ทริปเที่ยวยูนนานในครั้งนี้มีหลายไฮไลน์ หลายสถานที่มาก โดยครั้งนี้ จะมาเล่าสถานที่ต่างๆ มุมถ่ายรูปสวยๆ วัฒนธรรมของชาวทิเบต ยูนนานเป็นมณฑลหนึ่งของสาธารณรัฐประชาชนจีน ตั้งอยู่ทิศตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ มีพื้นที่ประมาณ 394,000 ตารางกิโลเมตร และมีประชากรประมาณ 45.966 ล้านคน (พ.ศ. 2553) มีเมืองหลวงหรือเมืองเอกของมณฑลชื่อ คุณหมิง มณฑลยูนนานมีอาณาเขตติดต่อกับมณฑลและเขตปกครองต่าง ๆ ของประเทศจีน ได้แก่ กว่างซี กุ้ยโจว เสฉวน และทิเบต รวมถึงติดต่อกับประเทศเวียดนาม ลาว และพม่า ประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวฮั่น นอกจากนั้นยังมีกลุ่มชาติพันธุ์อื่นๆ อีก 25 กลุ่มชาติพันธุ์
วันนี้ Travelzeed จะพาเพื่อนๆไปที่ ลี่เจี่ยง เต๋อชิง แชงกรีล่า ดินแดนแห่งเทพนิยายที่ทุกท่านต้องไปสัมผัสด้วยตัวท่านเองให้ได้สักครั้งในชีวิต หากใครกำลังมองหาที่เที่ยว แนะนำได้เลยว่าไม่มีผิดหวัง รับรองว่าทุกคนที่ได้ดูคลิป ได้อ่านบทความนี้ จะทำให้เพื่อนๆ ต้องหาเวลาไปเปิดประสบกาณ์ ที่ดินแดนแห่งความฝันนี้
1.โค้งแรกแม่น้ำแยงซีเกียง
โค้งแรกแม่น้ำแยงซีเกียง ถือเป็นแม่น้ำสายสำคัญท่เปรียบเสมือนเส้นเลือดหล่อเลี้ยงประเทศจีน ไหลลงมาจากที่ราบสูง “ชิงไห่-ทิเบต” มากระทบกับภูเขาไห่หลอ ทำให้ทิศทางของแม่น้ำหักโค้งไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ จนเกิดเป็นโค้งน้ำที่สวยงาม แม่น้ำแยงซีที่ไหลผ่านเมืองลี่เจียง ช่วงนี้มีชื่อว่า จินซา หรือเรียกเต็มๆว่า จินซาเจียง แปลว่า “แม่น้ำทรายทอง” จุดนี้เองที่แม่น้ำได้หักโค้งข้อศอกเป็นโค้งแรก ทำให้ไหลแยกจากแม่น้ำสาละวินและแม่น้ำโขง ไปทางทิศตะวันออก ก่อให้เกิดอารยธรรมจีน ที่ยิ่งใหญ่เมื่อหลายพันปีมาแล้ว กล่าวกันว่าถ้าไม่มีโค้งแม่น้ำแห่งนี้ก็อาจไม่มีอารยธรรมจีนอันเกรียงไกร
2.วัดเฟยไหล
วัดเฟยไหล อยู่ห่างจากเมืองเต๋อชิงประมาณ 4 กิโลเมตร เป็นวัดทิเบตที่สำคัญอีกวัดหนึ่ง เนื่องจากเป็นวัดที่ชาวทิเบตมักจะเดินทางมาสักการะบูชาภูเขาหิมะอันศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่เบื้องหน้าเป็นวัดที่สร้างขึ้นมานานกว่าพันปีแล้ว ตั้งแต่สมัยที่มีการเผยแพร่พระพุทธศาสนาเข้ามายังทิเบตในช่วงแรก เผ็นวัดที่ไม่มีพระสงฆ์จำพรรษาอยู่ที่วัด โดยในวัดจะมีสถูปที่ใช้เป็นเตาเผาดอกไม้เพื่อเป็นการสักการะต่อสิ่งศักด์สิทธิ์ และที่วัดแห่งนี้ยังสามารถมองเห็นภูเขาหิมะเหม่ยหลี่ได้อีกด้วย
3.ธารน้ำแข็งหมิงหย่ง
