อเมริกาตะวันตก ( West Coast of the United States ) ตอน พบกันใหม่

Post Views: 12,754

พบกันอีกครั้ง>//< กับทราเวลซี้ด
วันนี้จะพาคุณไปซี้ดดดด ….
แบบลัดฟ้ากับประเทศอะไรเอ่ยในโลก ที่รู้สึกว่าขอวีซ่าได้ยากที่สุด ?

ประเทศพื้นที่กว้างใหญ่ อุดมสมบรูณ์ทั้งวัฒนธรรมหลากหลาย และธรรมชาติที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ปักหมุดเป็นแลนมาร์คสำคัญ
เจ้าของเงินดอลล่าเป็นกระแสหลักของโลก เป็นจุดเริ่มต้นของหนังฮอลลีวู้ด

…

WELCOME TO WEST COAST AMERICA ^^

ดินแดนมหาอำนาจอันยิ่งใหญ่ศิวิไล เสรี และสีสันที่หลายคนใฝฝันที่จะไปเยือนสักครั้งให้ได้ ประเทศอเมริกาเป็นศูนย์รวมหลากหลายเชื้อชาติ และมีพื้นที่ใหญ่เป็นอับดับ 3 ของโลกแบ่งเป็นหลายเขตด้วยกันซึ่งแต่ละเขตจะมีสภาพภูมิประเทศ และสภาพอากาศที่แตกต่างกัน แต่วันนี้แอดมินจะมาเที่ยวฝั่งตะวันตกของอเมริกา ( West coast America ) รัฐแคลิฟอร์เนีย มีอาณาเขตติดกับมหาสมุทรแปซิฟิก ทางทิศใต้ติดกับประเทศแม็กซิโก

เตรียมตัวเดินทาง

วีซ่าอเมริกา
เวลาช้ากว่าประเทศไทย 14 ชั่วโมง
ภาษาอังกฤษเป็นหลัก
สกุลเงิน ยูเอสดอลลาร์ ( USD ) 1 USD = 31.80 บาท (อัตราแลกวันที่ 26 มีนาคม 2562 )
ระบบไฟฟ้า 100 โวลท์ ปลั๊กแบบ 3 ขา ขาแบน 2 ขา และขากลม 1 ขา
การให้ทิปถือเป็นธรรมเนียมที่ต้องทำตามร้านอาหาร บาร์ หรือพนักงานยกกระเป๋า พนักงานขับรถ ( ให้ทิปประมาณ 15% จากบิล ยกเว้นร้านฟาสต์ฟู้ดเช่น KFC MCDONALD ไม่จำเป็นต้องให้ทิปก็ได้จ้า )

เอาล่ะค่ะ วันนี้แอดมินจะพาทุกคนเดินทางข้ามน้ำข้ามฟ้าไปสู่อเมริกาตามรอยหนังในอดีต กับประโยคเด็ดของนางเอกยุค 80 s

” โจนคะ กว่าคุณจะได้ยินเสียงฉันตัวของฉันก็คงไปอยู่ที่นิวยอร์คแล้ว อีกครั้งแล้วซินะที่ฉันต้องโยกย้าย ”

พี่ตุ๊ก จันทร์จิรา จูแจ้ง จากหนังพริกขี้หนูกับหมูแฮม ในยุค 80 s อ้ายยย สำหรับใครที่ตามไม่ทันนะคะสามารถติดตามได้จาก MV เพลง ของ Polycat “เพื่อนไม่จริง (forever mate)”,“เวลาเธอยิ้ม (You had me at hello)” และซิงเกิ้ลที่ฮิตทั่วบ้านทั่วเมืองอย่างเพลง พบกันใหม่? (so long)

เอาจริงๆแอดมินไม่เคยดูหนังยุค 80’s หรอกค่ะ เกิดไม่ทัน

แต่เพลงของวง Polycat ที่มีไอเดียสุดเจ๋ง ด้วยการนำฟุตเทจจากภาพยนตร์พริกขี้หนูกับหมูแฮม ในยุค 80’s มาตัดต่อ และทำเรียบเรียงใหม่ให้เข้ากับเนื้อหาของเพลง ทำให้แอดมินเริ่มกลับไปติดตามย้อนรอยละครอีกครั้ง เริ่มหลงรัก และตั้งปฏิธาณว่า ต้องไปอเมริกาตามรอยภาพยนตร์นี้ให้ได้ค่ะ >//<

