เที่ยวญี่ปุ่น ชม ช็อป ชิม ที่ “นาโกย่า” ดินแดนซามูไรแห่งภูมิภาคจูบุ

Post Views: 3,832

หากพูดถึง นาโกย่า (Nagoya) หรือ นาโงย่า เชื่อว่านักเดินทางหลายท่านคงจะคุ้นเคยกับชื่อเมืองนี้กันอย่างแน่นอน เพราะโปรแกรมท่องเที่ยวหรือโปรแกรมทัวร์ญี่ปุ่นส่วนมากมักเหมารวมนาโกย่าเป็นหนึ่งในจุดท่องเที่ยวใกล้ๆโตเกียวเมืองหนึ่งที่ไม่ควรพลาด ด้วยแหล่งท่องเที่ยวที่มีเสน่ห์ดึงดูดใจ เช่น สถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ อย่างปราสาทนาโกย่า (Nagoya Castle) และศาลเจ้าอัตสึตะจิงกู (Atsuta Jingu) สถานที่ท่องเที่ยวเชิงอุตสาหกรรม เช่น พิพิธภัณฑ์ที่ระลึกด้านอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีโตโยต้า และยังได้เพลิดเพลินกับการท่องเที่ยวในเมือง เช่น การช้อปปิ้งและลิ้มรส “อาหารนาโกย่า” ยอดนิยม เช่น เทบะซากิ (ปีกไก่ทอด), มิโซะคัตสึ (หมูทอดซอสมิโซะ), ฮิตสึมะบุชิ (ข้าวหน้าปลาไหล) เป็นต้น

ข้อมูลทั่วไปเมืองนาโกย่า (Nagoya)

นาโกย่า เป็นเมืองขนาดใหญ่อันดับที่ 3 ของญี่ปุ่นรองลงมาจากโตเกียวและโอซาก้า และเป็นเมืองใหญ่ที่สุดในภูมิภาคจูบุ ตั้งอยู่ตรงกลางของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมีประชากรประมาน 2.3 ล้านคน โดย “นาโกย่า” นี้เป็นเพียงเมืองหลวงเท่านั้น ไม่ใช่ชื่อของจังหวัด เพราะแท้จริงแล้วนาโกย่าเป็นชื่อเมืองหลวงของจังหวัดไอจิ (Aichi) และเป็นที่ตั้งสำนักงานใหญ่ของบริษัทยานยนต์ระดับโลกอย่าง โตโยต้า รอบๆสถานีนาโกย่าเต็มไปด้วยตึกสูงระฟ้าตั้งตระหง่านมากมายด้วยความเจริญก้าวหน้าของสังคมเมืองที่เริ่มแผ่ขยายออกมาจากเมืองหลวง ที่นี่จึงกลายเป็นแหล่งผลิตรถยนต์ ยานอวกาศ เครื่องจักร และเซรามิกที่มีชื่อเสียงของประเทศญี่ปุ่น

การเดินทาง

จากสนามบิน Chubu Centrair International Airport
ขึ้นรถไฟสายเมเท็ตสึจากสนามบินมายัง Nagoya station ใช้เวลาโดยประมาน 30 นาที
จากสถานีโตเกียว (Tokyo station)
ขึ้นชิ้นคันเซ็น Tokaido-Sanyo Shinkansen จากสถานีโตเกียว มายัง Nagoya station ใช้เวลาประมาน 1 ชั่วโมง 45 นาที

สถานที่เที่ยวยอดนิยม

➡ ปราสาทนาโกย่า (Nagoya Castle)

