ฮอกไกโด (Hokkaido) ประเทศญี่ปุ่น คือ 1 ใน 4 เกาะหลักของญี่ปุ่น ที่ขึ้นชื่อในเรื่องของอาหารทะเลที่สด อร่อย อีกทั้งยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกมากมาย
ในวันนี้ travelzeed จะพาไปชม 20 สถานที่ท่องเที่ยวในฮอกไกโดที่น่าสนใจกันค่ะ สําหรับใครที่มีแพลนไป ทัวร์ญี่ปุ่น เดินทางไปฮอกไกโด ประจำปี 2567 จะมีที่ไหนกันบ้าง ไปดูกันเลย
- 1. ภูเขาฮาโกดาเตะ (Mount Hakodate)
- 2. ลานสกีฟูราโน่ (Furano Ski Area)
- 3. สระอะโออิเคะ (Aoiike Blue Pond)
- 4. ป้อมโงเรียวกาคุ (Fort Goryokaku)
- 5. คลองโอตารุ (Otaru Canal)
- 6. พิพิธภัณฑ์กล่องดนตรี (Otaru Music Box Museum)
- 7. โรงเป่าแก้วคิตะอิจิ (Kitaichi Glass)
- 8. อามะโตะ โอตารุ (Amato Otaru)
- 9. หมู่บ้านออนเซ็นนิเซะโกะ (Niseko Onsen Village)
- 10. ทะเลโอค็อตสค์ (Okhotsk)
- 11. พิพิธภัณฑ์น้ำแข็งขั้วโลก (Okhotsk Ryuhyo Museum)
- 12. พิพิธภัณฑ์เรือนจำอาบาชิริ (Abashiri Prison Museum)
- 13. สวนสัตว์อาซาฮิยามะ (Asahiyama Zoo)
- 14. พิพิธภัณฑ์โอโตโกยามะ (Otokoyama Sake Brewery Museum)
- 15. หมู่บ้านราเมนอะซาฮิคาว่า (Asahikawa Ramen Village)
- 16. ถนนช็อปเฮวะ (Heiwa Dori Shopping Street)
- 17. เขาอาซาฮิดาเกะ (Asahidake)
- 18. อุเอโนะฟาร์ม (Ueno Farm)
- 19. สวนโอโดริ (Odori Park)
- 20. พิพิธภัณฑ์เบียร์ซัปโปโร (Sapporo Beer Museum)
- บทส่งท้าย
1. ภูเขาฮาโกดาเตะ (Mount Hakodate)
ภูเขาฮาโกดาเตะ (Hakodateyama) เป็นภูเขาที่ปกคลุมไปด้วยป่าไม้ ซึ่งตั้งอยู่ตอนปลายของคาบสมุทรฮอกไกโด ใจกลางเมือง ฮาโกดาเตะ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีจุดชมวิวทางธรรมชาติที่สวยงาม และยังได้รับการยกย่องเป็น 1 ใน 3 ของจุดชมวิวที่สวยที่สุดในญี่ปุ่นอีกด้วย
ผู้ใดที่สนใจอยากไปชมความงามของวิวบนภูเขาแห่งนี้ สามารถเดินทางไปได้หลายเส้นทาง ทั้งกระเช้าลอยฟ้า รถบัส หรือรถยนต์ โดยเเนะนํากระเช้าลอยฟ้านะคะ เพื่อที่จะได้เพลิดเพลินไปกับวิวของเมือง ภูเขาและป่าไม้ นอกจากนี้ยังมี ร้านขายของที่ระลึก ร้านกาแฟ และร้านอาหารไว้บริการอีกด้วย
พิกัด: https://goo.gl/maps/TxjeMryMhc7d2cah8
2. ลานสกีฟูราโน่ (Furano Ski Area)
ลานสกีฟูราโน่ (Furano Ski Area) เป็นลานสกีที่มีชื่อเสียงมากเป็นอันดับต้น ๆ ของเมืองฮอกไกโด โดยที่นี่เคยเป็นสถานที่ในการจัดแข่งขันสกีระดับโลกอย่าง FIS Ski World Cup มาแล้วถึง 12 ครั้ง
