ไปเที่ยวเกาหลี ยังไงให้ผ่าน ตม. หนึ่งในอุปสรรคที่ทำให้นักท่องเที่ยวอย่างเรา ไม่สามารถเดินทางไปเที่ยวเกาหลีได้ เพราะสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองของประเทศเกาหลีใต้ (ตม.) ที่คอยตรวจตราไม่ให้คนไทยเข้าประเทศได้ง่าย ๆ เนื่องจากมีหลายคนที่บินไปแล้วโดดทัวร์ไปทำงานที่เกาหลีแบบไม่ถูกต้อง

         ดังนั้น ตม. จึงตรวจเข้มโดยเฉพาะคนที่มาจากประเทศไทย และมีหลายคนที่ตั้งใจไปเที่ยวแต่ไม่สามารถเข้าประเทศเกาหลีใต้ได้ เพราะโดน ตม.คัดกรอง ดังนั้นเราจึงแชร์เทคนิคง่าย ๆ สำหรับคนที่อยากไปเที่ยวเกาหลี แต่ก่อนจะไปเที่ยวเกาหลี เราต้องมี Keta Korea ก่อนนะ แต่มันคืออะไรกันล่ะ เพราะฉะนั้นไปดูกันเลย!

K-ETA Korea คืออะไร?

         K-ETA หรือ Keta Korea (Korea Electronic Travel Authorization) คือระบบอนุมัติการเดินทางแบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการเข้าประเทศเกาหลีใต้ โดยไม่ต้องขอวีซ่าล่วงหน้า ผู้ที่มาจากประเทศที่เกาหลีใต้มีข้อตกลงยกเว้นวีซ่าจะต้องยื่น K-ETA ก่อนเดินทางมาเกาหลีใต้ การอนุมัติ K-ETA สามารถทำได้ผ่านทางเว็บไซต์อย่างเป็นทางการและมีความถูกต้องนานถึง 2 ปี หรือจนกว่าหนังสือเดินทางจะหมดอายุ ให้สิทธิ์ในการเข้าเมืองได้หลายครั้ง แต่ละครั้งไม่เกิน 90 วัน

อัปเดต! ประกาศด่วน เกาหลีผ่อนปรนมาตรการขอ K-ETA

เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2023 นี้ ทาง K-ETA ของเกาหลีใต้ได้ประกาศมาตรการผ่อนปรนมาตรการขอ K-ETA โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

1. ผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 17 ปี และอายุ 65 ปีขึ้นไป ไม่ต้องลงทะเบียน K-ETA แล้ว 
2. ขยายระยะเวลาการมีผลบังคับใช้ K-ETA จาก 2 > เป็น 3 ปี สำหรับผู้ที่ลงทะเบียนตั้งแต่วันที่ 3 กรกฎาคม 2023 เวลา 0:00 น. (เวลาเกาหลี) เป็นต้นไป 

โดยประกาศจะมีผลบังคับใช้วันที่ 3 กรกฎาคม 2566 นี้

8 วิธี ไปเที่ยวเกาหลี ทำยังไงให้ผ่าน ตม. แบบฉบับ Easy

1. ลงทะเบียน K-ETA ก่อนไปเที่ยวเกาหลี 3 วัน

เอกสารการกรอก K-ETA 

1. หนังสือเดินทาง หรือ พาสปอร์ต (Passport) ที่ก่อนหมดอายุ 6 เดือน
2. รูปถ่ายหน้าตรง ขนาด 3.5 ซม. X 4.5 ซม. (1.5 นิ้ว)
3. ที่พักในประเทศเกาหลีโดยละเอียด เพื่อให้การผ่าน ตม. ง่ายขึ้น
4. กำหนดการเดินทางในแต่ละวัน (ภาษาอังกฤษ)
5. ตราประทับ Re-entry Permit จาก ตม. ประเทศไทย
6. หนังสือรับรองการทำงานจากบริษัทของประเทศไทย

ขั้นตอนการสมัคร K-ETA

1. เข้าเว็บไซต์ K-ETA หรือดาวน์โหลด KETA Application และไปที่ “Apply For K-ETA” จากนั้นเลือกทวีปและประเทศ และยอมรับเงื่อนไขต่าง ๆ
2. กรอกอีเมล์ที่ติดต่อกันได้ และข้อมูลหนังสือเดินทาง
3. กรอกข้อมูลส่วนตัวและแผนการเดินทางอย่างละเอียด เช่น ชื่อ, ที่อยู่, อาชีพ, ที่พัก, วัตถุประสงค์การเดินทาง, วันเดินทางและวันกลับ เป็นต้น
4. ตรวจสอบข้อมูล
5. ชำระค่าลงทะเบียน ผ่านบัตรเดบิตหรือบัตรเครดิต 
6. ตรวจสอบผล K-ETA ผ่านอีเมล์ หากผ่านให้พิมพ์เอกสารไปที่ประเทศเกาหลีใต้ เพื่อให้ ตม. ตรวจก่อนเข้าประเทศ

ค่าลงทะเบียน K-eta กี่บาท

         ค่าลงทะเบียน K-ETA อยู่ที่ 10,000 วอน หรือราว ๆ 270-300 บาท (ขึ้นอยู่กับอัตราแลกเปลี่ยนในขณะนั้น) หลังจากได้รับการอนุมัติแล้ว K-ETA จะมีอายุการใช้งาน 2 ปี นับตั้งแต่ได้รับอนุมัติ หรือจนกว่าพาสปอร์ตของผู้สมัครจะหมดอายุ ทั้งนี้ K-ETA จะต้องได้รับการอนุมัติก่อนการเดินทาง ดังนั้นควรดำเนินการสมัครล่วงหน้าอย่างน้อย 24 ชั่วโมง ก่อนการเดินทางเพื่อตรวจสอบและอนุมัติข้อมูลให้เรียบร้อย

