เที่ยวยุโรป ประเทศไหนดี เป็นคำถามในใจสำหรับสายท่องเที่ยวหลายต่อหลายคน ที่แห่งนี้เป็นดินแดนที่เหล่านักเดินทางต่างใฝ่ฝันจะไปเยี่ยมเยือนสักครั้งในชีวิต ซึ่งเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และธรรมชาติที่ยังคงความสมบูรณ์เอาไว้ รวมไปถึงฤดูกาลที่มีความสวยงามแตกต่างกัน มันจึงดึงดูดนักเดินทางจากทั่วทุกสารทิศให้ไปยังยุโรปได้อย่างมากล้น
หลายคนอาจจะล้มเลิกความฝันนี้ไปทันที เมื่อเจอกับค่าใช้จ่ายที่แสนแพง แต่รู้หรือไม่หลายประเทศในยุโรปเอง มีเงินหลักหมื่นก็สามารถที่จะไปเที่ยวได้แล้วเช่นกัน
16 ประเทศตอบโจทย์ เที่ยวยุโรป ประเทศไหนดี
1.รัสเซีย
ที่นี่คือประเทศที่มีพื้นที่กว้างขวางอันดับต้นๆของโลก และด้วยขนาดประเทศที่มีขนาดใหญ่นี้เอง จึงทำให้รัสเซียนั้นมีสภาพอากาศในแต่ละพื้นที่ที่แตกต่างกัน ทำให้ที่นี่มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าตื่นตาตื่นใจเป็นจำนวนมาก และที่สำคัญที่สุดคือ ประเทศนี้ให้วีซ่าฟรีสำหรับคนไทยที่มาทัวร์รัสเซียอีกด้วยนะ ซึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจในรัสเซียนั้น มีทั้ง
- พระราชวังเครมลิน พระราชวังที่มีลักษณะเป็นป้อมปราการที่มีกำแพงสีแดงสด ที่แสดงความยิ่งใหญ่ของการปกครองในยุคสมัยพระเจ้าซาร์
- พระราชวังแคทเธอรีน พระราชวังอันแสนสวยงามที่มีห้องๆหนึ่งถูกสร้างขึ้นมาจากทองคำทั้งห้อง
- มหาวิหารเซนต์เดอะซาเวียร์ มหาวิหารที่ใหญ่ที่สุดในรัสเซีย และมีขนาดที่สูงที่สุดในโลก
- มหาวิหารเซนต์บาซิล มหาวิหารสุดแปลกตา ที่มีเบื้องหลังสุดน่ารันทดของวิศวกรผู้ออกแบบ
- ทะเลสาบไบคาล ทะเลสาบน้ำแข็งเก่าแก่ที่ขึ้นชื่อว่าลึกที่สุดในโลก สถานที่แสนสวยในแดนเยือกแข็ง
2.อิตาลี
ประเทศแห่งศูนย์กลางศิลปะวัฒนธรรมแห่งแดนตะวันตก อีกหนึ่งจุดหมายปลายทางยอดนิยมของคนไทยที่ไปเที่ยวในต่างแดน ที่สุดแห่งความคลาสสิคสไตล์ยุโรป ไม่ว่าจะเป็นทั้งสถาปัตยกรรม ประติมากรรม ศิลปะ และประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ ซึ่งชวนให้ผู้ได้ไปยังดินแดนแห่งนี้ได้หลงใหลกับมนต์สะกดของความขลังดังกล่าวได้โดยง่าย ส่วนสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจของประเทศนี้นั้น มีตั้งแต่
- หอเอนเมืองปิซ่า ที่มีชื่อเสียงโด่งดังจากความเอนของตัวหอที่ท้าทายแรงโน้มถ่วงของโลก
- สนามกีฬาโคลอสเซียม หนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่ที่เป็นต้นแบบให้กับสนามกีฬาต่างๆในยุคปัจจุบัน
- คลองแกรนด์ คาเนล คลองเส้นหลักซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการล่องเรือชมเวนิส