ปราสาทนาโกย่าเป็นสัญลักษณ์สำคัญของเมืองนาโกย่า สร้างขึ้นโดยโชกุน โทกุงาวะ อิเอยาสึ ในปี ค.ศ. 1612 มีรูปสลักปลาหัวเสือทองคำ (shachi) ที่มีชื่อเสียง ปราสาทนาโกย่าแต่เดิมถูกทำลายจากเพลิงไหม้ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 และถูกบูรณะขึ้นใหม่ในปี ค.ศ. 1959 ภายในจัดแสดงสิ่งของทางประวัติศาสตร์มากมาย ในปัจจุบันกำลังอยู่ระหว่างการบูรณะซ่อมแซม สำหรับส่วนที่ได้รับการบูรณะเรียบร้อยแล้ว คือ “ส่วนประตูทางเข้า” “ห้องโชอินส่วนหน้า” “ห้องพบปะบริพาร” และ “ห้องจัดเลี้ยงสำรับ” ห้องเหล่านี้ได้เปิดให้เข้าชมแล้ว เทคนิคทางสถาปัตยกรรมไม้ดั้งเดิมที่ใช้ไม้หอมฮิโนกิและภาพวาดบนผนังห้องที่วิจิตรเปี่ยมด้วยความสง่างาม ทำให้วังแห่งนี้สามารถเทียบเทียมเท่าปราสาทนิโจแห่งเกียวโตเลยทีเดียว

เวลาเปิด-ปิด	9.00 น. – 16.30 น.
วันหยุด	29 ธันวาคม – 1 มกราคม ของทุกปี
ค่าเข้า	ผู้ใหญ่ 500 เยน
เว็ปไซต์	https://www.nagoyajo.city.nagoya.jp/en/

➡ พิพิธภัณฑ์ศิลปะโทกุงาวะ และสวนโทกุงาวะ

เป็นพิพิธภัณฑ์ที่เก็บรักษาข้าวของเครื่องใช้ของไดเมียว หลายหมื่นหลายพันชิ้นที่สืบทอดมาของตระกูลโทกุงาวะแคว้นโอวาริ โดยเฉพาะเครื่องใช้ของโทกุงาวะ อิเอยาสุ เช่น ชุดเกราะ ดาบ อุปกรณ์ละครโนห์ ของประดับโชอิน และอุปกรณ์เครื่องใช้ส่วนตัวต่างๆ ล้วนน่าสนใจ ที่นี่ยังเป็นที่เก็บรักษาภาพวาดเก็นจิโมโนกาตาริ ซึ่งเป็นสมบัติชาติไว้อีกด้วย นอกจากนี้ห้องสมุดโฮสะซึ่งอยู่ข้างๆ เปิดให้ชมงานเขียนที่สืบทอดต่อกันมาของตระกูลโทกุงาวะ

อีกทั้งท่านยังสามารถชื่นชมความงามของดอกไม้หลากสีได้ตลอดสี่ฤดูในสวนญี่ปุ่นแบบ Chisen Kaiyu-shiki (สวนที่มีสระน้ำอยู่ตรงกลาง) ซึ่งจะมีให้เห็นเฉพาะสวนของบ้านขุนนางไดเมียวในสมัยก่อนเท่านั้น

เวลาเปิด-ปิด	10.00 น. – 17.00 น.
วันหยุด	ทุกวันจันทร์ (ถ้าวันจันทร์ตรงกับวันหยุดนักขัตฤกษ์จะเปลี่ยนเป็นวันอังคารแทน) และกลางเดือนธันวาคมจนถึงวันปีใหม่
ค่าเข้า	ผู้ใหญ่ ราคา 1400 เยน นักเรียนม.ปลายหรือนักศึกษา ราคา 700 เยน นักเรียนม.ต้น /ประถม /เด็ก ราคา 500 เยน
เว็ปไซต์	https://www.tokugawa-art-museum.jp/en/

➡ ศาลเจ้าอัตสึตะจิงกู (Atsuta Jingu)

ศาลเจ้าอัตสึตะจิงกู เป็นศาลเจ้าใหญ่รองจากศาลเจ้าอิเสะจิงกู ในทุกปีจะมีผู้มาสักการะประมาณ 6,500,000 คน สิ่งสักการะของศาลเจ้าแห่งนี้คือดาบคุซานางิ (Kusanagi-no-Tsurugi) ซึ่งเป็นหนึ่งในสามเครื่องราชกกุธภัณฑ์ศักดิ์สิทธิ์ประจำจักรพรรดิญี่ปุ่น และยังมีกำแพงที่โชกุนโอดะ โนบุนางะถวายให้ศาลเจ้าตามที่เคยได้อธิษฐานขอพรให้ได้รับชัยชนะในปีค.ศ 1560 ในพิพิธภัณฑ์วัดอัตสึตะ มีการจัดแสดงสิ่งของซึ่งมีประวัติความเป็นมาราว 6,000 ชิ้น