นอกจากลานสกีแล้ว ที่นี่ยังมีกิจกรรมอื่น ๆ อีกมากมายให้ได้ลอง ทั้งลานสโนว์บอร์ด, ล่องแพหิมะ, พาราเซล, และสุนัขลากเลื่อน เป็นต้น อีกทั้งยังมีโรงแรมขนาดใหญ่ สําหรับผู้ที่ต้องการพักค้างคืน อีกทั้งยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ เช่น ออนเซ็น รวมถึงที่ช้อปปิ้งที่ Ningle Terrace (นิงเกิ้ล เทอเรส)
พิกัด: https://goo.gl/maps/BcwNeSHxx1A61eHVA
3. สระอะโออิเคะ (Aoiike Blue Pond)
สระอะโออิเคะ (Aoiike) หรือ สระน้ำสีฟ้า (Blue Pond) เป็นแหล่งท่องเที่ยวลับ ๆ สําหรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบความสงบ ไม่ชอบคนพลุกพล่าน เนื่องจากนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะเป็นคนท้องถิ่นมากกว่านักท่องเที่ยวต่างชาติ
เหตุผลที่สระน้ำแห่งนี้มีสีฟ้าสดใส เนื่องจากแร่ธาตุตามธรรมชาติที่เจือปนอยู่ ทำให้เกิดการสะท้อนจนแห็นเป็นแสงสีฟ้า อีกทั้งสถานที่แห่งนี้เปิดให้เข้าไปชมความงามของบ่อนํ้าและธรรมชาติได้ทุกวันเลยค่ะ
พิกัด: https://goo.gl/maps/AKUEtjyrAfeYH4pa9
4. ป้อมโงเรียวกาคุ (Fort Goryokaku)
ป้อมโงเรียวกาคุ (Fort Goryokaku) หรือป้อมดาวห้าแฉก เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมแห่งเมือง ฮอกไกโด ถูกสร้างขึ้นในสมัยเอโดะ เพื่อป้องกันการรุกรานจากฝั่งตะวันตก แต่ในปัจจุบันเปลี่ยนเป็นสวนสาธารณะ และกลายเป็นจุดชมดอกซากุระที่สวยงามแห่งหนึ่งของฮอกไกโดจนถึงปัจจุบัน
นอกจากดอกซากุระแล้ว ยังอีกหนึ่งจุดที่น่าสนใจ คือ หอคอยโงเรียวกาคุ เป็นจุดฮอตฮิตสำหรับนักท่องเที่ยว โดยเปิดให้นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไปชม และเห็นป้อมดาวห้าแฉกได้แบบ 360 องศากันเลยทีเดียว
พิกัด: https://goo.gl/maps/VhJhyfzPufLdfGtd7
5. คลองโอตารุ (Otaru Canal)
คลองโอตารุ (Otaru Canal) สร้างเมื่อปี ค.ศ. 1923 โดยคลองโอตารุถือเป็นคลองที่ใช้ลำเลียงสินค้าหลักของเมืองโอตารุ โดยปัจจุบันโกดังเหล่านี้ได้เปลี่ยนมาเป็น ร้านอาหาร พลาซ่า และพิพิธภัณฑ์ ไปในที่สุด
นอกจากนี้ ช่วงกลางคืนจะมีการจุดตะเกียงประดับไฟ สร้างบรรยากาศโรแมนติก และพลาดไม่ได้ในช่วงฤดูหนาว มีการจัดเทศกาลโอตารุ สโนว์สตอรี่ (Otaru Snow Story) โดยการประดับไฟสร้างบรรยากาศสว่างไสวราวกับอยู่ในความฝัน
พิกัด: https://goo.gl/maps/3m2bhVvob9DdTQtd6
6. พิพิธภัณฑ์กล่องดนตรี (Otaru Music Box Museum)
พิพิธภัณฑ์กล่องดนตรี (Otaru Music Box Museum) ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1912 ตั้งอยู่บริเวณอาคารโบราณประจำเมืองโอตารุ เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีกล่องดนตรีมากมาย หลายแบบ มากกว่า 3,000 ชิ้น เป็นสถานที่อันดับต้นๆ ในสิ่งที่ห้ามพลาดหากได้มาเยือนเมืองนี้
