คัมชัตคา (Kamchatka) แห่งแคว้นไซบีเรียทางตะวันออกสุดของประเทศรัสเซีย อดีตดินแดนที่เคยได้รับการกล่าวขานว่าเป็นสถานที่แห่งความโหดร้าย เพราะว่ามีอาณาเขตกว้างขวาง มีอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี ทุรกันดาร มีความเจริญน้อย แต่ปัจจุบันรัฐบาลรัสเซียได้มีการพัฒนาให้มีความเจริญมากขึ้น ดึงดูดนักท่องเที่ยวนักผจญภัยจากทั่วโลกที่แสวงหาความตื่นเต้นในธรรมชาติที่น้อยคนนักจะได้สัมผัสมายังคัมชัตคา ด้วยความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติ คุณจะได้ชมฝูงหมีสีน้ำตาล กินปูยักษ์สดๆ ถ้ำและธารน้ำแข็งสุดอลังการ ตกปลาแซลมอนแปซิฟิกตัวโต สัมผัสความงามของทุ่งดอกไม้ป่า และพิชิตยอดภูเขาไฟในที่เดียว
Travelzeed รวบรวม 10 กิจกกรรมที่หากคุณคือคนรักความตื่นเต้น ท้าทาย และกำลังเสาะหาธรรมชาติอันสวยงาม
ก็ไม่ควรพลาดไปเยือนคัมชัตคาให้ได้สักครั้งในชีวิต
1. ปีนไต่ภูเขาไฟที่ยังปะทุ
ที่คัมชัตกา มีภูเขาไฟมากกว่า 160 ลูก ในจำนวนนี้ มีถึง 29 ลูกที่ยังคงมีการปะทุอยู่ กลุ่มภูเขาไฟแห่งคัมชัตกา เป็นหนึ่งในดินแดนภูเขาไฟที่โดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ที่สุดในโลก โดยได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติจากองค์การยูเนสโกเมื่อปี 1996 ภูเขาไฟที่ยังคงปะทุอยู่นั้นยังคงสามารถไปปีนได้ เหล่าผู้พิชิตภูเขาไฟต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าวิวทิวทัศน์จากบนนั้นช่างงดงามน่าประทับใจอย่างมาก บางท่านอาจมองว่าเป็นกิจกรรมที่อันตราย แต่หลายท่านกลับมองเป็นความเร้าใจที่จะได้พิชิตภูเขาไฟสักครั้งในชีวิต นอกจากนี้เมืองหลวงของคัมชัตกา อย่างเมืองเปโตรปาฟลอฟสก์คัมชัตสกี (Petropavlovsk-Kamchatsky) เราจะมองเห็นภูเขาไฟ 3 ลูก ตั้งตระหง่านเป็นฉากหลังของเมืองนี้ และเราสามารถเดินไต่ขึ้นไปบนภูเขาไฟได้ด้วย
2. ไปสัมผัสหุบเขาแห่งน้ำพุร้อน
Geyser Valley ที่คัมชัตคา เป็นหุบเขาที่เต็มไปด้วยบ่อน้ำพุร้อนนับร้อยๆบ่อ ที่พ่นควันและน้ำพุร้อนตลอดเวลา บางบ่อมีน้ำพุร้อนสูงกว่า 100 เมตร รวมไปถึงภูเขาไฟที่ยังคงคุกรุ่นอยู่ สามารถที่จะมองเห็นควันและเถ้าถ่านของภูเขาไฟที่พวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าได้อย่างง่ายดาย หากใครวางแผนจะไปเห็นบ่อน้ำพุร้อนนี้ด้วยตาตัวเอง อาจจะต้องวางแผนกันหน่อย เพราะหุบเขาแห่งนี้ต้องนั่งเฮลิคอปเตอร์ไปลงเท่านั้น แล้วเดินเทรกกิ้งเข้าไปบริเวณนั้นเพื่อเยี่ยมชมหุบเขา
3. ชมฝูงหมีสีน้ำตาลพี่น้องแห่งชาวพื้นเมืองที่ทะเลสาบคูโล
หมีคัมชัตคาสีน้ำตาล (Kamchatka Brown Bear) หรือที่รู้จักกันในชื่อหมีตะวันออกไกล (Far Eastern Brown Bear) เป็นหมีเจ้าถิ่นบริเวณคาบสมุทรคัมชัตกาและทะเลแบริ่ง เป็นสายพันธุ์ใกล้ชิดกับหมีอลาสกาสีน้ำตาล ซึ่งชาวพื้นเมืองในบริเวณนี้เชื่อว่าหมีเป็นพี่น้องของพวกเขา และพวกเขารู้สึกยำเกรงสัตว์ชนิดนี้ พวกมันมีความสูงราว 2 เมตรและมีน้ำหนักกว่าครึ่งตัน
