เดือนพฤศจิกายน เที่ยวไหนดี? ถึงในช่วงเดือนนี้จะไม่ได้มีวันหยุดราชการ แต่ก็มีวันสําคัญต่าง ๆ มากมาย และถึงเเม้จะไม่มีวันหยุด แต่เพียงแค่วันหยุดสุดสัปดาห์ ใครว่าเที่ยวไม่ได้ อย่าพึ่งท้อแล้วจองตั๋วไปพักกันให้หนําใจ ก่อนอื่นแวะไปดูวันสําคัญประจําเดือนกันก่อนค่ะ
ปฏิทินประจําเดือนพฤศจิกายน 2567
น่าเสียดายที่เดือนนี้ไม่มีวันหยุดราชการเลยค่ะ แต่ก็มีวันสําคัญต่าง ๆ มากมาย โดยวันสําคัญต่าง ๆ ประจําเดือน พฤศจิกายน ได้แก่
- 1 พฤศจิกายน 2567 วันเกิด Hello Kitty
- 8 พฤศจิกายน 2567 วันผังเมืองโลก
- 9 พฤศจิกายน 2567 วันคนพิการแห่งชาติ
- 11 พฤศจิกายน 2567 วันคนโสด
- 14 พฤศจิกายน 2567 วันพระบิดาแห่งฝนหลวง / วันเบาหวานโลก
- 15 พฤศจิกายน 2567 วันลอยกระทง
- 18 พฤศจิกายน 2567 วันเกิดมิกกี้ เมาส์
- 19 พฤศจิกายน 2567 วันส้วมโลก
- 20 พฤศจิกายน 2567 วันกองทัพเรือ / วันเด็กสากล
- 21 พฤศจิกายน 2567 วันโทรทัศน์สากล
- 22 พฤศจิกายน 2567 Black Friday
- 25 พฤศจิกายน 2567 วันวชิราวุธ / วันประถมศึกษาแห่งชาติ / วันยุติความรุนแรงต่อสตรีสากล
- 27 พฤศจิกายน 2567 วันสาธารณสุขแห่งชาติ
- 29 พฤศจิกายน 2567 วันแห่งความเป็นปึกแผ่นสากลกับชาวปาเลสไตน์
แล้วต่อจากนี้ Travelzeed จะพาทุกคนไปเยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวในต่างประเทศที่น่าสนใจกับ เดือนพฤศจิกายน เที่ยวไหนดี? บอกเลยว่าสถานที่ท่องเที่ยวสวย ๆ เพียบถ้าทุกคนอ่านจบแล้ว คงต้องเตรียมแพลนเที่ยวไว้เลยค่ะ
- 1. Bagni san filippo – Italy
- 2. Los Glaciares National Park – Argentina
- 3. Kyoto – Japan
- 4. Whales of Iceland – Iceland
- 5. New York City – USA
- 6. Burj Khalifa – Dubai
- 7. Banff National Park – Canada
- 8. Angkor Wat – Cambodia
- 9. Wai-O-Tapu – New Zealand
- 10. Vienna – Austria
- 11. Sharm el Sheikh – Egypt
- 12. Chefchaouen – Morocco
- 13. Cape Town – South Africa
- 14. Safari Desert – Dubai
- 15. Uffizi Gallery – Italy
- 16. Canary Islands – Spain
- 17. Algar de Benagil – Portugal
- 18. Hawaii – USA
- 19. Sydney – Australia
- 20. Atoll Island – Maldives
- บทส่งท้าย
เดือนพฤศจิกายน เที่ยวไหนดี? แจกพิกัด 20 สถานที่เที่ยวต่างประเทศ
1. Bagni san filippo – Italy
สภาพอากาศ : ฤดูใบไม้ร่วง
นํ้าพุร้อนที่ตั้งอยู่ในแคว้นทัสคา ในป่า Monte Amiata เป็นน้ำพุร้อนธรรมชาติที่มีหินปูนรูปร่างแปลกตา และอุดมไปด้วยแร่ธาตุต่าง ๆ มากมาย อีกทั้งยังมีบรรยากาศที่เงียบสงบมาก เนื่องจากไม่ได้เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวอย่างกว้างขวาง แนะนําให้ไปลองเลยค่ะ
