วันนี้เราเดินทางมาขึ้นเรือที่ Marina Bay Cruise Centre Singapore การเดินทางจากสนามบิน ถ้าเรียก Grab แบบเรา ราคาก็ประมาณ 20 ดอลลาร์สิงคโปร์ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 20-30 นาที ถ้าเป็นรถไฟใต้ดินก็จะนานหน่อยประมาณ 1 ชม. พูดถึงการท่องเที่ยวด้วยเรือสำราญ คำถามยอดฮิตของหลายๆ คนก็คือ น่าเบื่อแน่ๆ , ไม่เอาอะเห็นแต่ทะเล ,ได้ลงจากเรือบ้างหรือเปล่า? เอาล่ะวันนี้เราจะพามาทำความรู้จักกับเรือสำราญที่มีชื่อว่า “Spectrum of the Seas” เรือสำราญที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย แถมยังเป็นเรือลำแรกในตระกูล Quantum Ultra-Class ของสำยเรือ Royal Caribbean International มีการเปิดตัวในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ปี ค.ศ. 2019 นั่นเอง เรือลำนี้ มีน้ำหนัก168,666 ตัน และสามารถรองรับผู้โดยสารได้สูงสุด5,622 ท่าน เป็นเรือที่เหมาะสำหรับกลุ่มนักท่องเที่ยวที่เดินทางไปพักผ่อนกันทั้งครอบครัว และกลุ่มที่ยกขบวนกันไปเป็นแก๊งค์เพื่อนฝูง
ภายในเรือลำนี้มีกิจกรรมสนุกๆ และความบันเทิงมากมาย อาทิเช่น เปิดประสบการณ์ไปกับเครื่องเล่นสนุกๆ อย่าง Sky Pad เป็นเครื่องเล่นแทรมโพลีนเสมือนจริงที่มาพร้อมกับแว่น VR สามมิติ เพิ่มอารมณ์ที่น่าตื่นเต้นเอาใจเด็กๆ ได้กระโดดเด้ง ดึ๋ง กันให้มันส์สุดเหวี่ยง ต่อด้วย Bionic Bar หุ่นยนต์บาร์เทนเดอร์ที่คอยชงเครื่องดื่มให้เราได้ดื่มกันทั้งวันทั้งคืน ถือเป็นเทคโนโลยีสุดล้ำบนเรือสำราญก็ว่าได้ และยังมีเครื่องเล่น The North Star เป็นกระเช้าลอยฟ้าชมวิวได้ 360 องศา ความสูงก็ราวๆ 300 ฟุต หรือ 91 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ต่อด้วย RipCord by iFly เครื่องเล่นดิ่งผสุธาจำลองเอาให้มันส์กันสุดเหวี่ยง บนเรือยังมีโซน Royal Esplanade ถนนสายช็อปปิ้งที่มีถึงสองชั้น (ชั้น 4,5) มีสินค้าปลอดภาษี และสินค้าแบรนด์เนมที่มีให้เลือกหลากหลาย
บรรยากาศแต่ละโซนบนเรือ ก็เหมือนเราเที่ยวอยู่บนบกเลย กิจกรรมไม่จำเจ ไม่เบื่อเลยค่ะ
เห็นมั้ยล่ะ ว่าแต่ละโซนดึงดูขนาดไหน ทั้งเซิร์ฟบอร์ด , Casino , ปีนหน้าผา คือมันเยอะมากๆเลยค่ะ สำหรับใครสาย activity ก็เริ่มฟิตร่างกายกันมาเลยนะคะ
เมนูอาหารบนเรือก็หรูเริศ มีบริการอาหารนานาชาติมากมายบนเรือ ตอบรับทุกความต้องการ ที่สำคัญยังอร่อยมากๆแถมยังฟรีอีกด้วย หรือจะเลือกเป็นแบบ Specialty Dinning ที่คุณจะประทับใจกับอาหารระดับโลกตลอดการเดินทาง นอกจากนี้ยังมีร้านอาหารกว่า 18 แห่ง ภายในมีทั้งห้องอาหารหลัก และ ห้องอาหารพิเศษ รวมถึงห้อง Two70°(Two Seventy) อันโอ่อ่า ผนังเป็นกระจกใสสูงโปร่ง ตั้งแต่พื้นจรดเพดาน ภายในโซนนี้เต็มไปด้วย เก้าอี้เรียงราย บาร์ เลาจน์ และคาเฟ่ เป็นจุดที่บรรยากาศดีที่สุดพร้อมกับวิวทิวทัศน์พาโนราม่าที่สวยงามจับใจ ในยามค่ำคืนยังมีโชว์การแสดงต่างๆ อาทิเช่น โชว์กายกรรมสุดตื่นเต้นและหวาดเสียว รวมถึงละครเวที ให้แขกผู้เข้าพักได้มีความสุข เรียกรอยยิ้ม และเสียงหัวเราะกันกระหึ่มไปทั่วทั้งเรือเลยล่ะค่ะ
อาหารแบบบุฟเฟ่ต์บนเรือก็มีน๊า มีให้เลือกหลากหลาย เตรียมท้องมาหม่ำให้จุกไปเลย
มาเยือนสิงคโปร์ทั้งที่ ไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาด นั่นก็คือข้าวมันไก่สิงคโปร์ ที่ ร้านTian Tian Hainan Chicken rice ร้านดังย่าน China Town อยู่ใน Food Center น๊า
