หิมะขาวโพลนปกคลุมยอดเขา ทะเลสาบสีฟ้าอมเขียวมรกตท่ามกลางความงดงามของธรรมชาติ โอบล้อมด้วยป่าไม้และทุ่งหญ้าเขียวขจี บรรยากาศร่มรื่นสลับอากาศร้อนเย็นไปจนถึงหนาวจัดตลอดวัน ความสนุกสนานปนหยาดเหงื่อแห่งความมุมานะพยายามในการเผชิญเส้นทางสุดทรหดของเส้นทางเดินเขาอันเลื่องชื่อ
หากนี่คือสิ่งที่คุณกำลังมองหา Travelzeed รวบรวม 5 อันดับเส้นทางเดินเขายอดฮิตทั่วทวีปเอเชียที่จะมาสร้างแรงบันดาลใจในการออกเดินทางพิชิตขุนเขาของคุณอีกครั้ง
1. Mount Everest Base Camp
สำหรับนักปีนเขาและเดินเขาทุกท่าน เอเวอเรสต์ เบสแคมป์ (EBC) ถือเป็นเป้าหมายสูงสุดที่ใครก็ต่างเฝ้าฝันว่าอยากไปพิชิตให้ได้สักครั้งหนึ่งในชีวิต ในเขตนี้คุณจะได้ยลโฉมยอดเขาที่สูงมากกว่า 6,000-8,000 เมตร ถึงแม้จะมีการพูดกันในช่วงหลังว่าการไป EBC ไม่ได้น่ากลัวเทียบเท่ากับเมื่อก่อน และสามารถปีนขึ้นมาได้ทั้งจากทางฝั่งเนปาลและทิเบต นักปีนเขาก็ยังจำเป็นที่จะต้องฟิตร่างกายให้พร้อมเสมอ เพราะสถานที่แห่งนี้คือบททดสอบสุดโหดทั้งจิตใจและร่างกาย ที่หากคุณพลาดไป อาจไม่มีโอกาสได้กลับมาแก้ไขในครั้งที่สองในชีวิต โดย South Base Camp ที่สามารถปีนขึ้นมาจากทางฝั่งเนปาล จะมีความสูงอยู่ที่ 5,364 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล ในขณะที่ North Base Camp จากฝั่งทิเบต มีความสูงอยู่ที่ 5,150 เมตร
? ใครบ้างที่เหมาะกับเส้นทางนี้ : นักปีนเขาสายฮาร์ดคอที่ผ่านการปีนเขามาหลากหลายที่ ที่สามารถทนความหนาวสุดขั้วและระดับความสูงได้
⏳ ระยะเวลา : ประมาน 20 วัน
? ช่วงเวลาแนะนำ : เดือนมีนาคมถึงเดือนพฤษภาคม และเดือนกันยายนถึงเดือนธันวาคม
2. Mount Kinabalu
ภูเขาคินาบาลู ภูเขาที่ได้รับขนานนามว่า “ภูเขาแห่งความตาย” แม้ชื่อจะบ่งบอกถึงความน่ากลัว แต่เส้นทางเดินเขาของประเทศมาเลเซียแห่งนี้กลับมีนักเดินเขาจากทั่วทุกมุมโลกแวะเวียนมาประลองความสามารถ พิชิตยอดเขากันอย่างไม่ขาดสาย หากเปรียบเทียบกับยอดเขาอื่นๆ คินาบาลูถือว่าปีนง่ายและใช้เวลาเพียง 2 วันเท่านั้น ทุกคนที่ได้มีโอกาสชมพระอาทิตย์ขึ้นในยามเช้าบนยอดเขาที่สูงเหนือระดับน้ำทะเล 4,095 เมตรแห่งนี้ ต่างพูดกันเป็นเสียงเดียวว่า สวยงามราวกับภาพวาดที่จะฝังอยู่ในความทรงจำตลอดไป
? ใครบ้างที่เหมาะกับเส้นทางนี้ : นักท่องเที่ยวที่อยากลองปีนเขาในระดับง่ายๆ แต่จำเป็นต้องเตรียมร่างกายให้พร้อม
⏳ ระยะเวลา : 2 วัน
? ช่วงเวลาแนะนำ : สามารถเดินทางได้ตลอดปี แต่ช่วงเวลาเดินทางแนะนำคือ เดือนมีนาคมถึงเดือนสิงหาคม
? โปรแกรมทัวร์ : สนใจแพ็คเกจทัวร์คินาบาลู คลิก >> โปรแกรมทัวร์คินาบาลู
3. Annapurna Base Camp