จุดที่มีชื่อเสียงของที่นี่ คือ Fosso Bianco ซึ่งเป็นสระน้ำที่ไหลลดหลั่นกันเป็นชั้น ๆ ล้อมรอบไปด้วยตะกอนแคลเซียมสีขาว ทั้งบรรยากาศเอย ธรรมชาติเอย บ่นํ้าพุร้อนเอย บอกเลยว่างดงามเกินคําบรรยายจริง ๆ ค่ะ
2. Los Glaciares National Park – Argentina
สภาพอากาศ : ฤดูใบไม้ร่วง
อุทยานแห่งชาติลอส กลาเซียเรส ตั้งอยู่ในปาตาโกเนีย ชื่อเสียงในด้านทัศนียภาพสุดอลังของธารน้ำแข็ง และเทือกเขาสูงที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ ใครที่ชอบอากาศหนาว อยากการผจญภัย อุทยานแห่งนี้ก็เรียกได้ว่าเป็นสวรรค์ของนักท่องเที่ยวเลยก็ว่าได้ค่ะ ไม่ว่าจะเป็นการเดินป่า ปีนภูเขาน้ำแข็ง หรือล่องเรือ ที่นี่ก็มีครบ
สถานที่ท่องเที่ยวภายในอุทยานที่แนะนํา
- เซร์โรตอร์เร (Cerro Torre)
- ภูเขาฟิตซ์รอย (Mount Fitz Roy)
- ธารนํ้าแข็งเปริโต โมเรโน (Perito Moreno Glacier)
3. Kyoto – Japan
สภาพอากาศ : ฤดูใบไม้ร่วง
เกียวโต ช่วงนี้เป็นช่วงที่ดีที่สุดในการเที่ยวชม เนื่องจากมีใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยงามจากใบเมเปิลสีแดงและสีส้มสดใส อีกทั้งอากาศก็ยังดีอีกด้วย สถานที่เที่ยวที่แนะนําจะเป็นวัดและศาลเจ้านั่นเองค่ะ ให้ภาพใบไม้หลากสีตัดกับวิวทิวทัศน์ของศาลเจ้าเก่าแก่งดงามมากค่ะ
สถานที่เที่ยวชมใบไม้เปลี่ยนสีที่แนะนํา
- วัดคิโยะมิซุ (Kiyomizu-dera)
- ศาลเจ้าฟูชิมิอินาริ (Fushimi Inari Shrine)
- วัดไดโกจิ (Daigo-ji Temple)
- วัดโยชิมิเนะเดะระ (Yoshiminedera Temple)
- วัดเอคันโดะ (Eikando Temple)
4. Whales of Iceland – Iceland
สภาพอากาศ : ฤดูใบไม้ร่วง
นิทรรศการวาฬแห่งไอซ์แลนด์ เป็นนิทรรศการทางทะเลที่จัดขึ้นที่เมืองเรคยาวิก ประเทศไอซ์แลนด์ สร้างขึ้นเพื่อจัดแสดงสายพันธุ์ของวาฬหลากหลายชนิดที่อาศัยอยู่ในน่านน้ำไอซ์แลนด์ โดยเปิดให้เข้ามาเดินชมหุ่นจำลองของวาฬมากกว่า 20 สายพันธุ์ในขนาดเท่าตัวจริง
ภายในมีหุ่นจำลอง เช่น วาฬสีน้ำเงิน วาฬหลังค่อม วาฬเพชฌฆาต และอื่น ๆ อีกมาหมาย มาพร้อมเอฟเฟกต์แสง สี และเสียงที่เลียนแบบสภาพแวดล้อมใต้น้ำของมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ นอกจากนี้ยังมีข้อมูลเกี่ยวกับพฤติกรรมของวาฬ ให้ได้ศึกษากันเพลิน ๆ อีกด้วยค่ะ
5. New York City – USA
สภาพอากาศ : ฤดูใบไม้ร่วง
เมืองนิวยอร์ก ในช่วงนี้เป็นช่วงที่คึกคักเป็นอย่างมาก เนื่องจากมีการจัดเทศกาล Macy’s Thanksgiving Day Parade ซึ่งเป็นงานเดินขบวนพาเหรดในวันขอบคุณพระเจ้าของห้าง Macy’s ที่จัดขึ้นในวันที่ 28 พฤศจิกายน 2567 รวมทั้งงานอีเวนต์ช่วงฤดูหนาวอย่าง การเล่นสเก็ตน้ำแข็งที่ Rockefeller Center