แต่ในที่สุดวันนี้ก็มีถึง ความจินตนาการล้ำเลิศต้องมา ฉันเป็นนางเอกแห่งยุค 80 ‘s

วันนี้จะมาเที่ยวอเมริกาในฝั่งตะวันตก (ใช้เวลาเดินทางมากกว่า 15 ชั่วโมง ) ขอบคุณผู้สนับสนุนสายการบิน China Airlines

สุวรรณภูมิ – ท่าอากาศยานเถาหยวน เมืองไทเป ไต้หวัน ( บินประมาณ 3 ชั่วโมง 30 นาที )
ท่าอากาศยานเถาหยวน เมืองไทเปไต้หวัน – แอนเทริโอ ( บินประมาณ 11 ชั่วโมง 40 นาที )

รีวิวแบบย่อๆ ไชน่า แอร์ไลน์ที่นั่งกว้าง มีจอและปรับเบาะได้สบาย ที่สำคัญคือ อาหารอร่อยมาก

แอนเทริโอ – เมืองลอสแอนเจลิส (Los Angeles ) รัฐแคลลิฟอร์เนีย ( California) ( ใช้เวลาเดินทางประมาณ 50 นาที )

1. ลอสแองเจลิส LOS ANGELES , แคลิฟอร์เนีย CALIFORNIA
ที่รู้จักกันในนาม แอลเอ ( L.A ) เป็นเมืองที่มีชื่อเสียง และโด่งดังไปทั่วโลก และใครที่เป็นแฟนคลับหนังฮอลลีวู้ดคงไม่มีทางไม่รู้จักที่นี้แน่นอนจ้า
แอลเอเมืองที่มีประชากรหนาแน่นเป็นอับดับ 2 ในอเมริกา และมีความปะปนของวัฒนธรรมมากที่สุดในโลก เนื่องจากการอพยพของหลายเชื้อชาติโดยเฉพาะคนเอเชีย และอเมริกาใต้

ป้ายฮอลลีวู้ด ( Holly wood ) ตั้งอยู่บนภูเขาลีในฮอลลีวูด ฮิลล์บนเขตพื้นที่ของเทือกเขาซานตาโมนิก้า ซึ่งเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คยอดฮิตที่ใครที่มาเมืองนี้ ต้องมาถ่ายรูป ป้ายฮอลลีวูดสามารถมองเห็นได้จากทั่วทุกมุมในตัวเมืองลอสแองเจลิส

กริฟฟิธ พาร์ค ( Griffith Park ) ด้วยพื้นที่มากกว่า 4,000 เอเคอร์ เป็นสวนสาธารณะกลางเมืองที่ผู้คนมักจะมาพักผ่อนหย่อนใจ และจากจุดนี้สามารถมองเห็นป้ายฮอลลีวูดได้อีกด้วยนะ

ฮอลลีวูด บูเลอวาร์ด ( Hollywood Boulevard ) ถนนที่เปี่ยมไปด้วยสีสัน และเป็นสถานที่มีชื่อเสียงของภาพยนตร์ และแหล่งบันเทิง ที่นี้มีถนนสายหลัก 3 แห่ง
– ถนนซันเซท ( Sun set street )แหล่งบันเทิงยามค่ำคืน
– ฮอลลีวูด วอล์ก ออฟ เฟม ( Hollywood walk of fame )
– ถนนเมลโรส ( Melrose Avenue ) สวรรค์ของนักช้อปปิ้ง

ฮอลลีวูด วอล์ก ออฟ เฟม ( Hollywood walk of fram ) ถนนที่ดาราระดับฮอลลีวูดจำนวนมาก ประทับรอยมือและรอยเท้าไว้ตามท้องถนนแห่งนี้

และก็ไปต่อกันที่สถานที่ต่อไปเลยจ้า ….

