หรือดอกไม้ เพื่อสร้างลวดลายที่สวยงามอีกด้วยนะคะ
ประเพณีเฉพาะของแต่ละประเทศ
แต่ละประเทศมีวิธีการเฉลิมฉลองอีสเตอร์ที่ไม่เหมือนกัน เช่น ในโปแลนด์มีพิธีพรมน้ำศักดิ์สิทธิ์เพื่อปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย ส่วนในกรีซจะมีการต้มไข่สีแดงเพื่อเป็นสัญลักษณ์ของเลือดพระเยซู ซึ่งแสดงถึงความหลากหลายทางวัฒนธรรมที่เกี่ยวข้องกับเทศกาลนี้
สัญลักษณ์ของเทศกาลอีสเตอร์และความหมาย
ไข่อีสเตอร์ สัญลักษณ์แห่งชีวิตใหม่
ไข่อีสเตอร์ถือเป็นสัญลักษณ์ของชีวิตใหม่และการเกิดขึ้นใหม่ในธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นไข่ช็อกโกแลตหรือไข่ตกแต่ง ผู้คนมักใช้ไข่ในการแสดงความหวังและการเริ่มต้นใหม่ในชีวิต
กระต่ายอีสเตอร์ ผู้มอบความสุข
กระต่ายอีสเตอร์เป็นสัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์และความสุข มีเรื่องเล่าว่ากระต่ายจะมอบไข่อีสเตอร์ให้กับเด็ก ๆ ที่ประพฤติดีในช่วงเทศกาล เป็นตัวแทนของความรักและความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่
ดอกไม้ สัญลักษณ์แห่งความหวัง
ดอกไม้ เช่น ดอกลิลลี่ ดอกแดฟโฟดิล และดอกทิวลิป มักถูกใช้ตกแต่งในเทศกาลอีสเตอร์ สื่อถึงความบริสุทธิ์ ความหวัง และการฟื้นคืนชีพ ดอกไม้เหล่านี้ยังเพิ่มความสดใสให้กับบ้านและสถานที่จัดงาน
10 ประเทศที่มีชื่อเสียงในการจัด เทศกาลอีสเตอร์
1. อิตาลี
เมื่อพูดถึงอิตาลีในช่วงเทศกาลอีสเตอร์ กรุงโรมคือหัวใจสำคัญที่ทุกสายตาจับจ้อง มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ในนครวาติกันกลายเป็นศูนย์กลางของพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์ โดยมีพระสันตะปาปานำมิสซาและอวยพรแก่ผู้ศรัทธาที่หลั่งไหลมาจากทั่วโลก อีกหนึ่งเมืองที่ไม่ควรพลาดคือฟลอเรนซ์ ซึ่งมีการจัดงาน Scoppio del Carro หรือ “การระเบิดของเกวียน” พิธีกรรมที่เป็นสัญลักษณ์แห่งความรุ่งเรืองและความโชคดีในปีใหม่
2. สเปน
สเปนถือเป็นอีกหนึ่งประเทศที่การเฉลิมฉลองอีสเตอร์เต็มไปด้วยสีสันและความศรัทธา ในเซบียา ขบวนพาเหรด Semana Santa ช่วงสัปดาห์ศักดิ์สิทธิ์ได้รับการยอมรับในระดับโลก ด้วยรูปปั้นศักดิ์สิทธิ์ที่ถูกตกแต่งอย่างงดงามและเสียงดนตรีพื้นเมืองที่สะท้อนถึงความเลื่อมใส ส่วนในมาลากา การเฉลิมฉลองถูกเติมเต็มด้วยการแสดงศิลปะที่ผสมผสานกับพิธีกรรมทางศาสนาอย่างลงตัว