เวลาเปิด-ปิด	อาคารเก็บรักษาเครื่องราชกกุธภัณฑ์ (ดาบคุซานางิ) เข้าชมได้ตั้งแต่ 9.00น.-16.30น. ศาลเจ้าเปิดให้เข้าสักการะได้ตลอด 24 ชม.
วันหยุด	ศาลเจ้าเปิดให้เข้าสักการะได้ตลอดทั้งปี อาคารเก็บรักษาเครื่องราชกกุธภัณฑ์ปิดให้เข้าชมในวันพุธสุดท้ายของเดือน และปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 25-31 ธันวาคม
ค่าเข้า	ค่าเข้าชม อาคารเก็บรักษาเครื่องราชกกุธภัณฑ์ 300เยน/ต่อคน (ผู้ใหญ่)
เว็ปไซต์	http://www.atsutajingu.or.jp/

➡ LEGOLAND® Japan

LEGOLAND® Japan เป็นสวนสนุกกลางแจ้ง LEGO แห่งแรกในญี่ปุ่น เปิดขึ้นในเดือนเมษายร 2017 ทุกท่านสามารถเพลิดเพลินไปกับโชว์และเครื่องเล่นมากกว่า 40 ชนิด นอกจากนี้ยังสามารถชมทัศนียภาพของสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของญี่ปุ่นที่ถูกจำลองออกมาในรูปแบบของเลโก้มากว่า 10 แห่งใน MINILAND โดยใช้เลโก้มากกว่า 17ล้านตัวในการรังสรรค์ความมหัศจรรย์ของสวนสนุกแห่งนี้ นอกจากนี้ยังได้เพลิดเพลินกับ LEGO models อีกกว่า 1 แสนตัว น้องๆหนูๆ หรือผู้เดินทางท่านไหนชื่นชอบเลโก้ล่ะก็ ไม่ควรพลาดเลยนะคะ

เวลาเปิด-ปิด	เปิด 10.00 น. เวลาปิดขึ้นอยู่กับแต่ละวัน
วันหยุด	กรุณาเช็คที่เว็ปไซต์
ค่าเข้า	1 Day Pass เด็ก : 4,600 เยน ผู้ใหญ่ : 7,100 เยน
เว็ปไซต์	LEGOLAND.jp

➡ พิพิธภัณฑ์ที่ระลึกด้านอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีโตโยต้า

เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ก่อตั้งขึ้นโดยกลุ่มโตโยต้า เป็นทั้งที่เก็บรักษาและใช้งานไปพร้อมๆกัน อาคารแห่งนี้สร้างขึ้นในปี 1911 และเคยถูกใช้งานจริงช่วงยุคไทโช (ค.ศ. 1912-1926) มีการจัดแสดงนิทรรศการโดยการติดตั้งเครื่องจักรจริง และให้เครื่องจักรทำงานจริง หรือการให้ผู้คุมเครื่องจักรแสดงการขับเครื่องจักรเพื่อให้ผู้เข้าชมเข้าใจง่ายขึ้น โดยทั้งนี้จะมี 2 อาคาร คือ อาคารยานพาหนะ และ อาคารเครื่องทอผ้า ภายในยังมีร้านอาหาร คาเฟ่และห้องสมุดให้เข้าไปใช้บริการอีกด้วย

เวลาเปิด-ปิด	9.30 น. – 17.00 น.
วันหยุด	ทุกวันจันทร์ และช่วงสิ้นปีและปีใหม่ของทุกปี
ค่าเข้า	ผู้ใหญ่ 500 เยน
เว็ปไซต์	http://www.tcmit.org/english/

อาหารรสเลิศ

ปีกไก่ทอดเทบะซากิ

“เทบะซากิ” อาหารเลื่องชื่อของนาโกย่าที่ได้รับความนิยมแพร่หลายไปทั่วประเทศญี่ปุ่น ปีกไก่ทอดเทบะซากิแตกต่างจากไก่คาราอาเกะเพราะไม่ชุบแป้งทอด แต่ปรุงโดยหมักปีกไก่ให้มีรสชาติเล็กน้อย แล้วนำไปทอด และปรุงรสด้วยซอสรสเค็มหวาน โรยพริกไทยและงา เนื้อไก่กรอบนอกนุ่มใน รสชาติแต่ละร้านจะแตกต่างกัน ยังไงลองชิมเปรียบเทียบกันดูนะคะ