โดยนักท่องเที่ยวสามารถทดลองเล่นเพื่อฟังเสียงได้ อีกทั้งยังมีโซนร้านค้าให้ซื้อกลับบ้านได้อีกด้วย ไฮไลท์ของที่นี่คือเราสามารถทำกล่องเพลงของตัวเองได้ เรียกว่ากล่องเพลงที่มีเพียงชิ้นเดียวบนโลกก็ไม่เกินจริง
พิกัด: https://goo.gl/maps/2J7oUv1NhhroFwfA8
7. โรงเป่าแก้วคิตะอิจิ (Kitaichi Glass)
โรงเป่าแก้วคิตะอิจิ (Kitaichi Glass) เป็นโรงงานเป่าแก้วแฮนด์เมดที่มีประวัติเก่าแก่ ซึ่งได้รับการยอมรับมาอย่างยาวนานมากกว่า 100 ปี โดยแก้วที่ผลิตจากโรงงานแห่งนี้ ถือเป็นหนึ่งในของขึ้นชื่อแห่งเมืองโอตารุ
โดยสําหรับใครที่ชื่นชอบในเรื่องของศิลปะของการทําเครื่องแก้ว ที่นี่มีการเปิด Workshop ให้นักท่องเที่ยวสามารถลองทำเครื่องแก้วของตัวเองได้ โดยมีผู้เชี่ยวชาญที่คอยให้คําเเนะนํา และให้ความช่วยเหลือ หลังจากที่ทําเสร็จแล้วก็สามารถนําเครื่องแก้วกลับบ้านไปเลย
พิกัด: https://goo.gl/maps/hZx4L99CTSrpF4bK6
8. อามะโตะ โอตารุ (Amato Otaru)
อามะโตะ โอตารุ (Amato Otaru) ร้านขนมชื่อดังของเมือง ฮอกไกโด ร้านขนมระดับตำนานที่เปิดตั้งแต่ปี 1929 โดยมีขนมขึ้นชื่อคือ Marron Coron และร้านนี้ยังมีเค้กสตอเบอรี่ กับไอศกรีมที่อร่อยอย่าบอกใครเลยค่ะ
โดยเปิดทําการทุกวันตั้งแต่ 10.00-18.30 ยกเว้นวัน พุธ และวันพฤหัส เหมาะสำหรับชื้อกลับบ้านไปเป็นของฝาก รับรองว่าคนที่ได้รับจะต้องถูกใจและคงได้มีฝากซื้ออีกรอบหน้าแน่นอนเลยค่ะ
พิกัด: https://goo.gl/maps/suVpFViDLSQeLyk97
9. หมู่บ้านออนเซ็นนิเซะโกะ (Niseko Onsen Village)
หมู่บ้านออนเซ็นนิเซะโกะ (Niseko Onsen Village) เป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกใฝ่ฝันอยากจะมาสักครั้งในชีวิต ด้วยเนินหิมะเล่นสกีและออนเซ็นที่เป็นจุดเด่นของที่นี่ โดยมีบ่อนํ้าพุร้อนหลายแบบมากมาย จากนํ้าแร่ที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุธรรมชาติหลายชนิด
โดยนักท่องเที่ยวที่มาที่ หมู่บ้านออนเซ็นนิเซะโกะ จะได้รับประสบการณ์ที่สุดแสนจะวิเศษ แต่สิ่งที่คุณอาจไม่รู้ก็คือ ออนเซ็นแต่ละแห่งนั้นไม่เหมือนกัน และน้ำในแต่ละแห่งก็มีแร่ธาตุที่ต่างกัน ขึ้นอยู่กับตำแหน่งและเส้นทางน้ำ โดยเชื่อว่าสามารถรักษาอาการป่วยได้ด้วย
พิกัด: https://goo.gl/maps/MnycjBoW5Nhb5JZ57
10. ทะเลโอค็อตสค์ (Okhotsk)
