- 1. จัตุรัสรีกิสตัน
- 2. โรงเรียนสอนศาสนา มิริ อาหรับ
- 3. ซากพระราชวังอัคซาราย
- 4. ตลาดชอร์ซู
- 5. พิพิธภัณฑ์ศิลปะนูกุส
- 6. ชาห์ อี ซินดาร์
- 7. สุสานหลวงอามีร์ ติมูร์
- 8. มัสยิดบีบี คานิม
- 9. ป้อมดิอาร์ค
- 10. หออะษานแกลอน
- 11. ทะเลสาบไอดาร์คุล
- 12. ชอร์ มินอร์
- 13. สุสานแห่งซามานิดส์
- 14. มัสยิดโบโลเฮาส์
- 15. หอคอยคัลตา มิโนร์
- 16. พิพิธภัณฑ์อามีร์ ตีมูร์
- 17. เทือกเขาชิมกาน
- 18. หุบเขาเฟอร์กานา
- ภาพบรรยากาศเที่ยว อุซเบกิสถาน
- บทส่งท้าย
อุซเบกิสถาน (Uzbekistan) แหล่งขุมทรัพย์ของความมหัศจรรย์ทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม โดยมีเมืองโบราณบนเส้นทางสายไหมที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวมามากมาย ทำให้เป็นหนึ่งในประเทศที่น่าจับตามองและน่าเยี่ยมชมมากค่ะ ในวันนี้ Travelzeed ก็จะมาแนะนําสถานที่ท่องเที่ยวเมืองแห่งประวัติศาสตร์แห่งนี้กันค่ะ หากพร้อมเเล้วไปดูกันเลย~
แนะนํา 18 สถานที่เที่ยว อุซเบกิสถาน 2567-2568
1. จัตุรัสรีกิสตัน
Registan Square : เป็นศูนย์รวมของโรงเรียนสอนศาสนาอิสลาม ใจกลางเมืองซามาร์คานด์ จุดเด่นของที่นี่คือมีสถาปัตยกรรมที่งดงาม ประดับด้วยกระเบื้องโมเสคลวดลายประณีต ล้อมรอบด้วยโรงเรียนสอนศาสนา 3 แห่งได้แก่ Ulugh Beg Madrasah, Sher-Dor Madrasah, และ Tilya-Kori Madrasah
ไฮไลท์พิเศษของที่นี่คือ ในช่วงประมาณ 19.00 น. จะมีการเปิดไฟสว่างไสวรอบตัวอาคาร ทําให้ได้ภาพบรรยากาศที่งดงามมากค่ะ บอกเลยว่าห้ามพลาด
2. โรงเรียนสอนศาสนา มิริ อาหรับ
Mir-i-Arab Madrasa : เป็นสถาบันทางการศึกษาอิสลามที่ได้รับการยกย่องมากที่สุดแห่งหนึ่งในเมืองบูคารา เรียกได้ว่าเป็นผลงานชิ้นเอกของสถาปัตยกรรมที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเปอร์เซีย โดยสร้างขึ้นในรัชสมัยของ Ubaydullah Khan ช่วงต้นศตวรรษที่ 16
ตัวอาคารประดับด้วยกระเบื้องสีน้ำเงินและหินเทอร์ควอยซ์สุดงดงาม เป็นหนึ่งในสถานที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวชมและถ่ายรูปกันอย่างล้นหลามเลยค่ะ
3. ซากพระราชวังอัคซาราย
Ak-Saray Palace : พระราชวังโบราณแห่งเมืองชาฮ์รือซัปส์ เป็นที่ประทับฤดูร้อนของติมูร์ Timur (Tamerlane) สร้างขึ้นในช่วงปลายศตวรรษที่ 14 ปัจจุบันเหลือเพียงประตูทางเข้าขนาดใหญ่ แต่ถึงอย่างนั้นก็แสดงให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ของพระราชวังในสมัยก่อน