สถานที่ท่องเที่ยวภายในเมืองที่แนะนํา
- เทพีเสรีภาพ (Statue of Liberty)
- ตึกเอ็มไพร์สเตท (Empire State Building)
- ไทม์สแควร์ (Times Square)
- สะพานบรูคลิน (Brooklyn Bridge)
- The Oculus (One World Trade Center)
6. Burj Khalifa – Dubai
สภาพอากาศ : ฤดูหนาว
ตึกเบิร์จคาลิฟา อาคารที่เรียกได้ว่าสูงที่สุดในโลก ซึ่งเป็นสิ่งมหัศจรรย์ทางวิศวกรรมแบบสมัยใหม่ และเป็นสัญลักษณ์เด่น ๆ ภายในเมืองดูไบ ด้วยความสูงถึง 828 เมตร (2,717 ฟุต) ทำให้เราสามารถชมวิวเมืองดูไบได้แบบ 360 องศาเลยค่ะ
จุดชมวิวที่แนะนําจะเป็น จุดชมวิว At The Top ซึ่งตั้งอยู่บนชั้น 124 และ Sky Lounge บนชั้น 148 ซึ่งถือเป็นจุดชมวิวที่สูงที่สุดในโลก โดยไอไลท์ของที่นี่ คือ น้ำพุแห่งดูไบ (Dubai Fountain) เป็นงานแสดงนํ้าพุเต้นระบําสุดยิ่งใหญ่ที่มาพร้อมกับแสงและสีสุดอลัง
7. Banff National Park – Canada
สภาพอากาศ : ฤดูใบไม้ร่วง
อุทยานแห่งชาติแบมฟ์ ตั้งอยู่ในเทือกเขาร็อกกี้ของแคนาดา หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่ว่ากันว่าสวยมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ทั้งทะเลสาบที่มีน้ำใสราวกับคริสตัล ป่าเขียวอุดมสมบูรณ์ และภูเขาที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ อีกทั้งช่วงนี้ยังอยู่ในช่วงฤดูเล่นสกี ใครที่ชื่นชอบกีฬาฤดูหนาวห้ามพลาดเลยค่ะ
สถานที่ท่องเที่ยวภายในอุทยานที่แนะนํา
- ทะเลสาบลูอิส (Lake Louise)
- ทะเลสาบโมเรน (Moraine Lake)
- ภูเขาซัลเฟอร์ (Sulphur Mountain)
- หมู่บ้าน (Sunshine Village)
- จอห์นสตัน แคนยอน (Johnston Canyon)
8. Angkor Wat – Cambodia
สภาพอากาศ : ฤดูใบไม้ร่วง
นครวัด หนึ่งในแหล่งมรดกโลกที่ถูกยกให้เป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก เป็นวัดฮินดูโบราณที่สร้างขึ้นเมื่อต้นศตวรรษที่ 12 เพื่ออุทิศให้กับพระวิษณุ ต่อมากลายเป็นสถานที่ทางพุทธศาสนาและศูนย์กลางทางจิตวิญญาณของชาวกัมพูชา โดยมีสถาปัตยกรรมเขมร และงานแกะสลักที่สวยงามต่าง ๆ มากมาย
นอกจากนี้ นครวัดยังเป็นส่วนหนึ่งของ อุทยานโบราณคดีนครวัด ซึ่งประกอบด้วยวัดเก่าแก่และซากปรักหักพังโบราณอื่น ๆ อีกหลายร้อยแห่ง ตัวอย่างเช่น
- ปราสาทบายน (Bayon Temple)
- ปราสาทตาพรหม (Ta Prohm)
- ปราสาทบันทายสรี (Banteay Srei)
- ปราสาทพระขรรค์ (Preah Khan)
- ปราสาทพนมบาเค็ง (Phnom Bakheng)
9. Wai-O-Tapu – New Zealand
สภาพอากาศ : ฤดูใบไม้ผลิ