ธารน้ำแข็งหมิงหย่ง ที่ตั้งอยู่ในละติจูดที่ต่ำที่สุดของจีน และยังเป็นธารน้ำแข็งที่มีอายุนับล้านปี ธารน้ำแข็งหมิงหย่งนั้นทอดตัวจากบนภูเขาหิมะเหมยหลี่ บนความสูงเหนือระดับน้ำทะเล 6,740 เมตร ลงมายังเขตป่าไม้ที่อยู่ด้านล่างที่ระดับน้ำทะเล 2,700 เมตร ด้วยความยาว 11.7 กิโลเมตร และมีความกว้างประมาณ 500 เมตร นับเป็นธารน้ำแข็งที่ทอดตัวลงมาทางทิศใต้มากที่สุดของจีน ธารน้ำแข็งหมิงหย่งเป็นธารน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุด เกิดจากการทับถมของหิมะบนยอด “เขาคาวากาโป” ที่เคลื่อนตัวอย่างช้าๆ จากความสูง 5,500 เมตร ลงมาสู่แม่น้ำแข็ง (River of Ice) ที่ระดับความสูง 2,700 เมตร การทับถมของหิมะหรือในช่วงอากาศเย็นจัด จะอยู่ในรูปของหิมะหรือฝน น้ำแข็งจะสะสมรวมตัวกันหนามากขึ้น เกิดการอัดตัวและตกผรึกใหม่ของหิมะ ส่วนที่อยู่ด้านล่างจะหนืดและค่อยๆ เคลื่อนที่ลงสู่ที่ต่ำอย่างช้าๆ ตามแรงดึงดูดโลก ลักษณะดังกล่าวเรียกว่า “ธารน้ำแข็ง” แต่เนื่องจากภาวะโลกร้อนที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้การละลายของธารน้ำแข็งที่ขยายตัวเร็วขึ้น ทำให้ธารน้ำแข็งนี้มีการหดตัวราวปีละ 50 เมตร
4.เมืองโบราณจงเตี้ยน
เมืองโบราณจงเตี้ยน (แชงกรีล่า) ที่รัฐบาลจีนบูรณะให้งดงามจากการมองเห็นความสำเร็จของ”เมืองโบราณต้าหยัน” ที่ลี่เจียง แต่เป็นการพยามสร้างขึ้นใหม่ในแบบโบราณ ของเก่าเหลือแค่บ้านชาวธิเบตที่อายุ ๔๐๐ ปี หลังเดียวที่รอดจากน้ำมือพวกเรดการ์ด ในสมัยปฏิวัติวัฒนธรรม ที่รอดมาได้ก็เพราะพวกเรดการ์ดใช้เป็นที่พักแวะเดินชมเมืองโบราณ(ปลอมๆ) แล้วก็พากันเดินลึกเข้าไปถึง วัดต้าฝอ อยู่บนเนินเขาใจกลางเมืองโบราณจงเตี้ยน “กงล้อมนตราทองคำ” ขนาดใหญ่ที่สุดในโลก น้ำหนัก ๖๐ ตัน สูง ๑๙ เมตร จารึกบทสวดมนต์ ๑๒,๔๐๐ ล้าน ตัวอักษรตามความเชื่อของพุทธศาสนานิกายมหายานตันตระแบบธิเบตนี้ เขาบอกว่าการหมุนกงล้อที่เป็นแท่งเหล็กจารึกบทสวดมนต์นี้เปรียบเสมือนได้สวดมนต์โดยไม่ต้องสวดเอง ใช้วิธีลัดก็ได้บุญ ดังไปถึงสวรรค์นั่นแน่ะนี่กงล้อมนตราแบบธรรมดา และนี่กงล้อมนตราที่ใหญ่ที่สุดในโลก ให้เปรียบเทียบกันดูเขามีแกนให้จับแล้วช่วยกันหมุน
5.ช่องแคบเสือกระโจน
ช่องแคบเสือกระโจน สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญแห่งหนึ่งของการมาเที่ยวเส้นทางต้าหลี่ แชงกรีล่า ลี่เจียง ช่องแคบเสือกระโจน ยังได้รับขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก UNESCO อีกด้วย ตั้งอยู่ระหว่างทางแยกของเมืองลี่เจียงและเมืองจงเตี้ยน เป็นหุบเขาในช่วงที่แม่น้ำแยงชีไหลลงมาจากจินชาเจียง(แม่น้ำทราบทอง) น้ำบริเวณนี้น้ำไหลเชี่ยวมาก ช่วงที่แคบสุดมีความกว้างเพียง 30 เมตร ช่องหุบเขานี้ความยาว 15 กิโลเมตร ตำแหน่งที่ตั้งอยู่ในบริเวณที่น้ำไหลผ่านระหว่างภูเขาหิมะมังกรหยกที่สูง 5,590 เมตร และภูเขาหิมะฮาป๋าที่สูง 5,390 เมตร ซึ่งเป็นบริเวณที่น้ำไหลเชียวและอยู่ใต้หน้าผาสูง 2,000 เมตร ตามตำนานกล่าวว่า มีเสือตัวหนึ่งได้หนีการตามล่าจากนายพราน โดยกระโดดข้ามแม่น้ำที่จุดที่แคบที่สุด จึงเป็นที่มาของชื่อของช่องเขาแห่งนี้ สำหรับนักท่องเที่ยวที่ได้มาเยือน ท่านจะได้พบกับความสวยงามของธรรมชาติ และความประหลาดใจของธรรมชาติ ที่ทำให้เกิดช่องแคบนี้
