ใครเป็นสาวกดิสนีย์บ้างยกมือขึ้นนน!!!! ถ้าคุณเป็นสาวกดิสนีย์มาทางนี้เลยค่ะ เพราะวันนี้ TravelZeed จะพาคุณมาทำความรู้จักกับ ดิสนีย์แอดเวนเจอร์ (Disney Adventure) เรือสำราญ ของ Disney Cruise Line ที่กำลังจะมาถึงสิงคโปร์ในปีหน้า สำหรับใครที่กำลังรอการเดินทางครั้งนี้อยู่ อย่าข้ามบทความนี้น๊า เพราะในบทความนี้จะนำเสนอเกี่ยวกับเรือสำราญ Disney Adventure ถ้าพร้อมแล้ว ไปกันเล๊ยยย!!!
ดิสนีย์ แอดเวนเจอร์ (Disney Adventure) คืออะไร?
ดิสนีย์ แอดเวนเจอร์ (Disney Adventure) คือการท่องเที่ยวรูปแบบการล่องเรือสำราญสุดพิเศษที่แฟนคลับของดิสนีย์ไม่ควรพลาด! ซึ่งเป็นเรือสำราญธีมดิสนีย์ลำแรกในเอเชีย มีขนาด 208,000 ตัน สามารถรองรับผู้โดยสารได้ประมาณ 6,700 คน และมีลูกเรือประมาณ 2,500 คน ได้เลือกสิงคโปร์เป็นท่าเรือหลัก โดยมีการเดินเรือ 3 คืน และ 4 คืน โดยจะเริ่ม เปิดให้จองในวันที่ 10 ธันวาคม 2567 และ ให้บริการเดินเรือในวันที่ 15 ธันวาคม 2568
ประเภทห้องพักของดิสนีย์แอดเวนเจอร์ (Disney Adventure) มีแบบไหนบ้าง?
ในส่วนของห้องพักบอกเลยว่า เป็นห้องพักที่อบอวลไปด้วยเวทมนตร์ของดิสนีย์ ทุกมุมของห้องถูกตกแต่งด้วยงานศิลปะที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเรื่องราวสุดโปรดของ Disney, Pixar และ Marvel โดยห้องพักจะแบ่งเป็น 4 ประเภทหลัก ๆ ได้แก่ ห้องด้านใน (Inside Stateroom), ห้องโอเชียนวิว (Oceanview Stateroom), ห้องมีระเบียง (Verandah Stateroom) และ ห้องคอนเซียร์จ (Concierge Stateroom)
1. ห้องพักคอนเซียร์จ (Concierge Stateroom)
ห้องพักประเภทนี้จะเป็นประเภทที่แพงที่สุด มีความหรูหรา และจะได้รับสิทธิพิเศษมากมาย เช่น Priority boarding, Concierge Lounge, Sundeck ต่างๆ โดยห้องพักแบบ Concierge Suites & stateroom ราคาจะเริ่มต้น 113,xxx บาท ต่อ 2 คน
2. ห้องพักแบบมีระเบียง (Verandah Stateroom)
เป็นห้องพักที่รองลงมาจากห้องคอนเซียร์จ มีพื้นที่กว้างขวาง และแต่ละห้องมีระเบียงส่วนตัว เข้าพักได้สูงสุด 4 ท่าน ราคาเริ่มต้น 50,xxx บาท ต่อ 2 คน
3. ห้องพักโอเชียนวิว (Oceanview Stateroom)
เป็นห้องพักที่จะเห็นทิวทัศน์ ทะเลจากในห้องพักผ่านหน้าต่างบานใหญ่ เข้าพักได้สูงสุด 4 ท่าน ราคาเริ่มต้น 45,xxx บาท ต่อ 2 คน
4. ห้องพักด้านใน (Inside Stateroom)
เป็นห้องพักประเภทพื้นฐาน จะไม่เห็นทิวทัศน์ เข้าพักได้สูงสุด 4 ท่าน ราคาเริ่มต้น 33,xxx บาท ต่อ 2 คน
พื้นที่กิจกรรมของดิสนีย์แอดเวนเจอร์ (Disney Adventure) มีอะไรบ้าง?