ซานตาโมนิก้า ( Santa Motica ) ที่พักผ่อนตากอากาศชื่อดัง และมักจะเห็นในฉากหนัง Holly wood หลายต่อหลายเรื่อง ชายหาดในฝันของชาวแอลเอฯ

สวรรค์ของคนที่รักทะเล ชายหาด และแสงแดด เหล่าบรรดานักโต้คลื่นมักจะมารวมตัวกันที่นี้ ท่าเรือซานตา โมนิก้า ( Santa Monica Pier )

ท่าเรือเก่าสีสันสวยงาม ศูนย์รวมร้านอาหาร เครื่องเล่น คาเฟ่ และเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจ

ป้ายสุดเขตปลายทางของถนนสายประวัติศาสตร์ รูท ซิกส์ตี้ ซิกส์ ( Route 66 End of the Trail )

ผู้คนเดินเล่น กับบรรยากาศชิวๆบริเวณท่าเรือ

ร้านของที่ระลึกมีให้เลือกซื้อ และน่าจะหยิบไปเป็นของฝากสักชิ้น

ยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ ฮอลลีวูด ( Universal Studios Hollywood ) สำหรับใครที่สนใจเล่นเครื่องเล่น แนะนำว่า ควรซื้อบัตร Express ล่วงหน้าสำหรับเครื่องเล่นที่ตนเองสนใจ เช่น เดอะ วิซซาร์ดดิ้ง เวิร์ล ออฟ แฮร์รี่ พอตเตอร์ ( The wizarding world of Harry Potter ) , Back to the Future, Jurassic Park ,Terminator จะได้ไม่เสียเวลาต่อคิวยาวนะจ๊ะ

ยูนิเวอร์แซลที่นี้มีเนื้อที่กว่า 1,000 ไร่ มีเขตในที่ต้องซื้อตั๋วเข้าไป ก็จะมีเครื่องเล่น โซนอาหาร บาร์ ร้านขายของที่ระลึก และฉากสถานที่ถ่ายทำหนังฮอลลีวูด

ตอนเข้าไปภายในยูนิเวอร์แซลก็ต้องจะสแกนตั๋วและสแกนตัวและของใช้ต่างๆก่อนนะจ๊ะ

บรรยากาศภายในจัดเป็นโซนๆไว้อย่างสวยงามค่ะ

แวะถ่ายรูปกับแก๊งการ์ตูนสักหน่อยมั้ยคะ

ปราสาทแฮร์รี่ พอร์ตเตอร์จ้า

ส่วนโซนนอกก็จะมีเป็นร้านอาหาร โรงภาพยนตร์ บาร์ ร้านเสื้อผ้า และร้านของที่ระลึกจ้า

จุดรอแท๊กซี่หน้ายูนิเวอร์แซลจ๊ะ

2. ลาสเวกัส ( LAS VEGAS ) , เนวาด้า ( NEVADA ) เมืองท่ามกลางภูเขา และทะเลทรายที่ไม่เคยหลับไหล สถานที่ที่ชาวอเมริกา และคนทั่วโลกให้ฉายาว่า เมืองแห่งบาป ( Sin City ) เป็นเมืองที่มีความเจริญและแรงดึงดูดหลักในนักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้ามาโดยเฉพาะคาสิโน โรงแรม ศูนย์แสดงสินค้า ศูนย์ประชุม ร้านอาหาร ช้อปแบรนด์เนม และห้างสรรพสินค้า ทั้งหมดล้วนถูกสร้างอย่างหรูหราอลังการ (แอลเอสู่ลาสเลกัสใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง )

ป้ายยินดีต้อนรับสู่เมืองลาสเวกัส ( Welcome to Las Vegas ) เป็นจุดที่ต้องมาถ่ายรูปเป็นที่ระลึกว่าเรามาถึงลาสเวกัสแล้วจ้า

บรรยากาสถนนสตริป ( Strip Road ) ถนนชื่อดังที่เรามักจะเห็นในหนังหลายเรื่องที่ยาวเป็นเส้นทางตรงและตลอดสองข้างข้างประกอบด้วยแสงสียามค่ำคืนประดับประดาไฟจากโรงแรมคาสิโน ป้ายโฆษณายักษ์ ช็อปแบรนด์เนม Hi end , Hi streetร้านค้า บางร้านเปิด 24 ชม.