นอกจากยอดเขาเอเวอเรสต์ เบสแคมป์อันนาปุรณะ หรือ ABC ในเขตอุทยานแห่งชาติอันนาปุรณะ เมืองโพคารา ทางตอนเหนือของประเทศเนปาลก็เป็นอีกหนึ่งเส้นทางที่ห้ามพลาดเด็ดขาดสำหรับผู้รักการเดินเขา เผชิญหน้ากับยอดเขาอันนาปุรณะ พิสูจน์ศักยภาพของตัวเอง ไต่ระดับความสูงกว่า 4,130 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ต่อสู้กับความหนาวเหน็บ ความสูง และสภาพอากาศที่ไม่ค่อยเป็นใจ แม้จะเป็นเส้นทางบททดสอบที่หฤโหดเส้นทางหนึ่ง แต่ธรรมชาติที่สวยงามตลอดเส้นทาง ยอดเขาเรียงรายสลับซับซ้อน ความโดดเด่นของเส้นทางนี้จะทำให้คุณหลงรักไม่มีวันลืม
? ใครบ้างที่เหมาะกับเส้นทางนี้ : นักเดินเขาที่รักการผจัญภัย และอดทนต่อระดับความสูง
⏳ ระยะเวลา : 9-12 วัน
? ช่วงเวลาแนะนำ : เดือนมีนาคมถึงเดือนพฤษภาคม และ เดือนกันยายนถึงเดือนพฤศจิกายน
? โปรแกรมทัวร์ : สนใจแพ็คเกจทัวร์อันนาปุรณะ เบสแคมป์ (ABC) คลิก >> โปรแกรมทัวร์อันนาปุรณะ
4. Mount Bromo
ใครที่รักการเดินเขาแต่ไม่อยากใช้ระยะเวลานานถึง 2-3 สัปดาห์ ภูเขาไฟโบรโม่ ประเทศอินโดนีเซีย คือคำตอบ ภูเขาไฟโบรโม่เป็นภูเขาไฟที่ยังดับไม่สนิท และยังมีการประทุอยู่เป็นระยะๆ บริเวณปากปล่องภูเขาไฟจะมีควันสีขาวจากสารซัลเฟอร์ที่หลงเหลืออยู่ลอยฟุ้งอยู่ตลอดเวลา โดยปล่องภูเขาไฟมีความสูงอยู่ที่ 2,329 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล วิวพาโนรามาแบบ 360 องศาและจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นท่ามกลางทะเลหมอกอันงดงามพร้อมสร้างความประทับใจให้กับนักเดินเขาทุกท่านที่ขึ้นไปเยือน
? ใครบ้างที่เหมาะกับเส้นทางนี้ : นักท่องเที่ยวทั่วไป
⏳ ระยะเวลา : 2-3 ชั่วโมง
? ช่วงเวลาแนะนำ : สามารถเดินทางได้ตลอดปี
? โปรแกรมทัวร์ : สนใจแพ็คเกจทัวร์โบรโม่ คลิก >> โปรแกรมทัวร์โบรโม่
5. The Snowman Trek
ประเทศภูฏาน ดินแดนที่หลายคนยกให้เป็นสวรรค์บนดิน ด้วยความเงียบสงบและความสวยงามของภูมิประเทศ มีเส้นทางเดินเขาที่ยาวที่สุดและเดินยากที่สุดแห่งหนึ่งในโลกนี้ซ่อนตัวอยู่ ด้วยสภาพอากาศ ระยะเวลา และระดับความสูงทำให้เส้นทางแห่งนี้เป็นกลายเป็นหนึ่งในเส้นทางในฝันสำหรับนักปีนเขาที่รักการผจัญภัยแบบโหดสุดขั้ว เพราะที่นี่คุณจะต้องเดินผ่านภูเขาถึง 11 ลูก โดยเป็นเส้นทางที่ทอดยาวจาก Laya ไปจนถึงเทือกเขาหิมาลัย เนื่องจากเส้นทางนี้ถูกควบคุมโดยประเทศภูฎาน จึงมีการจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวในแต่ละช่วง ทำให้เมื่อคุณมาเดินเขาที่นี่ โอกาสที่คุณจะพบนักปีนเขาท่านอื่นจึงมีน้อยมาก นอกจากจะมีวิวทิวทัศน์งดงาม สวยไม่แพ้ใครแล้ว ยังมีสัตว์ป่า เช่น เสือดาวหิมะ ให้คุณได้ตื่นเต้นตลอดทั้งทริป
? ใครบ้างที่เหมาะกับเส้นทางนี้ : นักปีนเขาสายฮาร์ดคอ
⏳ ระยะเวลา : ประมาน 25-30 วัน
? ช่วงเวลาแนะนำ : เดือนตุลาคม และเดือนมีนาคม
สอบถามข้อมูล : https://lin.ee/VKAaDt0
เบอร์ติดต่อบริษัท 02-108-7900
เบอร์ติดต่อเซล 081-573-9944 (เบียร์)
เบอร์ติดต่อเซล 062-103-3313 (เติ้ล)
เบอร์ติดต่อเซล 099-432-9990 (อาย)
เบอร์ติดต่อเซล 081-639-8333 (ชะเอม)
Email: contact@travelzeed.com
Line ID: @travelzeed (มี@นำหน้านะคะ)