โดยธรรมชาติของหมีคัมชัตกาสีน้ำตาลมักขี้อายและแยกกันล่าเหยื่อ แต่จะมีสถานที่อยู่ที่หนึ่งที่หมีคัมน้ำตาลจะมารวมตัวกัน นั่นคือทะเลสาบคูริล (Kurile Lake) ทะเลสาบที่เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟเมื่อราว 8,000 ปี ที่แล้ว ซึ่งมีความพิเศษคือเป็นสถานที่ที่เหล่าปลาแซลมอนชนิดต่างๆ ราว 2 – 6 ล้านตัวจะมาวางไข่ในทะเลสาบ ดึงดูดฝูงหมีสีน้ำตาลที่หิวโหยให้มารวมตัวกัน จึงถือเป็นปรากฎการณ์ที่หาดูได้ยากยิ่ง โดยปกติหมีคัมชัตคาจะหลบซ่อนตัวกันอยู่เงียบๆ นักท่องเที่ยวจึงทำได้เพียงแต่เฝ้ามองอยู่ไกลๆเท่านั้น โปรดระวังตัวไม่เข้าไปใกล้พวกมันอย่างเด็ดขาด เพราะอาจเกิดอันตรายถึงชีวิตได้
4. แช่น้ำพุร้อนผ่อนคลายยามหนาว
ถึงแม้หุบเขาน้ำพุร้อนจะไปยากสักหน่อยเพราะต้องขึ้นเฮลิคอปเตอร์ไปลงเท่านั้น ที่นี่ยังมีทางเลือกอื่นอย่างบ่อน้ำพุร้อนไว้ให้นักท่องเที่ยวได้ลงไปแช่กันอยู่หลายแห่ง เป็นที่นิยมอย่างมากทั้งนักท่องเที่ยวและชาวพื้นเมืองที่อาศัยอยู่ที่นั้น โดยเฉพาะช่วงหน้าหนาวที่อากาศเย็นจัดตัดกับน้ำร้อนอุณหภูมิสูง ถ้าคุณกล้า ก็ต้องลอง!
5. ย่ำหาดทรายสีดำทอดยาวตามฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิก
แหลมคัมชัตคาทอดตัวเรียงยาวระหว่างทะเลโอคอตสค์และมหาสมุทรแปซิฟิก ส่งผลให้น้ำทะเลเย็นจัด และน้อยมากที่จะเกิน 14 องศา ฉะนั้นจึงมีแต่ผู้กล้าเท่านั้นที่จะใจแข็งกระโดดลงไปท้าความเย็นด้านล่างนั้น อย่างไรก็ตามหาดทรายสีดำนี้เหมาะกับผู้ที่อยากมาเดินพักผ่อนหย่อนใจ พร้อมกับสูอากาศบริสุทธิ์ ไปพร้อมกับชมบรรยากาศอันสวยงามของคัมชัตคา
6. ล่องแพยางตกปลาแซลมอนหลากชนิด
ในคาบสมุทรคัมชัตกามีแม่น้ำหลายสายไหลลงสู่มหาสมุทรโดยไม่มีสิ่งปลูกสร้างของมนุษย์กีดขวาง ทำให้บริเวณนี้มีจำนวนปลาแซลมอนแปซิฟิกมากที่สุดของรัสเซีย(มีจำนวนมากถึงหนึ่งในสี่ของโลก) และยังเป็นแหล่งรวมสายพันธุ์ปลาแซลมอนที่แตกต่างกันมากที่สุดในโลกอีกด้วย โดยเราจะได้เดินทางไปที่แม่น้ำบิสตรายา(Bystraya River) ความยาว 270 กิโลเมตร ซึ่งอยู่ภายในป่าลึก ใช้เวลาล่องแพยางสบายๆ ชมทิวทัศน์ภูเขาไฟสลับผืนป่าบริสุทธิ์ระหว่างทาง และยังสามารถมองเห็นฝูงปลาแซลมอนแปซิฟิกในฤดูวางไข่ ซึ่งท่านสามารถทดสอบฝีมือการตกปลาด้วยตนเองได้ที่แม่น้ำแห่งนี้
7. ชิมปูยักษ์คัมชัตคา วัตถุดิบล้ำค่าจากต้นกำเนิด