แบรนด์เนมHi end , Hi steert ปิด 00.00 น. ร้านค้าเยอะมาก อาหาร เสื้อผ้า ของที่ระลึก , Starbuck 24 Hours , Mini mart 24 Hours

กิจกรรมให้เลือกทำ อาทิ เล่นคาสิโน ไนท์ไลฟ์ ดูคอนเสิร์ต โชว์ต่างๆ ผู้คนหลายเชื้อชาติคึกคัก เป็นเมืองแห่งเสรี เราจะสังเกตตลอดข้างทางบางมีคอนเสิร์ต บางมีโชว์Pr แต่งตัวเก๋ไก๋ สีสัน สามารถดื่มแอลกอฮอล์ และเดินชิวเต้นตามถนนเคล้ากับดนตรี ดูครึกครื้น( บางรัฐในอเมริกา การดื่มแอลกอฮอล์นอกเขตอาคารผิดกฏหมายจ๊ะ )

Girl for your room ป้ายโฆษณาจากถนนสตริป from vegus จ๊ะ ทีเด็ดของคุณผู้ชายเขาล่ะ

ทีเด็ดมาก ที่นี้ ศิลปินคนโปรดของบางคนที่รอมาแรมปี สามารถพบได้ง่ายๆที่นี้ก็มีนะคะ เช่น Pitbull , britney spears, Brumo mars หลายโรงแรมในเวกัสจะจ้างนักร้อง เซเลปดังมาแสดงโชว์บ่อยมาก time of our lives และขายบัตรให้แขกที่มาพัก ( คือ การเรียกแขกให้มาพัก รร. ตัวเอง เพราะรร. เยอะจริงอะไรจริง )
คูลลลลลมั้ยล้าาา !!
? Las vegas

แวะถ่ายรูปแสงไฟสวยๆสักรูปจ้า

โรงแรมเบลลาจิโอ ( bellagio ) ยามค่ำคืนจะมีโชว์น้ำพุเต้นระบำสวยงามมากจ้า

ถึงจะอิสระเสรีแค่ไหน **กฎหมายที่นี้ห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี เล่นการพนันนะจ๊ะ **

3. อุทยานแห่งชาติแกรนด์ แคนยอน เวสริม ( Grand Canyon National Park ) ( จากลาสเวกัสใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 40 นาที ) ที่บอกเลยว่า เป็นสถานที่ควรต้องมาและพลาดไม่ได้เด็ดขาด มรดกโลกที่ธรรมชาติสร้างสรรค์มากกว่าล้านปี หินลวดลายงดงามจากการกัดเซาะของแม่น้ำโคโลราโด

และกิจกรรมที่พลาดไม่ได้เลยคือ การนั่งเฮลิคอปเตอร์เพื่อชมความยิ่งใหญ่ของโลกแบบ 360 องศา เป็นประสบการณ์ที่จะไม่มีทางลืมแน่นอนค่ะ เพราะความงามของภาพตรงหน้ามันช่างประทับและตราตรึงได้อย่างน่าอัศจรรย์

Review- การนั่งเฮลิคอปเตอร์ชมอุทยานแห่งชาติแกรนด์ แคนยอน
ขอบอกเลยว่า แอดมินตื่นเต้นมากๆค่ะ ( เราสามารถเลือกซื้อประกันภัยเฮลิคอปเตอร์เพิ่มได้นะคะ )

