มาเจอกันอีกแล้วจ้า รอบที่แล้ว Travelzeed ลงบทความแสงเหนือให้ทุกท่านชมกันแล้ว (บทความแสงเหนือ คลิก) รอบนี้ ทางเราลงบทความแสงใต้ให้ทุกท่านรับชมและศึกษาข้อมูลกันอย่างเต็มที่ บอกเลยรอบนี้จัดเต็มข้อมูล ทั้งแปลกและใหม่ ถูกใจนักท่องเที่ยวรอบโลกแบบทุกท่านแน่นอน
ออสเตรเลีย Australia
คุณควรเริ่มต้นอยู่ที่เมือง Melbourne รัฐ Victoria รัฐนี้เป็นรัฐตอนใต้สุด ซึ่งเป็นตัวเลือกที่ดี หากคุณต้องการตามหาแสงใต้ที่ออสเตรเลียภายใต้ท้องฟ้ากลางคืน
เดือนที่ควรเที่ยว เดือนพฤษภาคมและดือนกันยายน
1. Cape Schanck
ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมงจาก Cape Schanck ทางตอนใต้สุดคาบสมุทร Mornington แต่ทั้งนี้ท่านอาจอยู่ห่างไกลแสงสีในเมือง แต่มีโอกาสเจอแสงใต้มากที่สุด และสถานที่ท่องเที่ยวบริเวณใกล้เคียง ประภาคาร Cape Schanck หน้าผา Pulpit Rock
2. Point Lonsdale
อยู่ห่างจากตัวเมือง Melbourne เพียง 2 ชั่วโมง ซึ่งประภาคาร Point Lonsdale ตั้งอยู่ที่แหลมที่เป็นทางเข้าจากช่องแคบมายังอ่าว Phillip และเมือง Melbourne ทางทะเล
3. Phillip Island
เกาะแห่งนี้ตั้งอยู่ห่างจาก Melbourne ขับรถเพียง 2 ชั่วโมง เป็นเกาะยอดนิยม หากคุณต้องการตามหาแสงใต้ รวมถึง Nobbies Centre, Phillip Island Nature Park และ Churchill Island Marine National Park.พร้อมทั้งเยี่ยมชมเขตคุ้มครองโคอาล่าในออสเตรเลียที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้4.Wilsons Promontoryอุทยานแห่งชาติแหลม Wilsons ตั้งอยู่ทางเกือบสุดตอนใต้ของออสเตรเลีย ขับรถประมาณ 3 ชั่วโมงจาก Melbourne มีทั้งกิจกรรมกลางแจ้ง ทัศนียภาพสวยงาม และแสงใต้ในตอนกลางคืน
4.Wilsons Promontory
อุทยานแห่งชาติแหลม Wilsons ตั้งอยู่ทางเกือบสุดตอนใต้ของออสเตรเลีย ขับรถประมาณ 3 ชั่วโมงจาก Melbourne มีทั้งกิจกรรมกลางแจ้ง ทัศนียภาพสวยงาม และแสงใต้ในตอนกลางคืน
แทสมาเนีย Tasmania
Tasmania เป็นรัฐแห่งหนึ่งในประเทศออสเตรเลียที่อยู่ตอนใต้ รัฐนี้ถือเป็นหนึ่งในสถานที่ตามหาแสงใต้ที่ยอดเยี่ยม คุณควรเริ่มต้นที่เมือง Hobart ซึ่งเป็นเมืองหลวงของรัฐ Tasmania เพราะช่วยอำนวยความสะดวกในการเดินทางให้ง่ายขึ้น
เดือนที่ควรเที่ยว ตลอดปี
5. Howden
ชุมชนชานเมืองขนาดเล็กที่ตั้งอยู่ในเมือง Hobart ซึ่งขับรถจากเมือง Hobart เพียง 25 นาทีมายังที่ Howden
6. Mount Wellington
ขับรถจากทางตะวันตกของเมือง Hobart มายังยอดเขา Wellington ซึ่งเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในเมือง Hobart ใช้เวลาเดินทางเพียง 30 นาที ซึ่งยอดเขานี้ ถือเป็นหนึ่งในจุดชมแสงใต้ที่ดีที่สุดของรัฐนี้
7. South Arm Peninsula
การเดินทางมายังคาบสมุทรที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของเมือง Hobart แห่งนี้ สามารถขับรถจากทางตอนใต้ของเมือง Hobart เพียง 40 นาที มีชายหาด Clifton และ Calvert ซึ่งทั้งสองหาดนี้เป็นจุดยอดนิยมตามหาแสงใต้ที่คาบสมุทร South Arm
8. Cockle Creek
อ่าว Cockle Creek สถานที่ขึ้นชื่อเรื่องแสงใต้ที่สุดของรัฐแทสมาเนีย ซึ่งเป็นสถานที่ไกลที่สุดทางตอนใต้ ใช้เวลาขัยรถประมาณ 2 ชั่วโมง จากทางตอนใต้ของ Hobart หากคุณเดินทางด้วยการขับรถ สถานที่แห่งนี้ถือว่าเหมาะสมที่สุด และคุณสามารถพักที่อ่าว Ida มีทั้งโรงแรมและทานอาหารเช้าในราคาที่สมเหตุสมผล
นิวซีแลนด์ New Zealand