ทะเลโอค็อตสค์ (Okhotsk) เป็นทะเลที่ขนาดใหญ่ตั้งอยู่มหาสมุทรแปซิฟิกตะวันตก โดยในฤดูหนาวเป็นที่นิยมสําหรับนักท่องเที่ยว ที่จะมาล่องเรือฝ่าธารน้ำแข็ง ถ้าโชคดีจะมีแมวน้ำขึ้นมานอนอาบแดด และจะมีโอกาสได้เห็นนกอินทรีทะเลสเตลเลอร์ ที่ใกล้สูญพันธุ์อีกด้วย
โดยเรือตัดน้ำแข็งออโรร่าในเมือง อาบาชิริ เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมบนเรือ สําหรับการมาเที่ยวชมทะเลโอค็อสต์ นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมอื่นๆ เช่น การดำน้ำบนน้ำแข็งลอยและการเดินบนน้ำแข็งลอยพร้อมชุดดำน้ำอีกด้วย
พิกัด: https://goo.gl/maps/nFyy5gupmHvcPT8W8
11. พิพิธภัณฑ์น้ำแข็งขั้วโลก (Okhotsk Ryuhyo Museum)
พิพิธภัณฑ์น้ำแข็งขั้วโลก (Okhotsk Ryuhyo Museum) เป็นพิพิธภัณฑ์ธีมในธารน้ำแข็ง โดยจัดแสดงเกี่ยวกับ ทะเลโอค็อตสค์ (Okhotsk) เช่น สิ่งมีชีวิตที่อยู่ใต้ทะเล อย่างสัตว์ตระกูลหอย คลีโอเน่ ผีเสื้อทะเล และปลาหลากหลายชนิด
นอกจากนี้ยังมีการจัดแสดงความหนาวเย็นระดับลบ 15 องศา ด้วยก้อนน้ำแข็งขนาดยักษ์ ทดลองการแข็งตัวของนํ้า และสัมผัสน้ำแข็งลอยในพิพิธภัณฑ์ เหมาะสําหรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบสัตว์ทะเลแปลก ๆ และอยาเรียนรู้เกี่ยวระบบนิเวศทางทะเล
พิกัด: https://goo.gl/maps/ZjGYjFQb63jjYexX7
12. พิพิธภัณฑ์เรือนจำอาบาชิริ (Abashiri Prison Museum)
พิพิธภัณฑ์เรือนจำอาบาชิริ (Abashiri Prison Museum) พิพิธภัณฑ์เรือนจำแห่งเดียวในญี่ปุ่นที่น่ากลัวที่สุด เป็นสถานที่เรียนรู้ทางประวัติศาสตร์ พร้อมทั้งจำลองการใช้ชีวิตในเรือนจำ ทั้งยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมที่จับต้องได้ของประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย
พิพิธภัณฑ์เรือนจำอาบาชิริ มีการจัดเเสดงถ่ายทอดเรื่องราวความโหดร้ายต่าง ๆ ภายในเรือนจํามากมาย รวมถึงภาพการเกณฑ์ผู้ต้องขังมาสร้างถนน สะท้อนให้เห็นถึงความโหดร้ายในสมัยนั้น เหมาะสําหรับใครที่กำลังหาที่เที่ยวแปลกใหม่
พิกัด: https://goo.gl/maps/Gt5h3X7JzNSYSd7d7
13. สวนสัตว์อาซาฮิยามะ (Asahiyama Zoo)
สวนสัตว์อาซาฮิยามะ (Asahiyama Zoo) เป็นสวนสัตว์ชื่อดังที่ติดอันดับต้น ๆ ของประเทศญี่ปุ่น โดยตั้งอยู่ในเมือง อะซาฮิกาว่า (Asahikawa) จังหวัดฮอกไกโด (Hokkaido) โดยเป็นสวนสัตว์ที่มีสัตว์มากกว่า 700 ชนิดเลยทีเดียว
จุดเด่นของสวนสัตว์แห่งนี้คือการออกแบบ “กรงสัตว์” ให้มีความแตกต่างจากสวนสัตว์ที่อื่น ๆ โดยที่จะมีการตกแต่งเลียนแบบให้ใกล้เคียงกับธรรมชาติมากที่สุด เพื่อลดความเครียดของสัตว์ เรียกได้ว่าเป็นสวนสัตว์ที่ได้รับความนิยมอันดับต้น ๆ ของเมือง เลยก็ว่าได้