อุทยานความร้อนใต้พิภพ เป็นอุทยานนํ้าพุร้อนชื่อดังที่ตั้งอยู่ในเมืองโรตารัว ทางเกาะเหนือของนิวซีแลนด์ โดยนํ้าพุร้อนแต่ละแห่งก็มีเอกลักษณ์ที่แตกต่างกัน อย่าง บ่อนํ้าสีเหลืองที่เกิดจาก Acid Sulphate, สีฟ้าจาก Alkali-chloride, สีส้มจาก Antimony/Arsenic, และสีเทาจาก Carbon
สถานที่ท่องเที่ยวภายในอุทยานที่แนะนํา
- บ่อโคลน (Mud Pool)
- สระแชมเปญ (Champagne Pool)
- น้ำพุร้อนเลดี้น็อกซ์ (Lady Knox Geyser)
- จานสีของศิลปิน (Artist’s Palette)
- อ่างนํ้าปีศาจ (Devil’s bath)
10. Vienna – Austria
สภาพอากาศ : ฤดูใบไม้ร่วง
เวียนนา เมืองหลวงของออสเตรีย ซึ่งเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมที่มากมาย จนกลายเป็นอีกหนึ่งเมืองที่น่าหลงใหลมากแห่งหนึ่ง ซึ่งช่วงเดือนพฤศจิกายน วันที่ 15 พฤศจิกายน – 23 ธันวาคม 2567 ก็เป็นช่วงที่มีการจัดตลาดคริสต์มาสขึ้นอีกด้วยค่ะ
สถานที่ท่องเที่ยวภายในเมืองที่แนะนํา
- มหาวิหารเซนต์สตีเฟ่น (St. Stephen’s Cathedral)
- พระราชวังเชินบรุนน์ (Schönbrunn Palace)
- พระราชวังฮอฟบวร์ก (Hofburg Palace)
- โรงละครโอเปร่า (Vienna State Opera)
- คอนเสิร์ทฮอล์ (Musikverein)
11. Sharm el Sheikh – Egypt
สภาพอากาศ : ฤดูหนาว
เมืองชาร์มเอลชีค ตั้งอยู่บนปลายสุดของ คาบสมุทรไซนาย (Sinai Peninsula) ซึ่งเป็นเมืองตากอากาศที่มีชื่อเสียงระดับโลกในเรื่องของแนวปะการังสุดสวย และรีสอร์ทสุดหรูริมชายหาด เรียกได้ว่าเป็นสวรรค์สำหรับนักท่องเที่ยวเลยค่ะ ไม่เพียงแค่นั้น ยังมีทะเลทรายให้ได้ไปขี่อูฐทัวร์ชมบรรยากาศอีกด้วย
สถานที่ท่องเที่ยวภายในเมืองที่แนะนํา
- อ่าวนามา (Naama Bay)
- ภูเขาซีนาย (Mount Sinai)
- หมู่เกาะติราน (Tiran Island)
- อารามเซนต์แคทเธอรีน (St. Catherine’s Monastery)
- อุทยานแห่งชาติราสมูฮัมหมัด (Ras Mohammed National Park)
12. Chefchaouen – Morocco
สภาพอากาศ : ฤดูใบไม้ร่วง
เมืองเชฟชาอูน ซึ่งมักถูกเรียกอีกชื่อว่า “เมืองสีน้ำเงิน” เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ใน เทือกเขาริฟ (Rif) ทางตอนเหนือของโมร็อกโก โดยตัวอาคารของทั้งเมืองจะทาเป็นสีฟ้าและนํ้าเงินสดใสสะดุดตา จนกลายเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามาเป็นจํานวนมากเลยค่ะ
สถานที่ท่องเที่ยวภายในเมืองที่แนะนํา
- นํ้าตก (Cascades d’Akchour)
- นํ้าตก (Ras El Maa Waterfall)
- พระราชวังบาเฮีย (Bahia Palace)
- จตุรัสกลางเมือง (Plaza Uta el-Hammam)
- พระราชวังคาสบาห์ (Kasbah Museum)
13. Cape Town – South Africa
สภาพอากาศ : ฤดูใบไม้ผลิ
เคปทาวน์ เมืองริมชายฝั่งของแอฟริกาใต้ ที่มีทิวทัศน์ที่สวยงามและมีชีวิตชีวามากแห่งหนึ่ง ซึ่งทางยูเนสโกก็ได้ยกให้เป็นเมืองแห่งความหลากหลายทางธรรมชาติอีกด้วยค่ะ เพราะมีทั้งภูเขา ทะเล และเกาะ โดยในช่วงนี้เป็นช่วงที่เหมาะกับการมาเยี่ยมชมธรรมชาติอย่าง ภูเขา หรือสวนพฤกษศาสตร์มากค่ะ