- มหาวิหารแพนธิออน ที่ซึ่งในอดีตถูกใช้เป็นเทวสถานสำหรับบูชาเทพทุกองค์บนโอลิมปัส
3.ออสเตรีย
จุดเชื่อมต่อระหว่างยุโรปตะวันตกและยุโรปตะวันออก เป็นประเทศซึ่งมีลักษณะเด่นตรงที่มีการผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมเก่าแก่และธรรมชาติได้อย่างลงตัว ด้วยความงามของทะเลสาบและภูเขาที่มีอยู่โดยรอบ รวมไปถึงวัตนธรรมและสถาปัตยกรรมอันเก่าแก่ ทำให้ผู้ที่มาทัวร์ออสเตรียนั้นหลงรักประเทศนี้ได้ไม่ยากจากบรรยากาศที่ผสมรวมกันในประเทศแห่งนี้ ซึ่งสถานที่ที่น่าแวะไปสักครั้งหากมาเยือนที่ออสเตรียแล้วล่ะก็ นั่นคือ
- พระราชวังเชินบรุนน์ อดีตที่ประทับของจักรพรรดิแห่งราชวงศ์ฮับส์บูร์ก
- หมู่บ้านฮัลล์สตัทท์ หมู่บ้านริมทะเลสาบสไตล์โบราณที่เสมือนกับว่าเวลาได้ถูกหยุดหมุนเอาไว้กว่า 4,500 ปี
- เมืองซัลทซ์บวร์ค เมืองบ้านเกิดของวูล์ฟกัง อมาเดอุส โมสาร์ต คีตกวีชื่อดังของโลก
- เมืองอินส์บรุ เมืองที่ได้รับฉายา ”Capital of the Alps” สวรรค์ของนักท่องเที่ยวในออสเตรีย
- เมืองเซลล์อัมซี เมืองตากอากาศยอดนิยมในออสเตรียที่ตั้งอยู่ภายในเทือกเขาแอลป์
4.กรีซ
ดินแดนแห่งนักปราชญ์ และอารยธรรมกรีกโบราณอันน่าหลงใหลที่มีอิทธิพลแผ่กระจายออกไปทั่วโลก ประเทศซึ่งเต็มไปด้วยภูเขา และเกาะต่างๆจำนวนมาก ถึงแม้จะฟังดูเก่า แต่ที่นี่กลับเต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวตามธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ และสถานบันเทิงที่คุมโทนได้อย่างลงตัวอยู่ครบครัน สำหรับสายท่องเที่ยวทั้งหลายแล้ว ควรจะลองไปดูสักครั้งให้ได้อยู่เหมือนกันนะ
โดยสำหรับคนที่มาทัวร์กรีซแล้ว พลาดไม่ได้เลยที่จะต้องลองไปยังที่เหล่านี้ดู
- กรุงเอเธนส์ เมืองแห่งจุดเริ่มต้นของอารยธรรมตะวันตก และต้นกำเนิดแห่งประชาธิปไตยในปัจจุบัน
- เกาะซานโตรินี เจ้าของฉายา “เกาะสวรรค์แห่งทะเลอี้เจี้ยน” สถานที่พักผ่อนสุดโรแมนติกสีพาสเทล
- ถ้ำสีน้ำเงิน ถ้ำหินปูนสุดน่าอัศจรรย์ ที่เมื่อถูกแสงแดดยามเช้าตกกระทบจะกลายเป็นสีน้ำเงินสุดสวยงาม
- เกาะซาคินทอส เกาะที่มีไฮไลท์ที่น่าสนใจคือหาดซากเรือแตก หาดซึ่งมีซากเรือมาเกยตื้นอยู่จริงๆ
5.โปแลนด์
ประเทศที่อยู่ใจกลางของยุโรปซึ่งมีประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนาน และเต็มไปด้วยความหลากหลายทางวัฒนธรรมที่ถูกผสมผสานอย่างลงตัว รวมถึงค่าครองชีพที่ถูกพอๆกันกับบ้านเรา แถมไม่ว่าจะไปในหน้าใด อากาศที่นั่นก็เรียกได้ว่าดี และอยู่สบายอย่างสุดๆ หน้าร้อนบ้านเขาเฉลี่ยอยู่แค่ 16.5 – 19 องศาเอง เรียกได้ว่าเตรียมตัวไม่เยอะก็สามารถไปสนุกได้แล้ว