โดยพระราชวังมีความสูงถึง 65 เมตร ประดับด้วยกระเบื้องโมเสกสีน้ำเงิน เรียกได้ว่าเป็นพระราชวังที่สวยที่สุดในยุคนั้นเลยค่ะ อีกทั้งยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยยูเนสโกอีกด้วย
4. ตลาดชอร์ซู
Chorsu Bazaar : ตลาดชื่อดังขนาดใหญ่ภายโดมสีน้ำเงิน ตั้งอยู่ใจกลางกรุงทาชเก้นต์ เป็นหนึ่งในตลาดเก่าแก่ที่รวมแผงขายสินค้ามากมาย ทั้ง ผัก ผลไม้สด เครื่องเทศ ไปจนถึงข้าวของเครื่องใช้ต่าง ๆ อย่างงานหัตถกรรม สิ่งทอ และเซรามิก
นอกจากตลาดภายในโดมที่คึกคักแล้ว ภายนอกตลาดก็ยังมีแผงขายสินค้าอีกมากมายเช่นกัน เรียกได้ว่าเดินยังไงก็เดินไม่หมด ได้ของติดไม้ติดมือกลับไปเพียบเลยค่ะ
5. พิพิธภัณฑ์ศิลปะนูกุส
Nukus Museum of Art : เป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะที่มีผลงานศิลปะมากมายกว่า 90,000 ชิ้น ซึ่งถูกก่อตั้งโดย Igor Savitsky จิตรกร และนักโบราณคดี ชาวยูเครน จุดเด่นของที่นี่ คือ คอลเลกชันศิลปะแนวอาว็องท์การ์ดของรัสเซียที่ใหญ่ที่สุดในโลก รองจากพิพิธภัณฑ์รัสเซีย รวมถึงผลงานอื่น ๆ อย่าง ศิลปะพื้นบ้านการากัลปัก และสิ่งประดิษฐ์จากอารยธรรมโบราณโคเรซึม (Khorezm)
นอกจากนี้พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ยังได้รับขนานนามว่า “พิพิธภัณฑ์ลูฟร์แห่งทะเลทราย” หากใครที่รักในงานงานศิลปะ และสนใจประวัติศาสตร์ ก็ควรลองมาเที่ยวดูสักครั้งนะคะค่ะ
6. ชาห์ อี ซินดาร์
Shah-i-Zinda : สุสานที่ตั้งอยู่ในเมืองซามาร์คานด์โบราณ เป็นหนึ่งในสถานที่สำคัญแห่งหนึ่งของอุซเบกิสถาน โดยชื่อของสุสานแห่งนี้มีความหมายว่า “กษัตริย์ที่ยังมีลมหายใจ” ซึ่งที่สุสานแห่งนี้มีสุสานมากกว่า 20 แห่ง ทอดยาวไปตามทางเดินที่มีอายุย้อนไปถึงศตวรรษที่ 9
โดยมีสุสานที่ได้รับความเคารพนับถือมากที่สุด คือ สุสานของ Qutham ibn Abbas ลูกพี่ลูกน้องของศาสดามูฮัมหมัด ซึ่งกล่าวกันว่าเป็นผู้เผยแพร่ศาสนาอิสลามที่สําคัญมากคนหนึ่ง ภายในสุสานประดับด้วยกระเบื้องเซรามิกลวดลายสวยงาม
7. สุสานหลวงอามีร์ ติมูร์
Gur-e-Amir Mausoleum : สุสานฝังศพของ อามีร์ ตีมูร์ Timur หนึ่งในผู้พิชิตที่ทรงอำนาจที่สุดในประวัติศาสตร์ ไม่เพียงแต่เป็นสถานที่ฝังศพของ Timur เท่านั้น แต่ยังเป็นที่ฝังศพของครอบครัว รวมถึงนักดาราศาสตร์ชื่อดังอย่าง Ulugh Beg ที่ปรึกษาเขาด้วย
