มาเที่ยวยุโรปทั้งที บราติสลาวาเมืองหลวงของสโลวาเกียก็เป็นอีกสถานที่นึงที่เราพลาดไม่ได้ บราติสลาวาอยู่ไม่ใลกจากเวียนนาเลยค่ะ นั่งรถมาใช้เวลาประมาณ1 ชั่วโมง เราชอบเมืองนี้นะเป็นเมืองที่สงบมาก มองไปทางไหนก็Artsไปหมด ยิ่งย่านเมืองเก่าของที่นี่เป็นแบบสไตล์โกธิคและเรอเนสซองส์ ยังคงให้กลิ่นอายความเป็นกรีกและโรมันอยู่เหมือนเดิม

เมืองบราติสราว่า (Bratislava) เมืองหลวงของประเทศสโลวาเกีย ซึ่งได้แยกประเทศออกมาจากเชค เมืองเล็กๆนี้สวยงามมากๆไม่แพ้เมืองไหนในยุโรปเลย การเดินทางก็แสนง่ายและสะดวก มีรถรางแระรถเมล์คอยบริการอยู่ ส่วนประชากรของที่นี่ก็ไม่เยอะทำให้เมืองไม่วุ่นวายเท่าโซนอื่นของยุโรป

เราอาจจะคุ้นหูหรือคุ้นตากับคำว่า LGBT ที่บราติสลาว่า ก็ยังสนับสนุนให้มี Pride Month หรือ เทศกาลไพรด์นั่นเองค่ะ ถึงแม้เทศกาลจะจบไปแล้ว แต่ก็ยังมีธงสีรุ้งอยุ่ตามตึก อาคารของที่นี่เยอะแยะไปหมด

คาเฟ่ที่นี่ หากใครได้มาก ก็อย่าลืมมาลิ้มลอง เมนูต่างๆของเค้านะคะ ทีนี่ผู้คนชอบกินหวานมาก แม้แต่นม ก็หวานมากๆ สำหรับใครที่ชอบกินแบบหวานๆ เราเชื่อว่า ที่นี่ตอบโจทยืทุกคนค่ะ เดินมาเรื่อยๆ เราก็จะเจอลานกลางแจ้ง น้ำพุที่มีรูปปั้นอนุสาวรีย์ของบุคคลสำคัญต่างๆ เช่นรูปปั้น Hviezdoslav ,Schone Naci Statue และยังมีอีกเยอะเลยค่ะที่เป็นบุคคลสำคัญของเมืองนี้

โดยอันที่ดังที่สุดของเมืองนี้ ก็คงไม่พ้น รูปปั้นที่มีคนโผล่ขึ้นมาจากท่อ ไกด์เล่าว่าผลงานนี้มีชื่อเรียกในภาษาอังกฤษว่า Man at Work หรืออีกชื่อคือ Cumil (คูมิล หรือ คัมมิล) เป็นรูปปั้นทองสัมฤทธิ์ที่สร้างขึ้นเพื่อให้เห็นอารมณ์ตลกขบขันของชายคนหนึ่งที่ทำงานเกี่บวกับท่อระบายน้ำและโผล่ขึ้นมาเพื่อแอบมองสาวๆ ฮ่าาาา เอาเรื่องนะเนี่ยย รูปปั้นนี้เป็นผลงานของ Viktor Hulik ที่สร้างขึั้นตั้งแต่ปี 1997 กลายเป็นจุดเด่นที่สร้างชื่อให้กับเมืองเก่าแห่งนี้ไปเลยล่ะค่ะ

อีกหนึ่งรูปปั้นที่คุณสามารถพบได้ในถนนเมืองเก่าในบราติสลาวา ก็คือรูปปั้นของนายหยินหรือ Mr. Silver Sculpture เคยเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงที่นี่ หลังจากเสียชีวิต ชาวบ้านเลยสร้างรูปปั้นนี้เพื่อรําลึกถึงเขาด้วยค่ะ

รูปปั้นนี้ก็อยู่ใจกลางเมืองเหมือนกันค่ะ มีชื่อว่า Hans Christian Andersen ได้ชื่อว่า “ราชาแห่งเทพนิยาย” เป็นนักเขียนชาวเดนมาร์ก ผู้แต่งนิทานมากกว่า 400 เรื่องเลยค่ะ

รูปปั้นของ Pavol Országh Hviezdoslav เป้นนักกวีและนักกฏหมายชาวสโลวัก เดินทางมาเมืองนี้ มองไปทางไหนก็มีแต่รูปปั้นสวยๆ และมีความสำคัญเต็มไปหมดเลยค่ะ

ภายในตรอกซอยต่างๆของเมือง ก็จะมีร้านขายของที่ระลึก งานฝีมือ งานปั้นเซรามิกเก๋ๆ เยอะแยะไปหมด

รวมไปถึง ร้าน Pirate Candy ที่ขายพวกขนมเยลลี่ ช็อคโกแลตรูปต่างๆเยอะแยะเลยค่ะ แต่เสียดายวันที่เรามา ร้านปิดเพราะตรงวันหยุดของเค้า เลยทำให้เราได้แค่ยืนถ่ายกับ jack sparrow ที่หน้าร้านแทน