แน่นอนว่าสถานที่ที่น่าไปนั้นก็มีหลายที่ แต่ถ้าจะยกตัวอย่างที่น่าสนใจแล้วก็จะมีดังนี้
- กรุงวอร์ซอ เมืองหลวงของโปแลนด์ที่เหมาะกับสายถ่ายรูปจากบรรยากาศของเมืองเก่าสุดโรแมนติก
- มหาวิหารวาเวล มหาวิหารสไตล์กอธิค ที่ปัจจุบันนั้นใช้เก็บรักษาราชสมบัติของราชวงศ์โปแลนด์
- ค่ายกักกันเอาชวิทซ์ อดีตค่ายกักกันของนาซี ที่ซึ่งเต็มไปด้วยบาดแผลแห่งความโหดร้ายของสงคราม
- เหมืองเกลือวิเอลิคชกา เหมืองเกลือที่เก่าที่สุดในโลก ที่ภายในถูกแกะสลักให้กลายเป็นห้องหับต่างๆ
- เมืองซาโกปาเน สรวงสวรรค์ของบรรดานักสกี จนได้รับฉายา “The winter capital of Poland” ไปครอง
6.โปรตุเกส
ดินแดนแห่งมรดกโลกของยุโรป แหล่งรวมมรดกโลกสำคัญมากมายในส่วนของภูมิทัศน์วัฒนธรรม ประเทศยอดนิยมแห่งการไปพักตากอากาศในยุโรป ด้วยสภาพอากาศที่เหมาะแก่การไปท่องเที่ยวตลอดทั้งปี รวมถึงยังมีสถานที่เที่ยวหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นทั้งภูเขา ชายหาด หรือสถาปัตยกรรมที่สะดุดตา ทำให้ผู้ที่มาทัวร์โปรตุเกสนั้นมีตัวเลือกที่ค่อนข้างหลากหลาย
ที่เที่ยวในโปรตุเกสนั้นมีหลายที่ที่น่าสนใจ แต่เราคัดที่ไม่ควรพลาดมาให้แล้วดังนี้
- กรุงลิสบอน เมืองหลวงแห่งประเทศโปรตุเกส เป็นเมืองหลวงที่มีอากาศอบอุ่นมากที่สุดในยุโรป
- วิหารเจอโรนิโม สร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่วาสโก ดากามา นักสำรวจที่เดินทางสู่อินเดียได้สำเร็จในยุคนั้น
- ป้อมปราการปราสาทมัว ป้อมปราการที่ทอดตัวยาวตามเนินเขาซึ่งอยู่มาตั้งแต่ศตวรรษที่ 9
- เมืองปอร์โต เมืองตามแนวภูเขาทางตอนเหนือ แหล่งผลิตพอร์ตไวน์ที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก
7.เบลเยี่ยม
ประเทศที่มีประวัติศาสตร์มามากกว่า 1,000ปี แดนสวรรค์แห่งเหล่าช็อคโกแลตเลิฟเวอร์ ที่สองข้างทางของประเทศนั้นเต็มไปด้วยร้านรวงที่ขายช็อคโกแลตมากมายไม่หวาดไม่ไหว และแน่นอน ที่นี่ยังขึ้นชื่อในเรื่องของเบียร์ที่มีมากกว่า 400 ชนิด เชิญชวนให้เหล่าคอเบียร์มาทดลองได้อย่างจุใจ รวมถึงยังมีสถานที่ท่องเที่ยวแสนสวยอยู่อีกมากมายที่คนที่มาทัวร์เบลเยี่ยมไม่ควรพลาด ยกตัวอย่างเช่น
- กรุงบรัสเซลส์ เมืองหลวงแห่งเบลเยี่ยม ที่มีชื่อเล่นว่า “มินิปารีส” และมีพิพิธภัณฑ์ช็อกโกแลตตั้งอยู่ที่นี่
- จัตุรัสกรองด์ ปลาส หรือจัตุรัสแกรนด์เพลส สถานที่ท่องเที่ยวอันดับหนึ่งของเบลเยี่ยม ที่มีอายุกว่า 400 ปี
- เมืองบรูจส์ เมืองที่ได้รับการขนานนามว่า “เวนิสเหนือ” จากการที่เมืองนั้นมีแม่น้ำล้อมรอบ และใช้คมนามคมทางน้ำเป็นหลัก