บนเรือดิสนีย์แอดเวนเจอร์ (Disney Adventure) มีพื้นที่ธีมทั้งหมด 7 โซน ดังนี้
1. Disney Imagination Garden : สวนกลางแจ้งที่มีการแสดงสด และการพบปะกับตัวละครดิสนีย์
2. Disney Discovery Reef : พื้นที่ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากภาพยนตร์ The Little Mermaid และ Finding Nemo
ถ้าคุณชื่นชอบนิทานใต้ทะเลอย่าง The Little Mermaid หรือ Finding Nemo คุณจะต้องหลงรัก Disney Discovery Reef พื้นที่กลางแจ้งสุดอลังการด้านหลังเรือที่เต็มไปด้วยแรงบันดาลใจจากโลกใต้น้ำ ลองลิ้มรส Cosmic Kebabs หรือเติมความสดชื่นด้วยชานมไข่มุกที่ Bewitching Boba and Brews แล้วอย่าลืมแวะ Taverna Portorosso สปอร์ตบาร์บรรยากาศสบาย ๆ และ Palo Café ที่มีกลิ่นอายหมู่บ้านริมทะเลของอิตาลีจากหนัง Luca และถ้าคุณชอบอาหารสุดหรู ต้องไม่พลาด Palo Trattoria หรือ Mike and Sulley’s Flavors of Asia โซนนี้จัดเต็มทั้งรสชาติ และวิวปะการังสวย ๆ ให้คุณดื่มด่ำไปพร้อมแสงแดดที่ลอดผ่านหลังคากระจกในตอนกลางวัน แต่พอถึงกลางคืน พื้นที่นี้จะเปลี่ยนเป็นโลกใต้ทะเลเรืองแสงสุดมหัศจรรย์ รับรองว่าทุกวินาทีที่นี่จะทำให้คุณเหมือนหลุดเข้าไปในโลกใต้น้ำจริง ๆ แน่นอนค่ะ
3. Marvel Landing : โซนที่มีเครื่องเล่นและประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องกับฮีโร่มาร์เวล
เตรียมตัวให้พร้อมเพราะ โซนนี้คือที่ที่แฟนฮีโร่ Marvel ห้ามพลาดเด็ดขาด! ตั้งอยู่บนดาดฟ้าชั้นบนสุด โซนนี้ถูกออกแบบมา เพื่อเฉลิมฉลองจักรวาล Marvel อย่างเต็มรูปแบบ ให้สาวกตัวจริงได้ปลดปล่อยพลัง และสนุกสุดเหวี่ยงกับเครื่องเล่นใหม่ล่าสุดถึง 3 ชนิด โดยเริ่มจาก Groot Galaxy Spin ที่จะพาคุณหมุนไปกับพลังจักรวาลของ Groot ต่อด้วย Pym Quantum Racers รถแข่งสุดล้ำที่ผสานเทคโนโลยีขนาดจิ๋วและจัมโบ้ของ Dr. Pym และที่พีคที่สุดคือ Ironcycle Test Run รถไฟเหาะตีลังกาแห่งแรกของ Disney Cruise ที่ไม่เพียงแค่มีแต่ความสนุกเท่านั้นนะ แต่ยังเป็นรถไฟเหาะตีลังกาที่ ยาวที่สุดในท้องทะเล ด้วยความยาวกว่า 820 ฟุต หรือประมาณ 250 เมตรเลยน๊าา
4. San Fransokyo Street : โซนที่ผสมผสานวัฒนธรรมของซานฟรานซิสโกและโตเกียว
