10 เมืองรองญี่ปุ่น ห้ามพลาด! เที่ยวชิลล์ คนน้อย บรรยากาศดี

ถ้าพูดถึงประเทศญี่ปุ่น หลาย ๆ คนน่าจะต้องนึกถึงเมืองหลัก ๆ เช่น ฮอกไกโด โตเกียว โอซาก้า เกียวโต ใช่ไหมคะ ซึ่งแน่นอนแหละ ว่าทุกคนอาจจะเคยไปเที่ยวกันมาหมดแล้ว และวันนี้ TravelZeed เลยอยากจะมาแนะนำ เมืองรองญี่ปุ่น กันบ้างค่ะ บอกเลยว่า แต่ละเมืองมีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจไม่แพ้เมืองหลักเลย ไปดูกันดีกว่าค่ะ ว่าจะมีเมืองไหนบ้าง!!!!

1. จังหวัดกิฟุ (Gifu)

Shirakawa-go

จังหวัดกิฟุ (Gifu) ตั้งอยู่ในภูมิภาคชุบุ เป็นเมืองรองญี่ปุ่นที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายของวัฒนธรรมเมืองเก่า รวมไปถึงสถาปัตยกรรมโบราณ พื้นที่ส่วนใหญ่ถูกล้อมรอบไปด้วยภูเขา จึงทำให้จังหวัดกิฟุ เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยธรรมชาติที่สวยงาม และมีสถานที่ท่องเที่ยวที่หลากหลาย อย่างเช่น สถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงอย่าง หมู่บ้านชิราคาวาโกะ ซึ่งเป็นหมู่บ้านเก่าแก่ที่อยู่กลางหุบเขา และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมจาก UNESCO หรือ ปราสาทบนภูเขาที่ขึ้นชื่อว่าสวยที่สุดในญี่ปุ่นอย่าง ปราสาทกุโจฮาจิมัง เป็นต้น

 

2. จังหวัดนารา (Nara)

Nara Park

จังหวัดนารา (Nara) ตั้งอยู่ในภูมิภาคคันไซ ซึ่งอยู่ใกล้กับโตเกียวและโอซาก้า เป็นเมืองรองญี่ปุ่นที่เต็มไปด้วยเรื่องราวประวัติศาสตร์ รวมไปถึงสถาปัตยกรรมโบราณ และอาคารสวย ๆ มากมาย เนื่องจากในสมัยช่วง ค.ศ. 710 – 784 นาราเคยเป็นเมืองหลวงเก่าของประเทศญี่ปุ่นมาก่อน จึงทำให้มีสถานที่สำคัญทางประวัติศาตร์ และวัดเก่าแก่มากมาย อย่างเช่น วัดโทไดจิ เป็นที่ประดิษฐานของ พระพุทธรูปไดบุตสึ ซึ่งเป็นพระพุทธรูปสำริดขนาดใหญ่ที่สุดในโลกองค์หนึ่ง และอีกไฮไลท์ที่พลาดไม่ได้ของเมืองนี้ คือ การได้เห็นน้องกวางเดินเล่นอยู่ในสวนต่าง ๆ สามารถให้ขนม หรือถ่ายรูปกับน้องได้ด้วยนะคะ

 

3. จังหวัดชิบะ (Chiba)

Nozomizo Falls

จังหวัดชิบะ (Chiba) ตั้งอยู่ในภูมิภาคคันโต เมืองรองญี่ปุ่นที่เป็นเมืองท่าสำคัญ เพราะเนื่องจากอยู่ติดทะเล และมีชื่อเสียงในเรื่องของการทำประมง มีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติสวย ๆ มากมาย อย่างเช่น น้ำตกโนมิโซโนะ, ภูเขาไฟโนโกกิริ, ถ้ำคาเมอิวะ และนอกจากกนี้ ยังเป็นที่ตั้งของสวนสนุกชื่อดังอย่าง Tokyo DisneyLand และ Tokyo DisneySea อีกด้วยนะคะ

 

4. จังหวัดมิเอะ (Mie)

Okitama Shrine

จังหวัดมิเอะ (Mie) ตั้งอยู่ในภูมิภาคชุบุ เป็นเมืองรองญี่ปุ่นที่เต็มไปด้วยความอุดมสมบูณ์ของธรรมชาติ ทั้งทะเล และภูเขา อย่างเช่น เมโอโตะอิวะ (Meotoiwa) หรือ หินคู่แต่งงาน เป็นหินสองก้อนที่ตั้งอยู่ริมทะเล โดยมีความเชื่อว่าเป็นตัวแทนของเทพเจ้าอิซานางิและอิซานามิ หรือ พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำโทบะ ที่มีสัตว์มากมายกว่า 1,200 ชนิด และนอกจากกนี้ยังมีสวนดอกไม้ชื่อดังอย่าง นาบานะโนะซาโตะ (Nabana no sato) ที่สามารถเที่ยวได้ทุกฤดูกาลอีกด้วยนะคะ

 

5. จังหวัดฟุกุโอกะ (Fukuoka)

Nanzoin temple

จังหวัดฟุกุโอกะ (Fukuoka) ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของภูมิภาคคิวชู เป็นจังหวัดที่อยู่ติดชายฝั่ง แต่ให้บรรยากาศในเมือง คล้ายกับโตเกียวและโอซาก้า แต่คนน้อยกว่า ไม่วุ่นวายมากนัก มีที่เที่ยวและห้างให้ช็อปปิ้งหลายแห่ง อย่างเช่น วัดนันโซอิน ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธไสยาสน์ หรือพระนอนทองสัมฤทธิ์ขนาดใหญ่ และสำหรับใครที่ชื่อชอบกันดั้ม ก็อย่าลืมถ่ายรูปเช็กอินกับกันดั้มยักษ์ที่ LaLaport Fukuoka ด้วยนะคะ

