ดูไบ ไม่ใช่ประเทศ! แต่เป็นเมืองใน สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หรือที่เรียกกันในชื่อย่อว่า UAE
ทำความรู้จัก United Arab Emirates (UAE)
United Arab Emirates (UAE) เป็นประเทศที่ตั้งอยู่ในภาคตะวันออกกลาง ประกอบด้วย 7 เอมิเรตส์ (Emirates) ซึ่งแต่ละแห่งมีเมืองสำคัญต่างๆ ดังนี้:
- อาบูดาบี (Abu Dhabi): เมืองหลวงของ UAE และเป็นเอมิเรตที่ใหญ่ที่สุดทั้งในด้านพื้นที่และเศรษฐกิจ
- ดูไบ (Dubai): เมืองที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลกในด้านการท่องเที่ยว การค้า และสถาปัตยกรรมที่ทันสมัย
- ชาร์จาห์ (Sharjah): เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงด้านศิลปะและวัฒนธรรม แหล่งรวมของพิพิธภัณฑ์และสถานที่ทางประวัติศาสตร์
- อัจมาน (Ajman): เป็นเอมิเรตที่เล็กที่สุดในทั้ง 7 แห่ง มีชายหาดที่สวยงามและแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ
- ฟูไจราห์ (Fujairah): ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันออกของ UAE เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติและภูเขา
- อุมม์ อัล-ไควน์ (Umm Al-Quwain): เป็นเอมิเรตที่เล็กที่สุดอันดับสอง เป็นที่รู้จักในเรื่องของชายหาดและสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติเช่นกัน
- ราส์ อัลไคมาห์ (Ras Al Khaimah): ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของ UAE มีทัศนียภาพที่สวยงาม รวมทั้งภูเขาและชายหาด
เช็คอิน 9 ที่เที่ยว “ดูไบ” ที่ควรจดไว้ในลิสต์!
ดูไบ(Dubai) หนึ่งในเมืองที่มีความเจริญสูง และสิ่งก่อสร้างสมัยใหม่เยอะ บอกเลยว่ามาเที่ยวที่นี่ คือมาสัมผัสความเป็นอนาคต ขอบอกว่าบ้านเมืองเค้าสะอาดมาก ๆ ไปตรงไหนก็ไม่เห็นขยะเลย ส่วนเรื่องโจรก็มีน้อยมาก อาจจะเป็นนักท่องเที่ยวด้วยกันเองซะมากกว่า เพราะว่ากฏหมายขโมยบ้านเค้าแรง จึงปลอดภัยมาก ๆ
ที่เราจะได้เห็นความหลากหลายวัฒนธรรม เพราะมีชาวต่างชาติเข้ามาทำงานเยอะ เช่น ชาวปากีสถาน ชาวอินเดีย ชาวพม่า หรือแม้แต่ชาวไทยด้วยกันเอง
เกริ่นมาเยอะ ไปดูกันดีกว่าว่า 9 ที่เที่ยวใน 5 วัน 3 คืนได้ไปไหนบ้าง!
1. Red dune safari camp
Red dune เป็นทะเลทรายละเอียดที่มีทรายสวยน่าเที่ยวที่สุดในดูไบ โดยเราจะแวะไปจัดพักรถ เพื่อให้คนขับได้ปล่อยลมรถ ตัวเราได้เข้าห้องน้ำเพราะเราไม่สามารถปล่อยกลางทะเลทรายได้ นอกจากนี้ยังมีร้านค้าให้ซื้อของ (ราคาแรงมาก) ต้องหัดต่อราคาซึ่งขนาดต่อแล้วยังมีราคา 80 AED (~ 800 บาท)
โดยเราจะใช้เวลาตะลุยทรายแบบโลดโผนประมาณ 15-20 นาที ใครมียาดมเตรียมไว้ได้เลย และสุดท้ายก็ไปชมพระอาทิตย์ตก ถ่ายรูปเล่นกันประมาณ 30 นาที
ใครมาถึงทะเลทรายแล้วก็ต้องเดินเท้าเปล่ากับทรายให้ได้นะ! ไม่งั้นเหมือนมาไม่ถึง อีกอย่างคือทรายไม่ได้ร้อนอย่างที่คิด
หลังจากนั้นก็มาทานอาหารที่เป็นแคมป์กลางทะเลทราย ได้นั่งอูฐหน้าแคมป์ฟรี แบบเดินวนรอบนึง
2. Al seef
Al Seef เป็นตลาดที่สร้างใหม่แต่จำลองสถาปัตยกรรมดั้งเดิม ตั้งติดกับ Dubai Creek(ธารแม่น้ำเค็มสายเล็ก) มีคนเดินไม่เยอะมาก และของแพงกว่า Gold Souk แต่ว่ามุมถ่ายรูปเยอะมาก และที่ควรมาเช็คอินเลยก็คือ Dubai Starbucks!