พิกัด: https://goo.gl/maps/kXchR5PRrqCCDS6A8
14. พิพิธภัณฑ์โอโตโกยามะ (Otokoyama Sake Brewery Museum)
พิพิธภัณฑ์โอโตโกยามะ (Otokoyama Sake Brewery Museum) เป็นพิพิธภัณฑ์เหล้าสาเกที่มีชื่อเสียงที่สุดของ อาซาฮิกาวะ โดยพิพิธภัณฑ์แห่งนี้จะพาทุกคนไปชมกับกระบวนการในการผลิต รวมถึงบอกเล่าเรื่องราวของเหล้าต่าง ๆ ตั้งแต่วิธีการทำ ไปจนถึงวัฒนธรรมการดื่ม
อีกทั้งยังมีสินค้าหายาก และทรงคุณค่าต่าง ๆ มากมาย เช่น สินค้าตามฤดูกาล และสินค้าเฉพาะพิพิธภัณฑ์ ที่มีเพียงที่นี่ที่เดียวเท่านั้น ไฮไลท์ของที่นี่คือ ผู้เยี่ยมชมยังสามารถชิม “น้ำแห่งความอายุยืนยาว” ที่ใช้ในการผลิตโอโตโกยามะได้ฟรีอีกด้วย
พิกัด: https://goo.gl/maps/NajJAiAfthfz4hBz6
15. หมู่บ้านราเมนอะซาฮิคาว่า (Asahikawa Ramen Village)
หมู่บ้านราเมนอะซาฮิคาว่า (Asahikawa Ramen Village) เป็นหมู่บ้านที่รวบรวมร้านราเมนท้องถิ่น 8 ร้าน มาไว้ในที่เดียวกัน โดยราเมนของเมืองอะซาฮิคาว่า ถือเป็นราเมนที่ขึ้นชื่อของฮอกไกโด เนื่องจากมีน้ำซุปที่มีความเข้มข้น และมีรสชาติไม่เหมือนใคร
สำหรับการเดินทางมาหมู่บ้านราเมนอาซาฮิคาว่าสามารถนั่งรถ City Tour Fun Fun Bus จากสถานี JR Asahikawa มาลงตรงหมู่บ้านแห่งนี้ได้เลยค่ะ โดยที่นี่จะเปิดให้บริการทุกวันตั้งเเต่ 11.00-20.00 นอกจากอาหารแล้วที่นี้ยังมีการจัดแสดงประวัติความเป็นมาของหมู่บ้านอีกด้วยนะ
พิกัด: https://goo.gl/maps/s7thcyX5NfJpXYqz6
16. ถนนช็อปเฮวะ (Heiwa Dori Shopping Street)
ถนนช็อปปิ้งเฮวะ (Heiwa dori Shopping Street) ตั้งอยู่ที่ เมืองอะซาฮิกาว่า (Asahikawa) ของฮอกไกโด (Hokkaido) เป็นถนนคนเดินแห่งแรกของเมืองฮอกไกโด ที่นี่มีสินค้ามากมายให้เลือกซื้อ ตั้งแต่ สินค้าพื้นบ้าน งานแฮนด์เมด ไปจนถึงเสื้อผ้า เหมาะสำหรับการเดินเล่น หาของกินอร่อย ๆ อย่างมากเลยค่ะ
และเเน่นอนว่าก็ไม่ได้มีแค่ร้านข้างทางนะคะ ที่นี่ยังมี ห้างสรรพสินค้า ร้านแบรนด์เนม บอกเลยว่าครบจบในที่เดียว แถมถ้าเป็นคนที่ชอบท่องราตรีแล้วหละก็ แนะนําต้องมาย่ายนี้เลยค่ะ Sanroku เป็นย่านสําหรับนักท่องเที่ยวสายกลางคืน คลับ บาร์ และร้านอาหารมีครบ
พิกัด: https://goo.gl/maps/i7ttu1jouMgS4UM97
17. เขาอาซาฮิดาเกะ (Asahidake)
เขาอาซาฮิดาเกะ (Asahidake) เป็นภูเขาที่ตั้งอยู่ใกล้เมือง ฮิงาชิกาวะ จังหวัดฮอกไกโด และถูกขนานนามว่าภูเขาที่สวยติดอันดับ 1 ใน 100 ของญี่ปุ่นเลยทีเดียว โดยขึ้นชื่อเรื่องมีภูเขาที่สูงที่สุดบนเกาะฮอกไกโด อีกทั้งยังมีหมอกควันจากปล่องภูเขาไฟ เป็นวิวทิวทัศน์ที่สวยงามอย่างมากเลยค่ะ