สถานที่ท่องเที่ยวภายในเมืองที่แนะนํา
- ภูเขาโต๊ะ (Table Mountain)
- เกาะร็อบเบิน (Robben Island)
- เคปพอยต์ (Cape Point)
- ศูนย์การค้า (V&A Waterfront)
- อ่าวแค้มป์ (Camps Bay)
- หาดคลิฟตัน (Clifton Beach)
- สวนพฤกษศาสตร์เคอร์สเทนบอส์ช (Kirstenbosch National Botanical Garden)
14. Safari Desert – Dubai
สภาพอากาศ : ฤดูหนาว
ทะเลทรายซาฟารี การมาเที่ยวที่นี่นับเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่บอกเลยว่าห้ามพลาด โดยเป็นทะเลทรายที่ใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลก และมีกิจกรรมมากมายให้ได้ทํา ไม่ว่าจะเป็นการนั่งรถโฟร์วีลตะลุยเนินทราย ขี่อูฐ หรือผจญภัยถ่ายภาพคู่กับเหยี่ยว รวมถึงเพลิดเพลินกับกาแฟและอาหารสไตล์อาหรับ
กิจกรรมเด่น ๆ ภายในทะเลทรายซาฟารี
- การขี่อูฐ (Camel rides)
- เล่นกระดานโต้คลื่น (Sandboarding)
- ตั้งแคมป์สไตล์เบดูอิน (Bedouin-style camp)
- ชมศิลปะการเพ้นท์เฮนน่า (Henna Paint)
- ชมพระอาทิตย์ตกและดูดาว (Sunset / Stargaze)
15. Uffizi Gallery – Italy
สภาพอากาศ : ฤดูใบไม้ร่วง
หอศิลป์อุฟฟิซิ พิพิธภัณฑ์ศิลปะเก่าแก่ที่มีชื่อเสียงในฟลอเรนซ์ อิตาลี ซึ่งรวบรวมผลงานชิ้นเอกแห่งยุคเรอเนสซองส์ไว้มากมาย ถูกออกแบบโดย Giorgio Vasari ในช่วงศตวรรษที่ 16
พิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งนี้จัดแสดงผลงานของศิลปินระดับตำนาน เช่น Leonardo da Vinci, Michelangelo, Raphael, Caravaggio โดยภาพวาดที่มีชื่อเสียงที่สุดคือ “The Birth of Venus” ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความงามและความคิดสร้างสรรค์ในยุคเรอเนสซองส์
16. Canary Islands – Spain
สภาพอากาศ : ฤดูใบไม้ร่วง
หมู่เกาะคานารี เป็นหมู่เกาะของสเปนนอกชายฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือของแอฟริกา มีภูมิประเทศที่หลากหลาย และมีภูมิอากาศแบบอบอุ่น ซึ่งแต่ละเกาะก็มีสิ่งที่เป็นเอกลักษณ์ เฉพาะที่น่าสนใจ ตั้งแต่เกาะที่มีพื้นที่เป็นภูเขาไฟ ไปจนถึงเกาะที่มีป่าไม้อุดมสมบูรณ์และเต็มไปด้วยสัตว์ป่า เป็นต้น
เกาะทั้ง 7 ของหมู่เกาะคานารี
- เกาะเตเนริเฟ (Tenerife)
- เกาะกราน คานาเรีย (Gran Canaria)
- เกาะลันซาโรเต (Lanzarote)
- เกาะฟูเอร์เตเวนตูรา (Fuerteventura)
- เกาะภูเขาไฟลา ปัลมา (La Palma)
- เกาะลา โกเมรา (La Gomera)
- เกาะเอล เอียร์โร (El Hierro)
17. Algar de Benagil – Portugal
สภาพอากาศ : ฤดูใบไม้ร่วง