หมูทอดมิโซะคัตสึ

หมูทอดและซอสมิโซะแดง ที่ผสมผสานรสชาติได้อย่างกลมกล่อม กลายมาเป็นเมนูที่ได้รับความนิยมของชาวนาโกย่า มีให้เลือกทานไม่ว่าจะเป็นแบบเสียบไม้ทอดคุชิคัตสึ หรือเป็นข้าวหน้ามิโซะคัตสึ เลือกกินเลือกชิมกันตามใจชอบได้เลยค่ะ

ข้าวหน้าปลาไหลฮิตสึมาบุชิ

“ฮิตสึมาบุชิ” ยังคงเป็นสัญลักษณ์ของอาหารนาโกย่ามาจนถึงปัจจุบัน ข้าวหน้าปลาไหลที่มีรูปแบบการทานที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวแตกต่างกันออกไปถึง 3 แบบ โดยจะตักแบ่งข้าวและปลาไหลจากโถข้าวที่เรียกว่า ฮิตสึ มาใส่ในชาม โดยชามแรกจะกินแบบธรรมดา ชามที่สองใส่เครื่องเทศ เช่น วาซาบิ, หอม, สาหร่าย ฯลฯ และชามที่สามใส่น้ำชาเขียวทำเป็นข้าวต้ม รสชาติละมุนละไม ปลาไหลย่างกรอบกำลังดีเข้ากันได้ดีกับเครื่องเทศและข้าวต้มชาเขียว

มิโซะนิโคมิอุด้ง

“มิโซะนิโคมิอุด้ง” เดือดปุดๆในหม้อดินที่เสิร์ฟให้แต่ละท่าน ซุปที่ทำจากมิโซะแดงอันกลมกล่อม เข้มข้น เมื่อทานแล้วจะรู้สึกได้ถึงรสชาติอันอ่อนละมุนในปาก เส้นอุด้งนวดด้วยน้ำเพียงอย่างเดียวไม่ใส่เกลือ ใส่เส้นอุด้งลงไปต้มในหม้อดิน เกิดรสชาติกลมกล่อมเข้ากันได้ดีกับซุปมิโซะแดง และเพิ่มความอร่อยมากยิ่งขึ้นได้โดยเติมเครื่องเพิ่ม มีเครื่องยอดนิยม เช่น หอม, เห็ดหอม, เนื้อไก่ ฯลฯ หรือเครื่องอื่นๆที่ท่านชอบ เช่น เท็มปุระ, โมจิ ฯลฯ

ของที่ระลึก

ข้าวเกรียบกุ้ง

เอบิเซมเบ้ ข้าวเกรียบกุ้งที่มีสูตรมาตั้งแต่สมัยยุคเอโดะ ที่จะทำกุ้งทั้งตัวมาย่างพร้อมแป้งจนกลายเป็นเอบิเซมเบ้

ขนมอุอิโระ

ขนมที่ทำมาจากแป้งข้าวเจ้าผสมเข้ากับน้ำและน้ำตาลทราย ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นวัตถุดิบที่ได้รับการคัดเลือกมาอย่างดี ทำให้ได้รสชาติหวานกลมกล่อมและเนื้อสัมผัสที่นุ่มละมุนลิ้น

ผ้ามัดย้อม Arimatsu shibori

เดิมผ้าไหมมัดย้อมพื้นเมืองของนาโกย่านี้ถูกใช้ตัดชุดกิโมโน แต่ในปัจจุบันก็ถูกใช้ทำสิ่งของอื่น ๆ ด้วย มีร้านค้าหลายร้านตั้งอยู่ที่ถนนหลักของอาริมัตสึ (Arimatsu) ซึ่งทำให้บริเวณนี้มีชื่อเสียงเกี่ยวกับผ้ามัดย้อมญี่ปุ่นคุณภาพดี