โดยสุสานแห่งนี้สร้างขึ้นในช่วงต้นศตวรรษที่ 15 และมีชื่อเสียงในเรื่องสถาปัตยกรรมสุดงดงาม ภายนอกประดับด้วยกระเบื้องโมเสคสีน้ำเงินเทอร์ควอยซ์ ส่วนภายในมีสีทองอร่าม เรียกได้ว่าเห็นเเล้วจะต้องตะลึงเลยค่ะ
8. มัสยิดบีบี คานิม
Bibi-Khanym Mosque : มัสยิดที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นมัสยิดที่สวยที่สุดในโลกอิสลาม ตั้งอยู่ในเมืองซามาร์คานด์ และสร้างขึ้นช่วงปลายศตวรรษที่ 14 โดย Timur สั่งให้สร้างเพื่อรำลึกถึงชัยชนะในการรบกับอินเดีย ทั้งยังตั้งชื่อตามภรรยาของเขา Bibi-Khanym นั่นเอง
บอกได้เลยว่าสถาปัตยกรรมของมัสยิดแห่งนี้น่าทึ่งมาก ๆ ค่ะ ตั้งเเต่ประตูทางเข้าขนาดใหญ่ ที่แค่ยืนเทียบกันเเล้วเราหมือนมดไปเลย ภายในนำไปสู่ห้องสวดมนต์หลัก และถึงแม้ว่ามัสยิดแห่งนี้จะเคยได้รับความเสียหายจากแผ่นดินไหว แต่ก็ได้มีการบูรณะขึ้นมาใหม่ค่ะ
9. ป้อมดิอาร์ค
The Ark Fortress : ป้อมปราการขนาดใหญ่อายุกว่า 2,000 ปี ที่เคยเป็นที่อยู่อาศัยของกษัตริย์แห่งบูคารา โดยภายในป้อมปราการแห่งนี้เป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์หลายแห่งที่จัดแสดงประวัติศาสตร์ ซึ่งสามารถให้นักท่องเที่ยวเข้ามาชมประวัติอันยาวนานของเมืองแห่งนี้ได้
เมื่อขึ้นไปด้านบนจะสามารถเห็นวิวทิวทัศน์ของเมืองได้แบบชัดเจนมากค่ะ โดยตัวกําแพงมีความยาวอยู่ที่ 800 เมตร และสูงถึง 16-20 เมตร ถูกสร้างด้วยอิฐหนาขนาดใหญ่ ส่วนประตูมีซุ้มโค้งและหอคอยทั้งสองด้าน ซึ่งในอดีตเคยถูกใช้เป็นศูนย์กลางการปกครอง
10. หออะษานแกลอน
Kalon Tower หรือ The Kalyan Minaret : อีกหนึ่งแลนด์มาร์คแห่งเมืองบูคารา เป็นหอคอยสูงที่สร้างขึ้นโดย Mohammad Arslan Khan ในปี ค.ศ. 1127 มีความสูง 45.6 เมตร ซึ่งชื่อ “Kalyan” มีความหมายว่า “ยิ่งใหญ่” อีกทั้งในยามศึกสงคราม หอคอยนี้ยังถูกใช้เป็นหอคอยสังเกตการณ์อีกด้วย
ภายในหอคอยมีบันไดที่ขึ้นไปสู่ห้องโถงชั้นบนสุด นอกจากนี้ คนท้องถิ่นยังเรียกขานหอคอยนี้ว่า “หอคอยแห่งความตาย” เนื่องจากเคยมีการประหารชีวิตนักโทษโดยการโยนจากยอดหอคอยนี้
11. ทะเลสาบไอดาร์คุล
Aydarkul Lake : ทะเลสาบขนาดใหญ่ท่ามกลาง ทะเลทรายคีซิลคุม (Kyzylkum) เป็นทะเลสาบที่มีชื่อเสียงในเรื่องน้ำสีฟ้าใส ทิวทัศน์ทะเลทรายที่เงียบสงบ และมีพื้นที่มากถึง 4000 ตารางกิโลเมตร อีกทั้งยังได้รับฉายาว่า “ไข่มุกแห่งทะเลทรายคีซิลคุม” อีกด้วย