หาดเบนาจิล เป็นชายหาดเล็ก ๆ ที่อยู่ภายในถํ้าลับแลรูปทรงแปลกตา ตั้งอยู่บนชายฝั่งทางใต้ของโปรตุเกสในภูมิภาคอัลการ์ฟ ซึ่งการที่จะเข้าไปในถํ้าจําเป็นจะต้องนั่งเรือคายัค หรือพายเรือแพดเดิลบอร์ดเท่านั้น
โดยถํ้าเเห่งนี้นับสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติที่มีชื่อเสียงมาจากถ้ำรูปโดมที่มีช่องแสงขนาดใหญ่ที่เรียกกันว่า “The Eye” ซึ่งช่วยให้แสงแดดส่องเข้ามาภายในถํ้า ทําให้เห็นลักษณะของหินที่แบ่งเป็นชั้น ๆ โดยเฉพาะในช่วงพระอาทิตย์ขึ้นหรือตกจะสวยงามมาก ๆ เลยค่ะ
18. Hawaii – USA
สภาพอากาศ : ฤดูหนาว
ฮาวาย อีกหนึ่งสถานที่ที่ไม่มีใครไม่รู้จัก เป็นรัฐหนึ่งในภาคตะวันตกของสหรัฐ ตั้งอยู่ในมหาสมุทรแปซิฟิก อยู่ห่างจากชายฝั่งอเมริกาเกือบ 4 พันกิโลเมตร โดยประกอบด้วยหมู่เกาะน้อยใหญ่รวมกันถึง 137 เกาะ
เกาะส่วนใหญ่เกิดขึ้นจากการระเบิดของภูเขาไฟในทะเลและลาวาที่ไหลผ่านแผ่นเปลือกโลกแปซิฟิก โดยมีเกาะหลัก ๆ สำหรับท่องเที่ยวเพียง 8 เกาะ
เกาะหลักทั้ง 8 ภายในรัฐฮาวาย
- เกาะฮาวาย (Hawaii)
- เกาะเมาวี (Maui)
- เกาะโมโลไก (Molokai)
- เกาะคาโฮโอลาเว (Kahoolawe)
- เกาะลาไน (Lanai)
- เกาะคาไว (Kauai)
- เกาะนิอิฮาว (Niihau)
- เกาะโอวาฮู (Oahu)
19. Sydney – Australia
สภาพอากาศ : ฤดูใบไม้ผลิ
ซิดนีย์ เมืองที่ใหญ่และมีชื่อเสียงที่สุดของปรเทศ โดยถูกเรียกว่าเป็นเมืองแห่งการศึกษา ซึ่งมีมหาวิทยาลัยถึง 5 แห่งที่ดีที่สุดอันดับต้น ๆ ของโลก ทำให้ถูกจัดอันดับให้เป็นเมืองที่นักเรียนอยากมาเรียนต่อมากที่สุดเป็นอันดับ 7 ของโลกโดย QS World University Rankings
สถานที่ท่องเที่ยวภายในเมืองที่แนะนํา
- โรงละครโอเปร่าซิดนีย์ (Sydney Opera House)
- สะพานฮาร์เบอร์ (Sydney Harbour Bridge)
- หาดบอนได (Bondi Beach)
- สวนสัตว์ทารอนก้า (Taronga Zoo)
- เดอะร็อคส์ (The Rocks)
20. Atoll Island – Maldives
สภาพอากาศ : ฤดูแล้ง
เกาะอาโทลล์ สวรรค์เขตร้อนของนักท่องเที่ยวทั่วโลกที่ว่ากันว่าต้องไปให้ไปสักครั้งในชีวิตกับ มัลดีฟส์ เจ้าของฉายา “The Last Paradise on Earth” หรือก็คือ สวรรค์บนดินแห่งสุดท้ายของโลก
มัลดีฟส์ ขึ้นชื่อในเรื่องของน้ำทะเลที่ใสราวกับคริสตัล แนวปะการังสีสันสดใส และรีสอร์ทบนน้ำสุดหรู โดยกิจกรรมเด่นของที่นี่คือ การดำน้ำชมปลาต่าง ๆ อย่าง ปลากระเบนราหู ฉลามวาฬ และฝูงปลาสีสันสดใส ที่เเสดงถึงความสมบูรณ์ของระบบนิเวศแห่งนี้
แนะนํา 5 หมู่เกาะปะการังสุดดังในมัลดีฟส์
- หมู่เกาะอะลิ อาโทลล์ (Ari Atoll)
- หมู่เกาะบา อาโทลล์ (Baa Atoll)
- หมู่เกาะรา อาโทลล์ (Raa Atoll)
- หมู่เกาะนอร์ธมาเล่ อะทอล (North Malé Atoll)
- หมู่เกาะลาวิยานี (Lhaviyani Atoll)