Dubai Starbucks ราคาเริ่มต้น 15 AED (~150 บาท) เราสั่งชาเขียวมาลอง มีให้เลือกเป็นนมอูฐด้วยนะ แต่ราคาก็จะบวกไปอีกเลยดื่มนำธรรมดาแทน รสชาติไม่ผ่านเลย แต่เป็นพร็อพถ่ายรูปได้
เดินเข้ามาจะมีร้านขายของที่ตกแต่งสวย ๆ Aesthetic เยอะ และมีคนเรียกเราไปซื้อของที่ร้านเยอะด้วยเช่นกัน ของที่ถูกสุดน่าจะเป็นตุ๊กตาอูฐสุดน่ารัก ราคาตัวละ 9 AED (~ 90 บาท) นอกจากนี้ยังมีโรงแรมให้พักด้วยนะ
3. Gold Souk
Gold Souk เป็นตลาดขายทองเก่าแก่ดั้งเดิม(ที่ไม่ได้มีแค่ทอง) อยู่ไม่ไกลจาก Al Seef มาก ซึ่งเราสามารถนั่งเรือ Abrah ride มาได้เลยย
Abrah ride คือการนั่งเรือข้ามฝั่ง ในราคา 1 AED เท่านั้น(~10 บาท) เราจะได้อยู่บนเรือประมาณ 5 นาที เป็นวิวที่มองเพลิน เห็นทั้งตึกสมัยใหม่และตึกแบบดั้งเดิม
ใน Gold Souk จะมีพวกเครื่องเทศ ของฝาก ขนมต่าง ๆ ให้เลือกไปเป็นของฝากได้เยอะกว่าอีกฝั่ง และเราจะได้มีโอกาศเห็นแหวนยักษ์ที่ขึ้น Guinness World Record
ตัวอาคารข้างหน้าก่อนเข้าตลาดถนนสะอาด ถ่ายรูปออกมาฟีลยุโรปเลย ดีมากกกกกกกกก!!
4. Mexico wings
จุดถ่ายรูปปีกยักษ์กับ Burj Khalifa ตึกระฟ้าที่สูงที่สุดในโลกแบบฟรี ๆ แต่อาจจะต้องต่อแถวนานหน่อยเพราะว่าคนนึงมาถ่ายรูปทีก็ตั้งใจเก็บแบบให้คุ้ม ใครเตรียมชุดหางนกยูงอลัง ๆ มาจะเริ่ดมาก!!
เดินไปข้างหลังก็สามารถถ่ายรูปกับตึกได้เหมือนกัน
5. Dubai mall
ดูไบมอลล์ ถามว่าเป็นที่สำหรับสายช้อปมั้ย ก็ไม่ขนาดนั้น ของไม่ได้ถูกกว่าที่อื่นแต่ร้านไหนที่ลดราคาก็ลดราคาจริง ๆ แต่ที่นี่ดีตรงไม่มีโจรฉกของเหมือนแถบยุโรป
ดูไบมอลล์เหมาะกับการเดินเล่น ชมน้ำพุ ทานข้าวดูของตกแต่งสวย ๆ หรืออวาเรี่ยมมากกว่า
6. Museum of the future
Museum of the Future ไฮไลท์สุดไอคอนนิค ข้างในมีพื้นที่น้อย ถ้าอยากขึ้นไปบนดาดฟ้าต้องซื้อตั๋วขึ้นลิฟท์ด้วย ส่วนในพิพิธภัณฑ์ผนังจะเป็นลายลักษณ์อักษณ์ แล้วก็จะมีหุ่นยนต์ทันสมัย และของตกแต่งอย่างอื่นด้วย
ส่วนที่ชอบอีกส่วนนึงคือของฝากเกร๋ ๆ ที่แม้จะแพงกว่าที่ตลาด Gold Souk แต่รับรองว่าคนได้รับของต้องชอบแน่นอน!
7. Blue water island
เกาะตรงข้ามกับ Dubai Marina เป็นพื้นที่เดินเล่น ร้านค้า โรงแรม ที่นั่ง บาร์นั่งชิลล์ ถ้ามาถ่ายรูปก่อนพระอาทิตย์ตกดินจะสวยมาก (แต่ควรมาตอนเย็นเพราะกลางวันจะร้อน)
ถ่ายรูปคู่กับ Dubai eyes สวย ๆ (ด้วยเลนส์ 0.5 เหมือนเคย) น้องน่าจะปิดปรับปรุงแบบไม่มีกำหนดเพราะว่าตัวฐานเอียง ซึ่งอาจจะเป็นเพราะว่าดินทรุดแหละ
เดินข้ามไปอีกฝั่งจะเป็นบาร์ คลับ ร้านนั่งชิล
8. Dubai Frame
กรอบรูปที่ใหญ่ที่สุดในโลก! ตั้งอยู่ที่สวนสาธารณะ Zabeel Park สำหรับผู้ที่ไม่ต้องการเข้าไปชมก็สามารถถ่ายรูปอยู่ข้างนอกได้
กรอบนี้มีขนาด 150 กว้าง 93 เมตร ซึ่งเป็นอะไรที่ใหญ่มาก เลนส์ 0.5 ต้องเข้าอีกแล้ว!
9. Jumeirah Beach
ไฮไลท์เล็ก ๆ ที่ควรมาใช้เวลาตอนเย็น ชมพระอาทิตย์ตกกับตึก Bruj AI Arab แต่เรามาตอนบ่าย ๆ อากาศจะร้อนมาก หาดนี้สามารถลงเล่นน้ำได้นะ
ภาพขวาบน คือตึก Burj Ai Arab ที่ถ้าอยู่อีกฝั่งจะถ่ายรูปออกมาได้ Iconic กว่า ส่วนภาพขวาล่าง คือวิลล่าของเศรษฐีจากทั่วโลก