อับดับแรกเราต้องเข้าอาคารพักโดยสารผ่านการเช็คชื่อและอับดับส่วนสูงเพื่อเรียงลำดับที่นั่งค่ะ เฮลิคอปเตอร์ที่เรานั่งสามารถนั่งได้จำนวน 6 ผู้โดยสาร ไม่รวมนักบินนะคะ
เจ้าหน้าที่จะคอยประสาน และดูแลเราตลอดการขึ้นเฮลิคอปเตอร์นะคะ จะมีลิสแบรนด์ติดแขนผู้โดยทุกคน
หลังจากเจ้าหน้าที่จะพาเราไปต่อคิว และส่งเราคอยดูแลจนขึ้นเครื่องเตรียมบินขึ้นฟ้าเลยจ้า
หลังจากบินบนฟ้าเบื้องล่างช่างสวยงามสุดๆไปเลยจ้า เราจะใช้เวลาบินประมาณ 10 นาที
เฮลิคอปเตอร์ก็จะมาลงเราตรงจุดจอดฮ. … ( ยังไม่จบนะจ๊ะ )

(บรรยากาศวิวแกรนด์แคนยอนจากบนเฮลิคอปเตอร์ )

จากนั้นเราจะก็ต้องนั่งเรือล่องแม่น้ำโคโลราโดสีคาราเมลนี้ น้ำในแม่น้ำไหลแรงมากค่ะ เราจะเห็นวิวแม่น้ำกับเทือกเขากว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตาที่มีลวดลายแปลกตางดงามตลอดสองข้างทาง

(วิวข้างทางล่างจุดจอดเฮลิคอปเตอร์ เผื่อไปล่องเรือแม่น้ำโคโรลาโด )

ลมแรงและน้ำในแม่น้ำวนและไหลแรงมากค่ะ เพราะฉะนั้นคนขับเรือจำเป็นต้องมีความชำนาญมาก

หลังจากล่องเรือเสร็จเราก็จะกลับมาที่จุดจอดฮ. และจุดขึ้นเรือค่ะ ( จุดลง-ขึ้นเรือที่เดิม)
นั่งเฮลิปคอปเตอร์กลับจุดจอดฮ.อาคารพักผู้โดยสารใช้เวลาประมาณ 10 นาที ชมวิวอันงดงามอีกครั้ง และก็แชะรูปไว้เป็นที่ระลึกกับชาวแก๊งสักหน่อยค่ะ 55 ^_^v
เป็นประสบการณ์ยอดเยี่ยมที่สุดต้องมาลองให้ได้นะคะ

จุดชมวิวกัวอโน่ พ้อย ( Guano Point ) จุดชมวิวที่สามารถชมวิวแกรนด์ แคนยอนได้แบบ 360 องศา
ทานข้าวกลางวันแบบเอ้าท์ดอร์ วิวธรรมชาติพาโนราม่า กับแก๊งอีกาแบบคูลๆ

ระหว่างทางเดินขึ้นไปบนจุดชมวิวที่สูงที่สุดของกัวอโน่พ้อย

**มีข้อห้ามที่เราไม่ควรเดินไปใกล้หน้าผามากเกินไปค่ะ** วัดจากขอบลงไปจนถึงก้นเหวมีความลึกประมาณ 1 ไมล์ และอาจลึกกว่านั้น (อู้วววู้ว สวยแต่ทำไมน่ากลัวอย่างนี้นะ )

อันนี้เป็นจุดที่สูงที่สุดที่เราจะสามารถเห็นวิวได้แบบ 360 องศา แอดมินขอบอกได้เลยว่า ภาพที่เห็นด้วยตาสวยกว่ามากนักจนไม่รู้จะบรรยายอย่างไรดี อยากให้ทุกคนมาเห็นด้วยตาตัวเองจริงๆค่ะ >3<

4. เมืองซานฟรานซิสโก ( SAN FRANCISGO ) รัฐแคลิฟอร์เนีย ( CALIFORNIA )
เมืองอ่าวซานฟรานซิสโกที่มีความหนาแน่นของประชากรอับดับสองของประเทศ ซานฟรานก็เป็นหนึ่งในโลเคชั่่นMvเพลงแบบโรแมนติกเฟ่อร์ หนังพริกขี้หนูกับหมูแฮมคือ ฉันเป็นนางเอกแห่งยุค 80 s’ จินสุด มโนสุดด ที่สุดเลยเว้ยแกร๊ >\\< ( จากลาสเวกัสไปซานฟรานซิสโกใช้เวลาค่อนข้างนานดังนั้นเราจะแวะพักที่เมืองเฟรนโน และเดินทางจากเฟรนโนสู่ซานฟรานซิสโกประมาณ 3 ชั่วโมง )
⭐แลนมาร์คสำคัญ