6.เมืองโบราณลี่เจียง
ลี่เจียง (Lijiang) เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของมณฑลยูนนาน ประเทศจีน ด้วยความสวยงามของลี่เจียงที่มีลักษณะเป็นเมืองโบราณสวยงามและมีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 800 ปี จึงได้รับขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก (UNESCO) เมื่อปี ค.ศ. 1977 ให้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม ลี่เจียงเป็นเมืองที่ได้รับฉายาว่า “เวนิสแห่งตะวันออก” อันเนื่องมาจากมีลำธารและคูคลองไหลผ่านอาคารบ้านเรือนโบราณและมีสะพานเล็กๆ ข้ามฝั่งไปมามากว่า 300 สะพาน ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่เมืองเวนิส ประเทศอิตาลีนั่นเอง
7.ภูเขาหิมมังกรหยก
ภูเขาหิมะมักกรหยก จุดชมวิวสูงสุดจาก ระดับน้ำทะเล 4,506 เมตร ซึ่งท่านสามารถสัมผัสหิมะที่ปกคลุมอยู่ตลอดที่งปีอย่างใกล้ชิดเพื่อชมทิวทัศน์และธรรมชาติบนจุดที่สูงที่สุดและสวยงามที่สุด ตลอดสองข้างทางที่ขึ้นยอดเขา ทิวทัศน์เขาแห่งนี้เมื่อมองจากระยะไกล จะเห็นเป็นลักษณะคล้ายมังกรกำลังเลื่อย บนพื้นสีขาวของหิมะที่ปกคลุมอยู่นั้น ดูราวกับหยกขาว ที่ตัดกันสีน้ำเงินของท้องฟ้า คล้ายมังกรขาว กำลังล่องลอยอยู่บนฟากฟ้า เขาแห่งนี้จึงได้ชื่อว่า ภูเขามังกรหยก
8.โชว์จางวี้โหมว
โชว์จางอวี้โหมว ไม่ควรพลาดกับหนึ่งไฮไลต์ของที่นี่ ก็คือ การชมการแสดงโชว์ที่มีชื่อว่า “Impression Lijiang” ผู้กำกับฝีมือเยี่ยมมีชื่อเสียงก้องโลก “จาง อี้ โหมว” และเวทีการแสดงถูกสร้างขึ้นบริเวณใกล้กับภูเขาหิมะมังกรหยกเหนือระดับน้ำทะเล 3,100 เมตร โดยใช้วิวจริงของภูเขาหิมะมังกรหยกเป็นฉากหลังประกอบการแสดง การแสดงในภาคนี้จะเป็นการสะท้อนเรื่องราวที่เกี่ยวโยงกับภูเขาหิมะมังกรหยกอันศักดิ์สิทธิ และประเพณีของชนกลุ่มน้อยของเมืองลี่เจียง ใช้ทีมนักแสดงชนกลุ่มน้อยพื้นเมืองกว่า 500 คน มาโชว์ร้อง เต้น เล่น พร้อมแสง สี เสียง และการแต่งกายแบบสวยงาม ซึ่งเนื้อหาของการแสดงเป็นการเล่าเรื่องราว ให้ได้รับรู้ถึงวิถีชีวิต ความเป็นอยู่ ของชนเผ่าต่างๆ ในเมืองลี่เจียง ถือว่าเป็นการแสดงโชว์ที่ดูยิ่งใหญ่ตระการตายิ่งนัก การแสดงชุดนี้ใช้ทุนสร้างกว่า 250 ล้านหยวน หรือประมาณ1,250 ล้านบาท เป็นชุดการแสดงในสถานที่จริงสุดอลังการอีกชุดหนึ่งที่ผู้ไปเยือนเมืองลี่เจียงไม่ควรพลาด
9.ทะเลสาบไป๋สุ่ยเหอ
.