กิจกรรมเด่น ๆ ที่คนมักจะมาทํากันก็จะมีทั้ง การว่ายน้ำ ตกปลา ตั้งแคมป์ รวมถึงการขี่อูฐชมวิวทิวทัศน์ของทะเลทรายก็เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ที่ห้ามพลาดเลยค่ะ ซึ่งที่นี่เองก็ไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวมากนัก เหมาะกับใครที่อยากมาพักผ่อนแบบสงบ ๆ
12. ชอร์ มินอร์
Chor Minor : หนึ่งในสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร แห่งเมืองบูคารา ด้วยโครงสร้างที่มีขนาดเล็กแต่มีเสน่ห์ มาพร้อมกับหออะซานทั้ง 4 แห่งใกล้ ๆ กัน สร้างขึ้นโดยพ่อค้าผู้รํ่ารวยชื่อ Khalif Niyazkul ในช่วงต้นศตวรรษที่ 19
หออะซานทั้ง 4 แห่ง มีการออกแบบด้วยลวดลายที่ต่างกัน สะท้อนถึงอิทธิพลทางวัฒนธรรมที่หลากหลาย ทั้งเอเชียกลาง เปอร์เซีย อินเดีย และอุซเบก จึงเป็นหนึ่งสถานที่น่าไปเที่ยวชมและถ่ายรูปมากค่ะ
13. สุสานแห่งซามานิดส์
Samanid Mausoleum : สุสานโบราณแห่งศตวรรษที่ 9 ซึ่งสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 892 และสำเร็จในปี ค.ศ. 943 เป็นที่ฝังศพของ Ismail Samani ผู้ก่อตั้งราชวงศ์ซามานี ไม่เพียงแต่มีชื่อเสียงในทางประวัติศาสตร์แต่ยังมีการออกแบบที่ประณีตมาก ๆ อีกด้วยค่ะ
จุดเด่นของสุสานแห่งนี้ คือ เป็นสุสานที่สร้างด้วยอิฐเผาทั้งหมด อีกทั้งยังมีการเเกะสลักที่วิจิตรบรรจงสวยงาม โดยผสมผสานสถาปัตยกรรมแบบเปอร์เซียและอิสลามเข้าด้วยกัน จนได้รับการยกย่องว่าเป็นสถาปัตยกรรมที่สวยงามของเอเซียกลางเลยทีเดียว
14. มัสยิดโบโลเฮาส์
Lyab-i-Hauz : มัสยิดที่ตั้งอยู่ใกล้กับป้อมปราการ Ark Fortress เมืองบูคารา เป็นมัสยิดที่ใช้ประกอบพิธีกรรมทางศาสนาต่าง ๆ มีชื่อเสียงในด้านเสาไม้แกะสลักที่สวยงามบริเวณภายนอก ส่วนเพดานและผนังด้านในมีสีทองและสีขาว ประดับด้วยลวดลายดอกไม้ต่าง ๆ
โดยมัสยิดริมสระน้ำแห่งนี้เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีนักท่องเที่ยวแวะเข้ามาเยี่ยมชมเยอะมากค่ะ เรียกได้ว่าเป็นมรดกอันล้ำค่าของอุซเบกิสถานที่ไม่ควรพลาดเลยค่ะ
15. หอคอยคัลตา มิโนร์
Kalta Minor Minaret : หอคอยยักษ์ที่มีสีโดดเด่นสะดุดตา สัญลักษณ์แห่งเมือง Khiva โดยปูด้วยกระเบื้องสีฟ้าอมเขียว และน้ำเงินสดใส เรียงเป็นลวดลายเรขาคณิตที่ซับซ้อน และมีความสวยงามแตกต่างกัน สร้างขึ้นโดย โมฮัมหมัด อามิน ข่านผู้ปกครอง Khwarezm ในปี พ. ศ. 2395
เดิมทีตั้งใจให้เป็นหอคอยที่สูงที่สุดในโลกอิสลาม โดยแสดงถึงสัญลักษณ์อันยิ่งใหญ่ และทรงอำนาจของข่าน แต่การก่อสร้างถูกหยุดลงอย่างกะทันหันเมื่อข่านสิ้นพระชนม์ ทำให้หอคอยนี้กลายเป็นหอคอยที่สร้างไม่เสร็จ และมีความสูงเพียง 29 เมตร เท่านั้น