- ทะเลสาบมินนีวอเตอร์ เจ้าของฉายา “ทะเลสาบแห่งรัก” สถานที่สุดโรแมนติกจากนิทานปรัมปราท้องถิ่น
8.นอร์เวย์
ประเทศแห่งธรรมชาติสุดอันแสนน่าตื่นตาที่อยู่สุดขอบโลก อีกหนึ่งประเทศที่นักท่องเที่ยวสายแอดแวนเจอร์นิยมไปล่าแสงเหนือ และตะลุยธรรมชาติสุดยิ่งใหญ่ ณ ประเทศแห่งนี้ ที่นี่นั้นเต็มไปด้วยทะเลสาบ และผืนป่าเขียวขจีน้อยใหญ่เป็นจำนวนมาก รวมถึงยังมีทิวทัศน์ธรรมชาติอื่นๆที่น่าทึ่งอีกหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นภูเขา น้ำตก ทะเล และอื่นๆอยู่อีกเพียบ จึงเหมาะมากกับใครก็ตามที่เป็นสายแอดแวนเจอร์ตะลุยป่า ขึ้นเขาลงห้วยทั้งหลาย
- หมู่เกาะโลโฟเทน มนต์สะกดของภูมิประเทศอันกว้างใหญ่ของภูเขาและหิมะ ต้นแบบของเมืองเอเรนเดลในภาพยนต์โฟรเซ่น
- เมืองทรอมโซ เมืองที่ขึ้นชื่อสำหรับการมาล่าพระอาทิตย์เที่ยงคืน และแสงเหนือของเหล่านักท่องเที่ยว
- หมู่เกาะสวาลบาร์ด หมู่เกาะสุดเขตแดนนอร์เวย์ และเหนือสุดของทวีปยุโรป ที่ชื่อนั้นแปลได้ว่า “ชายฝั่งที่หนาวเย็น”
- เมืองฟรัม เมืองเล็กๆกลางหุบเขา สถานที่ตั้งของรถไฟสายฟรัมบานา ทางรถไฟที่ได้ขึ้นชื่อว่าสวยที่สุดในนอร์เวย์
- ไกแรงเกอร์ฟยอร์ด ฟยอร์ดซึ่งสวยเป็นอันดับต้นๆของนอร์เวย์ ซึ่งมาพร้อมกับน้ำตกเจ็ดสาวน้อย ที่ติดอันดับน้ำตกที่สวยที่สุดในโลก
9.เนเธอร์แลนด์
กังหันลม,ดอกทิวลิป และลำคลอง คงจะเป็นนิยามของเนเธอร์แลนด์ที่ใครๆหลายๆคนนึกขึ้นมาเมื่อนึกถึงประเทศแห่งนี้ ประเทศแห่งนี้นั้นเรียกได้ว่าเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของคู่รักที่ต้องการมาฮันนีมูนกันเลยทีเดียว รวมถึงยังมีกิจกรรมที่เหมาะสมสำหรับคู่รักอย่างการปั่นจักรยานอีกด้วย แต่แน่นอนว่าการเดินจูงมือกันเที่ยวในประเทศนี้ก็ทำได้อย่างไม่เสียบรรยากาศ จึงเหมาะมากสำหรับการมาทัวร์เนเธอร์แลนด์เป็นทริปฮันนีมูนของคู่รักที่ต้องการมาเที่ยวยังต่างประเทศ
- กรุงอัมสเตอร์ดัม เมืองหลวงแห่งเนเธอร์แลนด์ ที่มาพร้อมกับบ้านเรือนทรงน่าจั่วตลอดแนว และเลนสำหรับปั่นจักรยานที่ทำให้การเที่ยวชมเมืองนั้นสะดวกขึ้น
- ย่านบินเนนฮอฟ ย่านเก่าแก่ของกรุงเฮก ซึ่งเป็นที่ตั้งของกลุ่มอาคารรัฐสภาเนเธอร์แลนด์ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก
- หมู่บ้านกังหันลม ซานส์ สคานส์ หมู่บ้านริมน้ำที่มีบ้านกังหันลมแบบโบราณเรียงรายหลายร้อยหลัง
- สวนเคอเคนฮอฟ สวนดอกไม้ซึ่งเต็มไปด้วยทุ่งดอกทิวลิปสุดโรแมนติก และมีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก
10.เช็ก