2. แต่งตัวแบบพอดีไม่เวอร์เกินไป

         การแต่งตัวไปประเทศเกาหลีสำหรับการเดินทางเข้า ตม. หลายคนคิดว่าการแต่งตัวแบบจัดเต็ม ใส่เสื้อผ้าแบนด์เนมราคาแพง แล้วทาง ตม. จะให้ผ่าน แต่ความจริงแล้วการเดินทางไปควรแต่งตัวแบบพอดี ไม่ต้องโชว์ของแบรนด์เนม เพราะจะเป็นที่สะดุดตาของ ตม. และมีโอกาสที่ทำให้ไม่สามารถผ่าน ตม. เข้าประเทศเกาหลีใต้ได้

3. เตรียมคำตอบเบื้องต้น

         สำหรับใครที่ภาษาอังกฤษไม่แข็งแรง สิ่งที่ควรเตรียมคือคำตอบเบื้องต้น โดยในการคุยกับ ตม. ส่วนใหญ่จะเป็นคำถามเกี่ยวกับทัวร์หรือทริปที่จะไป ดังนั้นควรตอบอย่างมั่นใจ ไม่ลังเล โดยตัวอย่างคำถามของ ตม. มีดังนี้

• มาเที่ยวเกาหลีกี่วัน
• มาเที่ยวกับใคร
• พักโรงแรมที่ไหน
• ไปกี่เมือง แต่ละเมืองไปยังไง
• แลกเงินมาเท่าไร 
• ทำงานอะไรที่เมืองไทย

4. เตรียมคำตอบสำหรับไปเที่ยวเกาหลีกับทัวร์

         ใครที่ไปเที่ยวเกาหลีกับทัวร์ การเตรียมคำตอบจะง่ายกว่าการไปเที่ยวเกาหลีด้วยตัวเอง เนื่องจากการไปเที่ยวกับทัวร์จะมีเอกสารรายละเอียดมากกว่า อาทิ ที่พักในแต่ละเมือง, แพลนการท่องเที่ยว, กำหนดวันเดินทางที่ชัดเจน เป็นต้น ดังนั้นถ้าจะไปเที่ยวเกาหลี แต่ไม่มั่นใจจะผ่าน ตม. เข้าเกาหลีใต้ได้หรือไม่ เราแนะนำไปกับทัวร์เกาหลีของ Travelzeed เลย!

5. ฝึกภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร

         อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าจะเตรียมคำตอบไว้เบื้องต้นแล้ว แต่อย่างไรก็ดี ก็ยังมีหลายครั้งที่เจ้าหน้า ตม. จะถามคำถามที่นอกเหนือจากคำตอบที่เตรียมไว้ ดังนั้นเราจึงต้องฝึกภาษาอังกฤษไว้สำหรับการถามตอบ โดยภาษาอังกฤษที่ฝึกอาจจะไม่ต้องพูดเป๊ะทุกคำ เน้นภาษาอังกฤษง่าย ๆ เพื่อให้การสื่อสารง่ายขึ้น

6. พูดจาเป็นธรรมชาติ ไม่ต้องรีบ ใจเย็น

         สำหรับใครที่ไปต่างประเทศครั้งแรก อาจจะทำให้ตื่นเต้น ดังนั้นควรใจเย็น ๆ โดยเวลาสื่อสารกับเจ้าหน้าที่ ตม. ไม่ต้องตื่นเต้นและไม่ต้องรีบในการพูด พูดจาเป็นธรรมชาติ ตั้งใจฟัง แล้วก็ค่อย ๆ ตอบคำถาม เพียงเท่านี้โอกาสจะผ่านเข้าประเทศเกาหลีใต้ก็ง่ายมากยิ่งขึ้น

7. เตรียมเอกสารให้พร้อม

สำหรับเอกสารที่ต้องใช้สำหรับการเดินทางเข้าเมือง มีดังนี้

1. หนังสือเดินทาง (Passport)
2. เอกสารตั๋วเครื่องบินไป-กลับ
3. เอกสารการจองที่พักและหลักฐานการชำระที่พัก
4. แผนที่การท่องเที่ยวภาษาอังกฤษ
5. เอกสารการรับรองการทำงานหรือการศึกษา
6. รายการบัญชีย้อนหลัง 

8. ศึกษาขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมือง

ขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง (Foreign Passenger) โดยเมื่อถึงคิวของเราจะมีดังนี้

1. ยื่นใบ ตม. หรือ Arrival Card ซึ่งกรอกข้อมูลให้เรียบร้อย และยื่นหนังสือเดินทางให้กับเจ้าหน้าที่ สำหรับเทคนิค คือ อย่าหลบสายตาหรือหลบหน้า ให้ยิ้มเข้าไว้
2. เจ้าหน้าที่ ตม. ตรวจสอบข้อมูล โดยสอบถามเบื้องต้นเกี่ยวกับทัวร์เกาหลีใต้ในครั้งนี้ ซึ่งควรใจเย็น อย่าตระหนกตกใจ ค่อย ๆ ตอบเวลาเจ้าหน้าที่ถาม
3. หลังจากสอบถามแล้ว เจ้าหน้าที่ ตม. จะประทับเพื่อสแกนลายนิ้วมือที่เครื่องและถ่ายภาพ โดยให้เอาหมวกหรือแว่นออก ทั้งนี้สามารถยิ้มได้เล็กน้อย แต่ห้ามให้เห็นฟัน 
4. เมื่อเสร็จสิ้น เจ้าหน้าที่ ตม. จะติดสติกเกอร์เข้าประเทศในพาสปอร์ตของเรา เท่านี้เป็นอันเสร็จสิ้น