16. พิพิธภัณฑ์อามีร์ ตีมูร์
Amir Timur Museum : พิพิธภัณฑ์ที่ตั้งอยู่ในเมืองทาชเก้นต์ เป็นพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ที่จัดเเสดงเกี่ยวกับเรื่องราวชีวิตและมรดกของ Amir Timur หรือที่รู้จักกันในชื่อ Tamerlane หนึ่งในบุคคลสำคัญทางประวัติศาสตร์ที่ได้รับการยกย่องมากที่สุด
โดยพิพิธภัณฑ์แห่งนี้เปิดทำการในปี 1996 เพื่อรำลึกถึงวันครบรอบ 660 ปีวันเกิดของ Timur ภายในมีของอันล้ำค่ามากมาย ทั้งอาวุธ เหรียญ และเครื่องประดับจากยุค Timurid ไฮไลท์ คือ รูปปั้นขนาดใหญ่ของ Amir Timur บนหลังม้า กลางห้องโถง ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความเข้มแข็งและความเป็นผู้นำของเขานั่นเองค่ะ
17. เทือกเขาชิมกาน
Chimgan Mountains : ภูเขาที่อยู่ห่างจากเมืองทาชเก้นต์ไปประมาณ 85 กิโลเมตร เป็นหนึ่งในที่เที่ยวทางธรรมชาติที่งดงาม โดยช่วงที่มีนักท่องเที่ยวมากที่สุดจะเป็นช่วงฤดูหนาว เนื่องจากผู้คนจะเข้ามาเล่นสกี และสโนว์บอร์ด ส่วนในช่วงที่อากาศอบอุ่น ก็มักจะมาเดินป่า ปีนเขา และเล่นพาราไกลดิ้งกันค่ะ
นอกจกานี้บริเวณใกล้เคียงยังมี อ่างเก็บน้ำ Charvak Reservoir ถึงจะบอกว่าเป็นอ่างเก็บนํ้าแต่กว้างใหญ่ยังกับทะเลสาบเลยค่ะ มีน้ำใสและเหมาะสำหรับการ ขี่ม้า พายเรือ หรือปิกนิก โดยมีฉากหลังเป็นภูเขาสูงให้บรรยากาศชิว ๆ เงียบสงบ
18. หุบเขาเฟอร์กานา
Fergana Valley : หุบเขาที่คนท้องถื่นมักเรียกกันว่า “แหล่งผลิตขนมปังแห่งเอเชียกลาง” โดยเป็นที่ตั้งของเมือง และชุมชนหลายแห่ง มีพื้นที่ที่อุดมสมบูรณ์ และบรรยากาศที่เงียบสงบ หากใครอยากสัมผัสประสบการณ์เที่ยวตามวิถีชีวิตแบบคนในท้องถิ่นต้องที่นี่เลยค่ะ
อีกหนึ่งไฮไลท์ของหุบเขา คือ เมือง Margilan เมืองที่มีชื่อเสียงด้านการผลิตผ้าไหมมาหลายศตวรรษ โดยมีเวิร์กช็อปที่เปิดให้นักท่องเที่ยวได้มาเรียนรู้การถักทอผ้าไหมแบบดั้งเดิม และชมกระบวนการผลิตผ้ามัดหมี่ ikat fabrics ในตำนาน
ภาพบรรยากาศเที่ยว อุซเบกิสถาน
หากดูมาถึงตรงนี้เเล้วยังไม่จุใจ ทางเราเอาภาพบรรยากาศมาให้รับชมกันด้วยค่ะ
Khast Imam Mosque (Tashkent)
Gur-e-Amir Mausoleum (Samarkand)
Shah-i-Zinda (Samarkand)
Registan Square (Samarkand)
Jama Masjid (Old Delhi)
Aydarkul Lake (Kyzylkum Desert)
Bukhara Desert Oasis And Spa Hotel
Chimgan Mountains