ราชาปูแดง(Red King Crab) หรือ ปูคัมชัตกา(Kamchatka Crab) เป็นสายพันธุ์ใกล้เคียงกับปูอลาสกา ซึ่งมีถิ่นกำเนิดอยู่ในมหาสมุทรแปซิฟิกตอนเหนือ บริเวณทะเลแบริง รอบคาบสมุทรคัมชัตกา และน่านน้ำอลาสกาที่อยู่ใกล้เคียง มักจะเสิร์ฟแบบเย็นพร้อมซอสผงกะหรี่ มายองเนสมะนาว และน้ำมันมะกอก เนื้อมีรสหวานอร่อยไม่จืดชืด สามารถรับประทานเปล่าๆ แบบไม่ต้องจิ้มก็ยังได้ ด้วยความอร่อยจนมีชื่อเสียงโด่งดังทำให้ปูชนิดนี้เป็นที่ต้องการและมีราคาแพงมาก ราคาเนื้อปูคัมชัตก้า 1 กิโลกรัม มีราคาขายปลีก ราว 3,000 บาท ซึ่งแพงกว่าไข่ปลาแซลมอนเป็นเท่าตัว ในปัจจุบันอาจสามารถหาปูคัมชัตการับประทานได้ในร้านอาหารทะเลในเมืองใหญ่ๆ ของประเทศรัสเซีย แต่ก็คงไม่มีที่ไหนจะเสิร์ฟปูคัมชัตกาได้สดใหม่และอร่อยเท่าที่คาบสมุทรคัมชัตกาต้นกำเนิดแน่นอน
8. เดินป่าลัดเลาะธารน้ำแข็งและทุ่งดอกไม้
ชมความยิ่งใหญ่ของภูเขาไฟอวาชา
ในคาบสมุทรคัมชัตกามีเส้นทางเดินป่า(Trekking) ที่นิยมเป็นจำนวนมาก แต่เส้นทางหนึ่งที่ปลอดภัย ไม่เหนื่อยมากจนเกินไป คือเส้นทางเดินป่าสู่ยอดเขาเวียรบลูด(Verblyud Mountain) ระหว่างทางที่เดินลัดเลาะไปนั้น ท่านจะได้เดินทางผ่านธารน้ำแข็งที่งดงามและชมทุ่งดอกไม้ป่าสีสันสดใสหลากชนิด เมื่อเดินถึงจุดหมายจากยอดเขาเวียรบลูดจะสามารถมองเห็นความยิ่งใหญ่ของภูเขาไฟอวาชา(Avacha Volcano) ภูเขาไฟโคเรียกสกี(Koryaksky Volcano) ที่อยู่ใกล้กัน และภูเขาไฟชูปานอฟสกี(Zhupanovsky Volcano) ที่สวยงามคุ้มค่าจนลืมเหนื่อยเลยทีเดียว
9. ชมถ้ำคัมชัตคา ถ้ำน้ำแข็งที่สวยที่สุดในโลก
ถ้ำคัมชัตคา เป็นถ้ำน้ำแข็งที่มีลักษณะเป็นอุโมงค์ยาวใต้เขตภูเขาไฟ โดยถ้ำตั้งอยู่ระหว่างมหาสมุทรแปซิฟิก (Pacific Ocean) กับทะเลโอค็อตสค์ (Sea of Okhotsk) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งหนึ่งของมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันตก นับเป็นอีกหนึ่งถ้ำน้ำแข็งที่น่าตื่นตาตื่นใจมากที่สุดแห่งหนึ่งในโลก ปัจจุบันถ้ำคัมชัตคา ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก ในทุกๆปีจะมีนักท่องเที่ยวจากทั่วสารทิศเดินทางมาท่องเที่ยวผจญภัยในถ้ำน้ำแข็งแห่งนี้อย่างไม่ขาดสาย
10. เรียนรู้ชนเผ่าพื้นเมืองคัมชัตคา
เป็นที่รู้กันดีว่าคัมชัตคาเป็นพื้นที่ที่ไม่เหมาะต่อการอยู่อาศัย แต่ชาวเมืองที่นี่ก็อยู่กันมาร่วมหลายศตวรรษแล้ว ด้วยการเรียนรู้ที่จะใช้ชีวิตกับธรรมชาติ นี่จึงทำให้เกิดการพัฒนาและสรรสร้างวัฒนธรรม ประเพณี และพิธีกรรมที่สืบทอดกันมารุ่นต่อรุ่น เมื่อมีโอากาสได้ไปที่คัมชัตคา คุณจะมีโอากาสได้เห็นชาวพื้นเมืองเก่าแก่ที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้าน Pimchakh ซึ่งเป็นหมู่บ้านเพียงไม่กี่ที่ที่เปิดต้อนรับนักท่องเที่ยวผู้มาเยือน
แหล่งข้อมูล : theculturetrip | worldexplorer
สอบถามข้อมูลโปรแกรมทัวร์ : https://line.me/R/ti/p/@travelzeed
Instragram : @travel_zeed
Facebook https : https://www.facebook.com/Travelzeed/
Youtube Channel : https://bit.ly/2J1yNfZ