เราเดินทางมาก่อนช่วงคริสมาสต์ จึงทำให้ ตามซอก ตรอกซอย และถนนในย่านเมืองเก่า เริ่มจะประดับประดา ตกแต่งต้อนรับเทศกาลคริสมาสต์แล้ว ถ้าประดับเสร็จแล้วคงสวยงามโรแมนติกน่าดู แต่เสียใจจังที่เราดันอยู่ไม่ถึงเทศกาลอบอุ่นนี้

อ้อ!!เกือบลืมในนี้ก็ยังมีพวกร้านอาหารเยอะแยะไปหมด รวมไปถึงMcDonald ไปที่ไหนก็เจอ แต่จุดสังเกตุก็คือ ทำไมสีโลโก้ของ McDonald ในยุโรปถึงเป็นสีเขียว ?? สาเหตุมีอยู่ว่าในช่วงทศวรรษ 2000 แมคโดนัลด์ต้องเผชิญกับแรงกดดันเชิงกลยุทธ์ทางการค้าอย่างหนักจากกลุ่มนักเคลื่อนไหวและองค์กรด้านสิ่งแวดล้อมในยุโรปและเพื่อให้การเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น จึงเปลี่ยนโลโก้สีแดงสุดคลาสสิกมาใช้เป็นสีเขียวแทน โดยประเทศแรกที่นำโลโก้สีเขียวมาใช้คือประเทศเยอรมัน และหลังจากนั้นภายในสองปี McDonald’s ทุกสาขาในประเทศก็เริ่มทยอยเปลี่ยนมาใช้สีเขียวแทนและนี่คือเหตุผลทำไมร้าน McDonald ในยุโรปในปัจจุบันจึงมีโลโก้พื้นหลังเป็นสีเขียวนั่นเองค่ะ

แถมผู้คนที่นี่ใจดีมากๆ เดินผ่านใครก็ยิ้มให้หมด หรือเค้าเห็นเราแปลกกันนะ ฮ่าๆๆ เราไปซื้อของฝากแต่เงินเราขาดไปประมาณ 50 cent เเม่ค้าในร้านขายของที่ระลึกก็ยกมือบอกไม่เป็นไรจ่ายเท่าที่มีมาเลย เราปลื้มปริ่มมากแต่ไม่ได้ถ่ายรูปเค้ามา เกรงว่าเค้าจะไม่สะดวก ก็ยกมือขอบคุณเป็นคนไทยไปเลยสิคะ

และเราก็ยังได้มีโอกาสเห็นนักเรียนกลุ่มนึงที่เดินกันเป็นกลุ่มเพื่อมาทัศนศึกษาที่เมืองนี้ เด็กๆโบกมือทักทาย เราด้วย ทุกคนยิ้มแย้มให้กับกล้องที่เราถ่ายตามประสาเด็กๆที่ตื่นเต้นกับการที่ได้มาเที่ยว เหมือนเราที่ก็ตื่นเต้นทุกอย่างที่เจออะไรแปลกใหม่ เชื่อว่าเมืองนี้ก็จะทำให้ทุกท่านมีความสุขมากๆเช่นเราค่ะ

ส่วนใครที่อยากเห็นวิวเมืองให้ทั่วถึง ก็ต้องขึ้นมาเดินชมปราสาทบราติสลาวาได้เลย เพราะข้างบนปราสาทสามารถเห็นวิวทิวทัศน์ของเมืองเก่าและสะพานข้ามแม่น้ำดานูบได้ใกลสุดลูกหูลูกตาเลยค่ะ ถึงแม้บราติสลาวาจะมีพื้นที่ไม่ใหญ่นักแต่ก็คงรักษารูปลักษณ์เดิมของยุคกลางได้เป็นอย่างดี บราติสลาวาเนี่ยมีย่านเมืองเก่าด้วยนะคะ เป็นจุดศูนย์รวมสถานที่ท่องเที่ยวของเมืองนี้เลย เรียกว่าเป็น old Town แน่นอนว่าพอขึ้นชื่อเมืองเก่าความคลาสสิคต้องมาละป้ะ แม้จะเป็นเมืองเล็กๆ แต่เชื่อว่าก็เป็นอีกเมืองนึงในยุโรปที่ควรค่าแก่การมาเยือนค่ะ

สรุป

นอกจากที่เราได้เล่ามา บราติสลาวาก็ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกเยอะเลยนะคะ สำหรับเพื่อนๆที่ชอบเที่ยวแถบยุโรป เราแนะนำ ทัวร์ยุโรป ใครที่วางแผนจะหยุดลางานมาเที่ยวแล้วล่ะก็ อย่าลืมให้บราติสลาวาลงไปอยู่ลิสของแพลนการเดินทางเที่ยวด้วยนะคะ รับรองได้เลยว่าคุณจะเห็นมุมมองใหม่ๆแถมยังได้ถ่ายรูปในแบบเก๋ๆกลับไปอวดคนที่บ้านแน่นอนค่ะ