 

6. จังหวัดโออิตะ (Oita)

Oniishibozu Jigoku hot spring in Beppu

จังหวัดโออิตะ (Oita) ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของภูมิภาคคิวชู เป็นจังหวัดเล็กที่มีแต่ความเรียบง่าย เป็นแหล่งน้ำพุร้อนที่โด่งดังที่สุดในญี่ปุ่น โดยที่เมืองเบปปุ (Beppu) จะมีบ่อน้ำพุร้อนเยอะและหลากหลายที่สุด และเมืองยูฟุอิน (Yufuin) ที่เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ เช่น หุบเขาแม่น้ำยุฟุ หุบเขาลึกรูปตัววีที่มีความงดงามจนถูกเรียกว่า ทีโรลแห่งเอเชีย และโคโคโนเอะยูเมะ สะพานแขวนคนเดินที่ยาวและสูงที่สุดในญี่ปุ่น เป็นต้น

 

7. จังหวัดอาโอโมริ (Aomori)

Hirosaki

จังหวัดอาโอโมริ (Aomori) ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของภูมิภาคโทโฮคุ เป็นจังหวัดเล็ก ๆ ที่ถูกล้อมรอบด้วยทะเลทั้ง 3 ด้าน บอกเลยว่าทัศนียภาพสวยจะตะลึงไปเลย และยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงาม อย่างเช่น ปราสาทฮิโรซากิ ซึ่งเป็น 1 ใน 7 ปราสาทที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น และมีต้นซากุระกว่า 2,500 ต้น และ เทือกเขาชิราคามิ ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติจาก UNESCO อีกด้วยค่ะ

 

8. จังหวัดมิยางิ (Miyagi)

the old Sendai Aoba castle

จังหวัดมิยางิ (Miyagi) ตั้งอยู่ในภูมิภาคโทโฮคุ เป็นจังหวัดที่เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นทางธรรมชาติ ประวัติศาตร์ และวัฒนธรรม อย่างเช่น หุบเขานารุโกะ ซึ่งเป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีชื่อดังแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น, ปราสาทอาโอบะ หรือปราสาทเซนได เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คสำคัญของเมืองเซนได จังหวัดมิยากิ สร้างขึ้นเพื่อเป็นศูนย์กลางอำนาจของตระกูลดาเตะ 

 

9. จังหวัดกุนมะ (Gunma)

Shima Onsen

จังหวัดกุนมะ (Gunma) ตั้งอยู่ในภูมิภาคคันโต เป็นจังหวัดที่มีชื่อเสียงโด่งดังเรื่องออนเซ็น มีธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์มาก ๆ เหมาะสำหรับคนที่ชอบทำกิจกรรมกลางแจ้ง สำหรับออนเซ็นที่มีชื่อเสียงมาก ๆ อย่างเช่น คุซัตสึออนเซ็น, ทาคาระงาวะออนเซ็น และชิมะออนเซ็น ซึ่งแหล่งน้ำพุร้อนที่เป็นแรงบันดาลใจให้กับภาพยนตร์แอนิเมชันชื่อดังอย่าง “Spirited Away” ของ Studio Ghibli อีกด้วยนะคะ

 

10. จังหวัดโอกินาว่า (Okinawa)

cave okinawa

จังหวัดโอกินาว่า (Okinawa) จะอยู่ใต้สุดของประเทศญี่ปุ่น มีลักษณะพื้นที่เป็นเกาะ เป็นเมืองรองญี่ปุ่น สำหรับคนที่ชื่นชอบและรักทะเล โอกินาว่ามีทรัพยากรทางทะเลที่อุดมสมบูรณ์มาก นอกจากกิจกรรมทางน้ำ แล้ว ก็ยังมีกิจกรรมอื่นๆ ให้ทำด้วยนะ ไม่ว่าจะเป็น การเที่ยวชมถ้ำเกียวคุเซนโด สถานที่ที่เต็มไปด้วยหินงอก หินย้อย และทะเลสาบใต้ดิน, ปราสาทชูริ, หมู่บ้านอเมริกันมิฮามะ แหล่งรวมความบันเทิงที่ให้บรรยากาศของอเมริกาในยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 และเดินช้อปที่ ถนนโคคุไซโดริ ที่มีทั้งห้างสรรพสินค้า ร้านขายของฝาก ร้านอาหาร และคาเฟ่มากมายเลยค่ะ

บทส่งท้าย

เป็นยังไงกันบ้างคะ กับ 10 เมืองรองญี่ปุ่นที่ TravelZeed มาแนะนำในวันนี้ บอกเลยว่าแต่ละแห่งล้วนมีเสน่ห์เฉพาะตัว ทั้งด้านธรรมชาติ ด้านวัฒนธรรม และสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจไม่แพ้เมืองหลักเลยค่ะ หากคุณกำลังอยากเที่ยวแบบชิลล์ ๆ พร้อมสัมผัสกับบรรยากาศใหม่ ๆ ให้ TravelZeed ช่วยดูแลทริปของคุณสิคะ เรามี ทัวร์ญี่ปุ่น ครบทุกเส้นทาง ทั้งเมืองหลักและเมืองรอง พร้อมโปรแกรมการเดินทางที่ออกแบบมาเพื่อให้คุณได้สัมผัสกับเสน่ห์ของญี่ปุ่นแบบเต็มอิ่ม แล้วพบกันในทริปญี่ปุ่นครั้งหน้านะคะ!

Facebook Comments
Scroll to Top