โดยช่วงที่น่าเที่ยวคือ ช่วงเดือนมิถุนายน-เดือนตุลาคม ใบไม้จะเปลี่ยนสีเป็นสีแดง นอกจากนี้ใครที่ไป เขาอาซาฮิดาเกะ ในเดือนธันวาคมช่วงฤดูหนาว ที่นี่ยังมีลานสกีให้เล่นอีกด้วย เรียกได้ว่าได้ทั้งเดินป่า ชมภูเขา และเล่นสกี คุ้มอย่าบอกใครเลย
พิกัด: https://goo.gl/maps/HanLskrP2bJJc1Jr7
18. อุเอโนะฟาร์ม (Ueno Farm)
อุเอโนะฟาร์ม (Ueno Farm) เป็นสวนดอกไม้สวนสไตล์อังกฤษที่ปรับให้เข้ากับสภาพภูมิอากาศของฮอกไกโด (Hokkaido) โดยที่สวนอุเอโนะฟาร์ม มีดอกไม้หลากหลายสายพันธุ์ อย่าง ดอกลาเวนเดอร์ อีกทั้งยังมีการนำสินค้าจากเกษตรกรมาวางขายให้นักท่องเที่ยวได้เลือกช็อปอีกด้วย
ฟาร์มอุเอโนะตั้งอยู่ที่ เมืองอะซะฮิคะวะ (Asahikawa City) โดยการเดินทางจากสถานีรถไฟซัปโปโร (Sapporo Station) ขึ้นรถไฟ JR ด่วนพิเศษ ไปลงที่สถานี Asahikawa Station จากนั้นขึ้นรถไฟ JR Sekihoku Main Line ไปลงที่สถานี Sakuraoka Station แล้วเดินต่อประมาณ 15 นาทีก็ถึงแล้วค่ะ
พิกัด: https://goo.gl/maps/joDQGHWQJgAALQMG8
19. สวนโอโดริ (Odori Park)
สวนโอโดริ (Odori Park) เป็นพื้นที่สีเขียว หรือสวนสาธารณะขนาดใหญ่ใจกลางเมืองซัปโปโร ฮอกไกโด ที่มีดอกไม้นานาชนิด มากกว่า 4,700 ต้น อีกทั้งยังมีมีแผงร้านเล็กๆ ขายอาหารท้องถิ่นต่าง ๆ และยังมีเทศกาลประจำปีค่อนข้างเยอะอีกด้วย
นอกจากนี้ ทางด้านทิศตะวันออกของสวนโอโดริ ยังเป็นที่ตั้งของ ทีวีทาวเวอร์ซัปโปโร (Sapporo TV Tower) จุดชมวิวที่สามารถมองเห็นวิวของสวนสาธารณะได้แบบ 360 องศาเลยทีเดียว ยิ่งตอนกลางคืนจะเปิดไฟ เพิ่มความสวยงามไปอีก 100 %
พิกัด: https://goo.gl/maps/nH1U7h7gtSUmSPsw5
20. พิพิธภัณฑ์เบียร์ซัปโปโร (Sapporo Beer Museum)
พิพิธภัณฑ์เบียร์ซัปโปโร (Sapporo Beer Museum) เป็นพิพิธภัณฑ์เบียร์ที่มีประวัติมาอย่างยาวนาน เปิดเป็นทางการตั้งแต่ปี ค.ศ. 1987 โดยในอดีตที่นี่เคยเป็นโรงกลั่นในช่วงยุคเมจิมาก่อน สายคอเบียร์ต้องห้ามพลาด
สำหรับใครหิว ที่นี่ก็มีร้านอาหารรองรับ 2 ร้าน คือ ร้าน Garden Grill และ Genghis Kan Hall นั่นเองค่ะ โดยมีเมนูแนะนำคือ บาร์บีคิวเนื้อแกะ โดยที่นี่จะเปิดตั้งเเต่ 11:30-18:00 (เข้าชมรอบสุดท้าย 17.30) และปิดทุกวันจันทร์นั่นเองค่ะ
พิกัด: https://goo.gl/maps/2q3iZuf3M13p61Eo8
สรุป
ญี่ปุ่น ฮอกไกโด ยังมีสถานที่เที่ยวอีกมากมายหลากหลายจุดให้ทุกคนได้ไปเปิดประสบการณ์ ทั้งพิพิธภัณฑ์ที่มีมากกว่า 5 ที่ ถนนให้ช็อปปิ้ง ลานสกีระดับโลก หรือกระทั่งล่องเรือฝ่าหิมะบนทะเลโอค็อตสต์ เรียกได้ว่าคุ้มค่าแน่นอน