และ อีกหนึ่งร้านก็คงจะเป็นหนึ่งในอาหารยอดนิยมที่เป็นสัญลักษณ์ของชาวสิงคโปร์ก็คือ บัก-กุต-เต๋ ที่ร้าน Song Fa Bak Kut Teh
มาต่อกันที่ การเลือกชนิดห้อง ห้องในเรือนั้นจะแบ่งเป็นใหญ่ๆ ได้ 4 แบบ ค่ะ นั่นก็คือ
1. Interior Stateroom. เป็นห้องที่มีราคาน่าเลิฟที่สุด เนื่องจากไม่แพง ขนาดห้องนั้นเล็กกว่าห้อง Ocean View Stateroom และ Balcony Stateroom นิดเดียว แต่เป็นห้องที่อยู่ฝั่งในของตัวเรือ จึงไม่มีหน้าต่างให้เห็นวิว ด้านนอกค่ะ
2. Ocean View Stateroom เป็นห้องพักที่จะมีหน้าต่างมองเห็นข้างนอกลำเรือได้ เราจะสามารถเห็นวิวทะเลได้อย่างชัดเจนเลยล่ะค่ะ
3. Ocean View Stateroom with Balcony เป็นห้องที่เราจะเรียกกันในชื่อว่าห้อง Balcony นั่นเองค่ะ มีขนาดใหญ่ขึ้นมาอีกนิดนึง และจะมีระเบียงสามารถเดินออกมาสูดลมทะเลภายนอกห้องได้ ห้องชนิดนี้จะเป็นห้องที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในลำเรือเลยก็ว่าได้
4. ห้อง Suite ชนิดต่างๆ ห้อง Suite นั้นก็จะเป็นห้องที่แบ่งเป็นหลายระดับมากที่สุดเลย มีทั้ง Junior Suite, Family Suite, Grand Suite, Royal Family Suite, Owner Suite, Royal Loft Suite
ซึ่งห้องแต่ละชนิดก็จะมีความ หรูหราต่างๆกันไปค่ะ
การใช้ชีวิตท่องเที่ยวบนเรือสำราญ ยากไหม?
บนเรือมีกิจกรรมเรียกได้ว่าเยอะสุดๆ เรียกว่าตลอด 24 ชั่วโมงเลยก็ว่าได้ตามที่กล่าวข้างต้น การเที่ยวเรือสำราญก็แทบจะไม่ต่างอะไรกับการเที่ยวทางบนบกปกติ เราสามารถจัดเลือกเที่ยวชมหรือเลือกเล่นกิจกรรมบนเรือตามที่สไตล์เราได้เลย
บนเรือมี Internet ไหม จะมีสัญญาณโทรศัพท์ไหม?
บอกเลยว่า หายห่วงค่ะ บนเรือมีบริการ Internet ให้กับนักท่องเที่ยวทุกๆคนบนเรือ ก็จะมีค่าใช้จ่ายต่างๆตามแพ็กเกจที่เราจะเลือก ก็จะมีทั้ง โปรสำหรับใช้ 1 เครื่อง ไปจนถึง 4 เครื่องซึ่ง แต่ละเครื่องก็จะได้รับ User และ Password ที่ต่างกันออกไปค่ะ สามารถLive อัพรูปลงโซเชียลให้เพื่อนๆได้ อิจฉาเล่นกันได้เล้ยยย
มีค่าใช้จ่ายอะไรเพิ่มเติมบ้างไหม?
โดยปกตินั้น ค่าใช้จ่ายบนเรือนั้น จะรวม บริการระดับ Basic ไว้ทุกอย่างแล้ว ยะเว้นค่าภาษีเรือ ที่เราต้องไปจ่ายเพิ่ม อยู่ราวๆ ประมาณ 6,000-7,000 บาท
ส่วนใครทีกำลังมองหาสถานที่เที่ยวแบบแปลกใหม่ แต่ก็กลัวว่าจะเดินทางยาก ไม่ต้องกังวลไป เพราะมีบริการรถรับ-ส่งจากสนามบินมาท่าเรือด้วยนะคะ และก่อนเดินทาง ก็ต้องดูข้อกำหนดของทางเรือเพราะผู้โดยสารทุกท่านต้องแสดงผลการตรวจ ATK หรือ RT-PCR ก่อนขึ้นเรือ สามารถทำการตรวจได้ที่ประเทศไทย 1 วันก่อนเดินทาง ผลการตรวจต้องเป็น ภาษาอังกฤษเท่านั้นค่ะ
เราคิดว่าการตื่นขึ้นมาในต่างถิ่น ก็ยังเป็นความตื่นเต้นที่สนุกที่สุดในโลก ส่วนการเดินทางกับทัวร์ล่องเรือสำราญ Spectrum of the Seas ถือว่าเป็นอีกหนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจเลยทีเดียว เป็นไงกันบ้างคะ เล่ามาถึงตรงนี้ ใครอยากตามเราไปเที่ยวกันบ้าง ยกมือขึ้น To travel is to live. การออกเดินทางท่องเที่ยวคือการมีชีวิตอยู่จริงๆนะคะ
สนใจแพ็คเกจทัวร์ล่องเรือสำราญ สามารถคลิกชมที่ลิ้งค์ > https://www.travelzeed.com/product?type=4
?สอบถามข้อมูล :https://lin.ee/VKAaDt0
☎️ เบอร์ติดต่อบริษัท 02-108-7900
?เบอร์ติดต่อเซล 081-573-9944 (เบียร์)
?เบอร์ติดต่อเซล 062-103-3313 (เติ้ล)
?เบอร์ติดต่อเซล 099-432-9990 (อาย)
?เบอร์ติดต่อเซล 081-639-8333 (ชะเอม)
?Email: contact@travelzeed.com
?Line ID: @travelzeed (มี@นำหน้านะคะ)