ถ้าให้พูดถึงประเทศนี้แล้ว สิ่งที่เด่นชัดที่สุดของสาธารณรัฐเช็กก็คงหนีไม่พ้นสถาปัตยกรรมและงานศิลปะหลากหลายสไตล์ ตั้งแต่แบบสไตล์กอทิก , บารอก , เรอเนสซองส์ และอื่นๆอีกมากมาย รวมถึงที่นี่ยังเป็นเมืองเก่าแก่ที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์น่าสนใจอยู่เป็นจำนวนมาก และด้วยบรรยากาศของเมืองที่ดูเงียบสงบ แต่แฝงเร้นเอาไว้ด้วยความโรแมนติก ก็ทำให้คนที่ได้มาทัวร์เช็กนั้นตกหลุมรักได้ไม่ยาก
- ปราสาทปราก ปราสาทโบราณที่มีอายุมากกว่า 1,000 ปี และยังเป็นปรากสาทเก่าแก่ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก
- มหาวิหารเซนต์วิตุส มหาวิหารซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของปราสาทปราก มหาวิหารอันแสนวิจิตรซึ่งกินเวลาสร้างกว่า 600 ปีกว่าจะแล้วเสร็จ
- สะพานชาร์ลส์ หรือสะพานแห่งกรุงปราก สะพานคนเดินสุดเก่าแก่สไตล์กอทิก ที่สองข้างทางประดับไปด้วยรูปปั้นโลหะของนักบุญกว่า 30 องค์
- เมืองคาร์โลวี วารี เป็นเมืองที่มีน้ำพุร้อนจากธรรมชาติจำนวนมาก สมกับชื่อในภาษาเช้กที่แปลได้ว่า “บ่อน้ำร้อนของคาล”
11.ฮังการี
ประเทศแห่งสถาปัตยกรรมสุดอลังการ ที่ทั้งเก่าแก่และสวยงามจนน่าตกตะลึง มาพร้อมกับเมืองหลวงบูดาเปสต์ ที่ได้รับการขนานนามว่า “ไข่มุกแห่งแม่น้ำดานูบ” เนื่องจากตัวเมืองนั้นถูกแม่น้ำดานูบนั้นแบ่งกั้นออกเป็น 2 ฝั่ง ซึ่งสำหรับใครที่เป็นสายท่องเที่ยวชมสถาปัตยกรรมแล้วล่ะก็ การมาทัวร์ฮังการีนั้นจึงเป็นสิ่งที่ควรไปให้ได้สักครั้งเพื่อชมสถาปัตยกรรมสุดตระการตาของประเทศแห่งนี้
- ปราสาทบูดา ปราสาทซึ่งตั้งอยู่บนเนินเขา อีกหนึ่งสัญลักษณ์สำคัญของบูดาเปสต์ที่อยู่มายาวนานกว่า 8 ศตวรรษ
- โรงอาบน้ำเซเชนยี โรงอาบน้ำซึ่งมีสปาน้ำพุร้อนใหญ่ที่สุดในยุโรป ซึ่งน้ำในสระทั้งหมดเป็นน้ำแร่จากธรรมชาติ
- ป้อมชาวประมง ป้อมปราการสีขาวที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อรำลึกถึงการเสียสละของกลุ่มชาวประมงที่ปกป้องเมืองบูดาเปสต์จากข้าศึกที่บุกเข้ามา
- เมืองเอเกอร์ เมืองทางตอนเหนือของฮังการี สถานที่ซึ่งเก็บกระดูกของบุคคลสำคัญในฮังการีเอาไว้มากมาย
- เมืองเปชส์ เมืองในหุบเขาที่เต็มไปด้วยวิถีชีวิตสไตล์ยุโรป และมัสยิดโบราณขนาดใหญ่ที่สุดในยุโรป
12.สเปน
ภาพของมาธาดอร์ที่ต่อสู้กับกระทิงในสนาม , อาหารสเปนอันเป็นเอกลักษณ์ด้วยรสชาติอันโดดเด่น และทีมฟุตบอลเลื่องชื่อที่มีชื่อเสียงโด่งดังออกไปทั่วโลก นี่คือสิ่งที่ใครหลายต่อหลายคนนึกถึงเมื่อพูดถึงประเทศสเปน แต่นั่นยังไม่ใช่ข้อดีทั้งหมดของประเทศนี้ เพราะไม่ว่าจะเป็นสถาปัตยกรรมอันเก่าแก่ หรือทะเลงาม ที่นี่เองก็พร้อมสรรพเช่นเดียวกัน เรียกว่ามาสเปนที่เดียว ครบจบสำหรับสายท่องเที่ยวเลยล่ะ