สำหรับโซนนี้อยากให้ลองลองนึกภาพความคึกคักของโตเกียว รวมเข้ากับความชิลล์สบาย ๆ ของซานฟรานซิสโก คุณก็จะได้ถนน San Fransokyo Street ที่มีกลิ่นอายจากภาพยนตร์ดิสนีย์ Big Hero 6 มีร้านค้าสุดน่ารักที่แอบซ่อนทางเข้าลับไปยัง Edge และ Vibe คลับพิเศษสำหรับวัยรุ่น ที่ทั้งเท่และเต็มไปด้วยบรรยากาศของเมืองใหญ่ เดินถัดมาอีกนิด จะพบกับจุดถ่ายรูปเด็ดอย่างป้ายรถราง และเลานจ์กระเช้าลอยฟ้า เหมาะสำหรับพักชิลล์ หรือถ้าอยากชมภาพยนตร์ดิสนีย์ ก็ต้องแวะที่โรงหนัง Baymax เลย ที่สำคัญพลาดไม่ได้กับ Big Hero Arcade ซึ่งคุณสามารถจับกลุ่มสี่คน แล้วเข้าไปทดสอบทักษะโดยการวิ่ง, หลบหนี และป้องกัน บนพื้นไฮเทคสุดล้ำ
5. Wayfinder Bay : โอเอซิสกลางแจ้งที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก โมอาน่า
โซนนี้ได้รับแรงบันดาลใจจาก โมอาน่า ซึ่งเป็นภาพยนตร์แอนิเมชันที่พาเราท่องไปในมหาสมุทรอันกว้างใหญ่ สำหรับโซนนี้คุณจะได้พักผ่อนแบบเต็มอิ่มบนเก้าอี้ชั้นลอย พร้อมจิบเครื่องดื่มเย็น ๆ จาก Wayfinder Bar ที่สุดแสนจะร่มรื่น หรือจะดับร้อนด้วยการลงไปแช่ในสระน้ำตื้น พร้อมจอขนาดใหญ่ที่แสดง สำหรับกิจกรรมแบบอินเทอร์แอคทีฟ และการแสดงสด เช่น Moana: Call of the Sea
6. Toy Story Place : พื้นที่สำหรับครอบครัวที่มีสระว่ายน้ำและเครื่องเล่นที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก Toy Story
สำหรับโซนนี้จะได้สัมผัสความสนุกบนพื้นที่กลางดาดฟ้าบนเรือ เป็นพื้นที่สำหรับครอบครัวในธีม Toy Story โดยมีโซนสวนน้ำให้ได้สนุกกัน มีทั้งสำหรับเด็ก และผู้ใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น สระว่ายน้ำสำหรับครอบครัว Sunnyside หรือ สไลเดอร์ Woody and Jessie’s Wild ที่พาเด็ก ๆ ลื่นไถลไปพร้อมกับเสียงหัวเราะ โซน Flying Saucer Splash และ สวนน้ำ Toy Story เต็มไปด้วยความสนุก พร้อมสปาน้ำวนที่จะทำให้คุณผ่อนคลายหลังจากเล่นน้ำจนหนำใจ และถ้าคุณชอบดูหนัง อย่าพลาดชมภาพยนตร์ดิสนีย์บนจอยักษ์ถึง 2 จอในบรรยากาศกลางแจ้ง และถ้าคุณหิว ก็หมดห่วงได้เลย เพราะคุณสามารถเติมพลังด้วยพิซซ่าอร่อย ๆ จาก Pizza Planet หรือไอศกรีมซอฟต์เสิร์ฟเย็น ๆ จาก Wheezy’s Freezies รับรองว่าอร่อยฟินจนอยากกลับมาอีกแน่นอนค่ะ
7. Town Square : พื้นที่ที่เฉลิมฉลองราชวงศ์ของดิสนีย์
เป็นโซนที่รวบรวมร้านค้า, เลานจ์, คาเฟ่, ซาลอน, ร้านอาหาร และแหล่งบันเทิงต่าง ๆ ได้รับแรงบันดาลใจจากเหล่าเจ้าหญิง Disney ทุกมุมในโซนนี้ถูกออกแบบมาอย่างพิถีพิถัน นอกจากนี้ ยังมี โรงละครวอลต์ดิสนีย์ ที่จัดการแสดงสุดอลังการสไตล์บรอดเวย์ให้คุณได้ตื่นตาตื่นใจ และสำหรับใครที่ชอบความลึกลับนิด ๆ แต่หรูหรา ต้องลองไปที่ Spellbound Lounge ซึ่งได้แรงบันดาลใจจากราชินีแห่งความชั่วร้ายใน Snow White บอกเลยว่าพลาดไม่ได้จริง ๆ ค่ะ
ขอขอบคุณแหล่งข้อมูล และรูปภาพ : disneycruise