3. กรีซ
ในช่วงอีสเตอร์เต็มไปด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยเฉพาะที่เกาะคอร์ฟู ซึ่งมีประเพณีโยนหม้อดินเผาจากระเบียงในเช้าวันเสาร์ศักดิ์สิทธิ์ พิธีนี้เป็นสัญลักษณ์ของการขจัดสิ่งชั่วร้ายและเริ่มต้นชีวิตใหม่ ขณะที่ในเอเธนส์ โบสถ์ทั่วเมืองจะเต็มไปด้วยพิธีกรรมอันเคร่งขรึมและการจุดเทียนในวันเสาร์ เพื่อต้อนรับการฟื้นคืนชีพ
4. ออสเตรีย
บรรยากาศอีสเตอร์ในออสเตรียนั้นอบอวลไปด้วยความงดงามของวัฒนธรรมดั้งเดิม กรุงเวียนนาโดดเด่นด้วยตลาดอีสเตอร์ที่พระราชวังเชินบรุนน์ ซึ่งมีทั้งไข่ตกแต่ง งานหัตถกรรม และขนมพื้นเมืองที่น่าลิ้มลอง ส่วนซาลซ์บูร์กเพิ่มความพิเศษด้วยการแสดงดนตรีคลาสสิกในบรรยากาศอันแสนอบอุ่น
5. สาธารณรัฐเช็ก
กรุงปรากในช่วงอีสเตอร์เปรียบเสมือนเวทีแสดงวัฒนธรรมพื้นบ้านที่น่าตื่นตาตื่นใจ ตลาดอีสเตอร์ในจัตุรัสเมืองเก่า และจัตุรัสเวนเซสลาสเต็มไปด้วยสินค้าแฮนด์เมด และการแสดงพื้นบ้านที่ทำให้เมืองนี้มีชีวิตชีวามาก
6. ฝรั่งเศส
ปารีสช่วงอีสเตอร์นั้นงดงามเป็นพิเศษ มหาวิหารนอเทรอดามจัดพิธีมิสซาอันศักดิ์สิทธิ์ที่ดึงดูดผู้คนจากทั่วโลก พร้อมทั้งช็อกโกแลตรูปไข่ที่ถูกสร้างขึ้นมาเฉพาะเทศกาลนี้ หากเดินทางไปยังเมืองเล็กในโพรวองซ์ คุณจะได้สัมผัสขบวนแห่และพิธีกรรมที่สะท้อนถึงความเป็นชนบทที่เรียบง่ายแต่ทรงเสน่ห์
7. มอลตา
มอลตาเป็นประเทศที่โดดเด่นด้วยการจัดขบวนแห่อีสเตอร์ที่เต็มไปด้วยความอบอุ่นและความเลื่อมใส รูปปั้นศักดิ์สิทธิ์ที่ประดับประดาในขบวนสะท้อนถึงวัฒนธรรมและความเชื่อที่หยั่งรากลึกของคนในพื้นที่
8. ฮังการี
บูดาเปสต์คือแหล่งรวมความสนุกสนานในช่วงอีสเตอร์ ตลาดอีสเตอร์ที่นี่ผสมผสานวัฒนธรรมพื้นบ้านเข้ากับประเพณีได้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็นการตกแต่งไข่หรือการแสดงดนตรีที่สร้างความประทับใจให้ผู้มาเยือน
9. สวิตเซอร์แลนด์
ลูเซิร์นในช่วงอีสเตอร์โดดเด่นด้วยดนตรีคลาสสิกที่บรรเลงในงานเทศกาล พร้อมทั้งกิจกรรมต่าง ๆ ท่ามกลางทิวทัศน์งดงามของเทือกเขาแอลป์ที่โอบล้อมเมือง
10. เยอรมนี
ภูมิภาคบาวาเรียในเยอรมนีมักเต็มไปด้วยสีสันในช่วงอีสเตอร์ การตกแต่งน้ำพุอีสเตอร์ (Osterbrunnen) ด้วยไข่หลากสีและดอกไม้เป็นประเพณีที่ทำให้เมืองเล็ก ๆ ในพื้นที่ดูสดใสและน่าหลงใหล