– สะพานโกลเดน เกต ( Golden gate bridge ) ประตูทอง ต้อนรับทุกคนสู่เมืองซานฟรานซิสโก สะพานแขวนแห่งแรกที่ใหญ่ที่สุดในโลก

สะพานสีแดงอมส้มที่สะท้อนเปล่งประกายเมื่อโดนแสงอาทิตย์จากแดด ความงามจากการออกแบบจากวิศวกรรมได้รับยกย่องให้เป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก และเป็นสัญลักษณ์เมืองซานฟรานจ้า

จากนั้นเราก็เดินทางกันต่อค่ะ

ยอดเขาทวินพีค ( Twin Peak ) จุดชมวิวกลางเมืองซานฟรานซิสโกจากจุดนี้เราสามารถมองเห็นทั่วเมืองซานฟรานซิสโกแบบ 360 องศา

บรรยากาศภายในเมืองซานฟรานซิสโกค่ะ เป็นเมืองที่น่าอยู่บ้านเรือนผู้คนโดดเด่นด้วยสีพาสเทลสะดุดตา เป็นเมืองที่แอดมินอยากจะอยู่นานๆจริงๆค่ะ

บรรยากาศภายในเมืองดูคึกคัก

ไปกันต่อที่ ท่าเรือเพียร์ 39 ( Pier 39 ) อดีตเป็นท่าเรือส่งสินค้ามากมายโดยมีตัวเลขกำกับท่าเรือตั้งแต่ Pier 1 ไปเรื่อยๆ แต่เพียร์ 39เป็นท่าเรือที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดค่ะ เป็นเพราะอะไรมาชมกัน

คนเดินกันให้ควั่กทั้งคนอเมริกัน และชาวต่างชาติ

มองไกลๆเราจะเห็นรถฟรานซรานซิสโกซิตี้ทัวร์ ถ้ามีเวลาฟรีเดย์ 1 วัน ก็น่าจะเหมาะแก่การนั่งรถชมวิวเมืองสักหน่อยนะคะ ^^

เป็นย่านช้อปปิ้ง และร้านอาหารต่างๆมากมาย

มีเครื่องเล่นม้าหมุนด้วยจ้า ว้าววว

Bud Light , Bud weiser , Corona คือ ยี่ห้อเบียร์ที่มีชื่อเสียงของที่นี้จ้าา สำหรับขาเบียร์ต้องลองกันแล้วล่ะนะ

บรรยากาศดีมากๆเลยค่ะ

ร้านอาหารมีให้เลือกทานเยอะแยะมากเลย

เราเลือกทานร้านนี้ค่ะ อาหารทะเลสดมากแถมเบสโลเคชั่นนั่งเห็นวิวท่าเรือ 39 (Pier 39 )แบบเต็มๆ ได้ดื่มด่ำบรรยากาศผู้คนที่มาเที่ยว ทำกิจกรรม หรือมองเรือที่แล่นที่แล่นผ่านก็ช่างเป็นความรู้สึกสบายๆ ชิวเหลือเกิน พร้อมทานซีฟู้ดแสนอร่อย

วันนี้แอดมินเลือกทานปูค่ะ และจากที่เรานั่งอยู่ตรงนี้จะเห็นแก๊งแมวน้ำ อุ๋งๆ มานอนอาบแดดที่ท่าเรือกันเรียงราย น่ารักน่าชังจริง พร้อมนกทะเลบินว่่อนส่งเสียงร้องประสานกับแก๊งแมวน้ำเหมือนฟังดนตรีจากธรรมชาติ เหมือนรับรสการทานอาหารโดยประสาทสัมผัสทั้ง 5 เป็นร้านอาหารที่ให้คะแนน 10 /10 ไปเลยจ้า
( หากท่านไหนสนใจอยากจะมาทานร้านนี้ แอดมินขออนุญาตกระซิบหลังไมค์นะคะ >3< )