ทะเลสาบไป๋สุ่ยเหอ ทะเลสาบสีเทอร์ควอยซ์ตัดกับวิวต้นไม้ ท่ามกลางขุนเขาแห่งหุบเขาพระจันทร์สีน้ำเงิน ฉากของภูเขาหิมะมังกรหยก มีน้ำตกหินปูนขั้นบันไดขนาดเล็กลดลั่นลงมาอย่างสวยงาม น้ำที่ไหลผ่านหุบเขานี้คือน้ำที่ละลายจากหิมะบนยอดเขาหิมะมังกรหยก เนื่องจากจุดนี้มีทิวทัศน์ที่สวยงามมีฉากหลังคือภูเขาหิมะมังกรหยกมีน้ำตกและแม่น้ำกึ่งทะเลสาบจึงเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว ช่างภาพและคู่รักเป็นอย่างมาก
10.แชงกรีล่า(วัดซงจ้านหลิน Songzanlin) หรือ โปตาลาน้อย
วัดซงจ้านหลิน หรือ วัดโปตาลาน้อย ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1679 ในสมัยทะไลลามะองค์ที่ 5 ถือเป็นวัดพุทธทิเบตที่ใหญ่ที่สุดในมณฑลยูนนาน และมีอีกชื่อว่า ‘วังโปตาหล่าน้อย’ เนื่องจากสร้างเลียนแบบพระราชวังโปตาลาที่ตั้งอยู่ในกรุงลาซา (Lhasa) อีกทั้งวัดซงจ้านหลินเคยถูกทำลายเสียอย่างรุนแรงในช่วงปฏิวัติวัฒนธรรมของจีน ในปี 1966 ด้วย หลังจากนั้นก็บูรณะวัดขึ้นมาใหม่ให้เหมือนเดิมในปี 1982 และคงอยู่สวยงามมาจนถึงปัจจุบันนี้การเข้าชมวัดจะต้องเดินขึ้นบันได 140 กว่าขั้น ซึ่งตัววัดจะมีอาคารหลักอยู่ 3 หออาคารคือ Tsongkhapa Hall, Dratsang Hall, Sakyamuni Hall โดยแต่ละอาคารจะสามารถเข้าไปเคารพกราบไหว้องค์รูปปั้นประธานได้เลย และในแต่ละหอจะมีสถาปัตยกรรม ภาพวาดฝาผนังและรูปปั้นองค์ต่างๆ ที่สวยงามมากมายให้ได้ชมกัน แต่ไม่สามารถถ่ายรูปได้และทางด้านหน้าของวัดซงจ้านหลิน จะติดกับทะเลสาบลาหมู่ยางชั่ว (Lamuyangcuo Lake)ที่มีเส้นทางเดินรอบทะเลสาบ มีจุดให้ถ่ายรูปและจุดแวะพักด้วย
ชมคลิปวีดีโอ
Deqin | ความสุขเล็กๆที่เต๋อชิง (Deqin – Shangri la – Lijiang)
Shangri La | ณ ดินแดนเส้นขอบฟ้า (Deqin – Shangri La – Lijiang)
Lijiang | ตะลุยเมืองดังยูนนาน (Deqin – Shangri La – Lijiang)
___________________________
?โปรแกรมทัวร์จีน : https://bit.ly/2PTXFrs
?Instragram : @travel_zeed
?Facebook https : https://www.facebook.com/Travelzeed/
?Youtube Channel : https://bit.ly/2J1yNfZ
?สอบถามข้อมูลโปรแกรมทัวร์ : https://line.me/R/ti/p/@travelzeed