หากคุณเริ่มต้นทางตอนใต้ของนิวซีแลนด์ ซึ่งเป็นสถานที่ที่มีโอกาสที่ดีที่สุดในการตามหาแสงใต้ เพราะว่าแสงใต้ปรากฏออกมาทางเกาะตอนใต้ และการขับรถเดินทางมายังที่นี่ ถือเป็นหนทางที่ดีที่สุดเช่นกัน ควรเริ่มต้นจากเมือง Dunedin ซึ่งเป็นเมืองทางตอนใต้ที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของนิวซีแลนด์
เดือนที่ควรเที่ยว ปลายเดือนเมษายน-ต้นเดือนตุลาคม
9. Aoraki Mackenzie Dark Sky Reserve
Aoraki Mackenzie เป็นภูเขาในนิวซีแลนด์ และเป็นเขตสงวนคืนฟ้ามืดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกและมีเพียงแห่งเดียวในซีกโลกใต้ ด้วยบริเวณที่ขนาดใหญ่ ทำให้มีสถานที่มากมายที่คุณสามารถเดินทางแวะชม หากให้คุ้มค่ากับการเดินทางมาถึง คุณควรอยู่ถึง 2 คืน สถานที่ท่องเที่ยวในบริเวณเขตสงวนนี้ มีทะเลสาบ Tekapo เป็นที่รู้จักกันดีในหมู่นักดูดาวและยังมีหอดูดาว Mt. John ซึ่งมีกล้องส่องดาวที่ใหญ่ที่สุดในนิวซีแลนด์ และอุทยานแห่งชาติ Aoraki/Mt. Cook เป็นสถานที่ไร้มลพิษ และเหมาะกับการตามหาแสงใต้ด้วยสภาพสิ่งแวดล้อมที่ยอดเยี่ยม
10. Invercargill
เมืองทางใต้ของนิวซีแลนด์ ชุมชนเมืองที่คุณสามารถเดินทางตามหาแสงใต้ โดยเดินทางทางตะวันตกของชายหาด Oreti และ Tiwai Point อีกหนึ่งสถานที่ยอดนิยมที่คุณสามารถเดินทางขับรถเพียง 30 นาทีจากทางตอนใต้ของ Invercargill คุณสามารถเดินทางจาก Christchurch มายังเมืองนี้
11. The Catlins
เกาะทางตอนใต้ของนิวซีแลนด์ หนึ่งที่ที่นิยมตามหาแสงใต้ด้วยพื้นที่ป่าตามชายฝั่งทางตอนใต้ ขับรถเพียง 1 ชั่วโมงจากเมือง Invercargill ซึ่งคุณสามารถกางเต้นท์ดูดาวและตามหาแสงใต้ในบริเวณนี้
12. Stewart Island
เกาะทางใต้ที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของนิวซีแลนด์ ซึ่งคุณสามารถเดินทางโดยเรือข้ามฟากจากเมือง Bluff หรือเมือง Invercargill ผ่านมายังเมือง Oban ซึ่งพื้นที่ส่วนใหญ่อยู่ในบริเวณอุทยานแห่งชาติ Rakiura ถือเป็นสถานที่ตามหาแสงใต้ที่ดีที่สุดในนิวซีแลนด์
แพทาโกเนีย Patagonia
คุณสามารถเดินทางตามหาแสงใต้ และที่นี่ยังเป็นที่ยอดนิยมสำหรับการเดินทางมาเยี่ยมชมธารภูเขาน้ำแข็งในอเมริกาใต้
เดือนที่ควรเที่ยว ฤดูหนาว เดือนพฤษภาคม-เดือนกรกฏาคม และเดือนเมษายนหรือเดือนสิงหาคม
13. Ushuaia, Argentina
เมืองหลวงของรัฐทางตอนใต้ในอาร์เจนติน่า เป็นเมืองสุดเขตตอนใต้ ชุมชนเมืองที่คุณสามารถเดินตามตามหาแสงใต้ในอเมริกาใต้ โดยเฉพาะในฤดูหนาว มีโอกาสเจอแสงใต้มากที่สุด
14. Falkland Islands
ถ้าหากคุณมีเวลามากพอ เกาะแห่งนี้ถือเป็นสภานที่ตามหาแสงใต้ที่ดีที่สุดของโลก ตั้งห่างออกจากทางชายฝั่งตะวันออกของอเมริกาใต้เพียง 643 กิโลเมตร ควรเริ่มต้นเดินทางที่เมือง Stanly เมืองหลวงของหมู่เกาะ Falkland ซึ่งเป็นดินแดนของสหราชอาณาจักร
เดือนที่ควรเที่ยว เดือนเมษายน-เดือนสิงหาคม
15. South Georgia Island
เกาะนี้เป็นดินแดนโพ้นทะเลของสหราชอาณาจักรทางตอนใจ้ของแอตแลนติก ตั้งอยู่ทางตะวันออกของหมู่เกาะ Falkland และต้องเดินทางทางเรือเท่านั้น ถ้าหากต้องการตามหาแสงใต้ ใช้เวลาล่องเรือประมาณ 17-28 วัน
เดือนที่ควรเที่ยว ปลายเดือนตุลาคม-สิ้นเดือนมีนาคม
16. Antarctica
อีกหนึ่งสถานที่ที่ดีที่สุดในการตามหาแสงใต้บนโลกนี้ และยังเป็นสถานที่เดินทางมายากที่สุด แต่ถึงอย่างนั้นสถานที่แห่งนี้ยังอยู่ในช่วงพัฒนา จึงทำให้เกิดมลพิษทางแสงน้อยมาก มีทั้งดาว หิมะ น้ำแข็ง และเพลิดเพลินกับนกเพนกวินมากมาย
เดือนที่ควรเที่ยว เดือนมีนาคม-เดือนกันยายน
แหล่งข่าวอ้างอิง https://bit.ly/2VY3S6D
?Facebook https://www.facebook.com/Travelzeed/
?สอบถามข้อมูลโปรแกรมทัวร์ https://line.me/R/ti/p/@travelzeed
?LINE@ @travelzeed