แต่หากมาคิดว่าจะไปที่ไหนดีเอาล่ะก็ คงจะมีตัวเลือกไม่หวาดไม่ไหว เราจึงขอแนะนำสถานที่เหล่านี้ที่ยังไงเสียถ้ามาทัวร์สเปนแล้วก็ควรจะไปดูเสียหน่อยอย่าง
- มหาวิหารซากราดา แฟมิเลีย สถาปัตยกรรมซึ่งเป็นผลงานชิ้นสุดท้ายของ อันตอนี เกาดี ที่แม้แต่ในตอนนี้ก็ยังทำการก่อสร้างอยู่
- ตลาดสดบุคเคอเรีย สัมผัสกับวิถีชีวิตและความเป็นอยู่ของคนสเปน ผ่านตลาดสดซึ่งเปิดตั้งแต่ 8 โมงเช้า ลากยาวจนถึง 2 ทุ่มครึ่ง
- พระราชวังหลวงแห่งกรุงมาดริด สถาปัตยกรรมสไตล์บาโรกที่สร้างขึ้นจากหินทั้งหลัง และเต็มไปด้วยห้องกว่า 3,418 ห้อง
- จัตุรัสพลาซ่ามายอร์ จัตุรัสใจกลางเมืองมาดริด สถานที่พักผ่อนหย่อนใจยอดนิยมของชาวสเปนซึ่งเต็มไปด้วยร้านรวงจำนวนมาก
- มหาวิหารบาเลนเซีย หรืออีกชื่อคือ “มหาวิหารเซนต์แมรี” โดดเด่นในเรื่องการผสมผสานศิลปะหลากสไตล์ไว้ได้อย่างลงตัว
13.เยอรมัน
ประเทศแห่งเบียร์ และไส้กรอก คงหนีไม่พ้นเยอรมันเป็นแน่แท้ ประเทศนี้คือแหล่งรวมปราสาทสวยงามที่เหมือนกับหลุดออกมาจากเทพนิยาย เจ้าพ่อแห่งเทคโนโลยี และยังเป็นบิดาผู้ให้กำเนิดรถหรูในปัจจุบัน ด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนานและล้มลุกคลุกคลานมาอย่างโชกโชน เท่าให้ที่นี่มีหลายสถานที่ที่น่าค้นหา และเชิญชวนให้นักท่องเที่ยวที่มาทัวร์เยอรมันนั้นไดเปิดประสบการณ์อยู่มากมาย ยกตัวอย่างเช่น
- เมืองไฮเดลเบิร์ก เมืองท่องเที่ยวอันแสนเก่าแก่แห่งเยอรมัน และได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่โรแมนติกที่สุดในประเทศนี้
- เมืองค็อคเคิม เมืองเล็กๆที่เต็มอิ่มไปด้วยทุ่งนาและธรรมชาติอันปลอดโปร่งซึ่งเหมาะแก่การพักผ่อน
- พระราชวังอีเล็คโทรัล พระราชวังซึ่งเป็นอดีตที่พำนักของเจ้าชายคลีเมนเวนเซสลอส ซึ่งในปัจจุบันกลายเป็นที่ตั้งของหน่วยงานราชการของรัฐบาลเยอรมัน
- เมืองลันทส์แบร์คอัมเล็ช เมืองซึ่งมีแม่น้ำแบบขั้นบันได้ไหลพาดผ่านตัวเมือง และอดีตเคยเป็นค่ายกักกันผู้อพยพ
14.บัลแกเรีย
สถาปัตยกรรมสไตล์ออร์โธด็อกซ์คือสิ่งที่เป็นเอกลักษณ์อย่างชัดเจนของประเทศแห่งนี้ ถึงแม้คนส่วนใหญ่จะนึกถึงโยเกิร์ตก่อนก็ตาม นอกจากนั้นที่นี่ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายอย่างแนวชายฝั่ง และธรรมชาติสุดสวยงาม และถึงแม้ที่นี่จะไม่ได้อยู่ในกลุ่มประเทศเชงเก้น แต่นักท่องเที่ยวที่มาทัวร์บัลแกเรียทั้งหลายก็สามารถใช้วีซ่าเชงเก้นเดินทางเข้ามาได้นะ
- กรุงโซเฟีย เมืองหลวงสุดเก๋ไก๋ที่บ้านเมืองภายในนั้นถูกคุมโทนด้วยสีพาสเทลซึ่งเหมาะแก่การถ่ายรูป
- อาสนวิหารอเล็กซานเดอร์ เนฟสกี โบสถ์สไตล์ออร์โธด็อกซ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก และเป็นอีกสัญลักษณ์หนึ่งของกรุงโซเฟีย
- โบสถ์โบยานา โบสถ์เล็กๆที่ถูกขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก สถานที่ตั้งของจิตกรรมฝาผนังอันแสนสวยงาม
- เมืองพลอฟดิฟ เมืองใหญ่อันดับ 2 ของบัลแกเรีย ซึ่งเป็นเขตอนุรักษ์ทางสถาปัตยกรรมและประวัติศาสตร์
15.โรมาเนีย
แหล่งรวมอารยะธรรม ศิลปะและวัฒนธรรมอันเก่าแก่จากหลากหลายประเทศ มาพร้อมกับกรุงบูคาเรสต์ ที่ได้รับสมญานามว่า “ปารีสน้อยแห่งยุโรป” เนื่องจากเมืองหลวงแห่งนี้ได้รับอิทธิพลมาจากวัฒนธรรมฝรั่งเศสอยู่หลายอย่าง และยังมีธรรมชาติอันน่าหลงใหลให้ได้เยี่ยมชมอยู่มากมาย
ซึ่งหากใครมาที่ทัวร์โรมาเนียแล้ว อย่าลืมแวะที่จะไปยังสถานที่เหล่านี้ด้วยนะ
- เหมืองเกลือสลานิก พราโฮว่า เป็นเหมืองเกลือที่มีขนาดใหญ่มากที่สุดในโรมาเนีย และในปัจจุบันถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นรีสอร์ทธรรมชาติบำบัด
- ทะเลสาบยาพิษ ทะเลสาบสีแดงที่ส่งกลิ่นเหม็นฉุน และเต็มไปด้วยไซยาไนด์ที่เจือปนอยู่ในน้ำเหล่านั้น
- สวนสนุกใต้ดิน ซาลินา ทูร์ดา สวนสนุกสุดแปลกตาซึ่งตั้งอยู่ใต้ดิน ที่อดีตเคยเป็นเหมืองเกลือมาก่อน
- โบสถ์ไม้แห่งมารามูเรช โบสถ์ทรงสูงทั้ง 8 หลังที่ถูกสร้างขึ้นด้วยไม้เนื้อดีและรูปทรงสุดแปลกตาจนเป็นเอกลักษณ์
- น้ำตกไบก้าร์ 1ใน8น้ำตกที่สวยที่สุดในโลก ด้วยบรรยากาศของสายน้ำที่ไหลผ่านมอสสีเขียวที่อยู่เต็มหน้าผา
16.เช็กเกีย
เช็กเกีย เป็นจุดหมายปลายทางประเทศสุดแสนโรแมนติกที่มีเมืองเก่า เมืองมรดกโลกที่แสนคลาสสิค เต็มไปด้วยวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ และศิลปะที่น่าสนใจมากมาย มีหลายเมืองที่น่าท่องเที่ยวมากมาย ทั้ง เมืองหลวงอย่างกรุงปราก เมืองคาร์โลวี วารี และ เมืองเชสกี้ครุมลอฟ เป็นต้น
- ปราสาทปราก ปราสาทโบราณที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก มีสถาปัตยกรรมที่น่าทึ่ง ถือเป็นหนึ่งในสมบัติประจำชาติอีกด้วย
- ปราสาทครุมลอฟ ปราสาทเก่าแก่กว่า 700 ปี โดดเด่นด้วยหอคอยปราสาทสีชมพู ชมวิวเมืองจากมุมสูง
บทส่งท้าย
เป็นอย่างไรกันบ้างกับข้อมูล 16 ประเทศน่าเที่ยวในยุโรป พวกเรา Travelzeed พร้อมแนะนำข้อมูลที่ควรรู้ หากสนใจท่องเที่ยวยุโรปกับเรา เรามี ทัวร์ยุโรป ให้เลือกมากมายกว่า 250 โปรแกรม และยังมี ทัวร์ยุโรปคอนเฟิร์มการเดินทาง มาให้ทุกคนได้เลือกชมอีกด้วย
➤ หากสนใจ สามารถสอบถามได้ที่ Line @Travelzeed หรือติดต่อ 02-108-7900 ได้เลยนะคะ