นายเฉลิม หาญพาณิชย์ นายกสมาคมโรงพยาบาลเอกชน กล่าวว่า การสั่งซื้อวัคซีนโควิด-19 ของ MODERNA ยืนยันว่าจะเป็นการซื้อในนามสมาคมโรงพยาบาลเอกชน ซึ่งจะสั่งผ่านองค์การเภสัชกรรม (อภ.) ที่จะเป็นผู้ที่สั่งซื้อจากบริษัทผู้นำเข้าวัคซีนโควิด-19 เมื่อได้รับการขึ้นทะเบียนจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) โดยมั่นใจว่าการกระจายวัคซีน MODERNA จะสามารถกระจายให้สมาชิกโรงพยาบาลเอกชนได้ครบถ้วน
สำหรับต้นทุนวัคซีนของ MODERNA ที่นำเข้ามาผ่านองค์การเภสัชอยู่ที่ 37-38 ดอลลาร์สหรัฐฯ ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม ขณะที่ราคาให้บริการของสมาชิกโรงพยาบาลเอกชนตกลงกันคิดเท่ากันทุกโรงพยาบาลไม่เกิน 2,000 บาท/เข็ม ประกอบด้วย ค่าวัคซีน ค่าบริการของโรงพยาบาล และค่าประกันวัคซีนโควิด-19 เพื่อคุ้มครองผู้ไดรับวัคซีนหากเกิดผลข้างเคียงขึ้น โดยค่าประกันจะเก็บเพียงครั้งเดียวในเข็มแรก ดังนั้น คาดว่าราคาค่าบริการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทั้ง 2 เข็มของสมาชิกโรงพยาบาลเอกชนจะอยู่ที่กว่า 3,000 บาท
“ประชาชนที่ต้องการซื้อวัคซีนจากเอกชน ยังต้องลงทะเบียนในระบบ “หมอพร้อม” ด้วยเช่นกัน เพราะต้องมีการเก็บข้อมูล แต่ก็ในฐานะแพทย์แนะนำว่าสำหรับผู้ที่สงสัยว่าจะฉีดวัคซีนโควิด-19 ของภาครัฐ หรือรอฉีดของโรงพยาบาลเอกชนก็ดี แนะนำให้ฉีดของภาครัฐไปก่อน ตอนนี้ได้ฉีดวัคซีนเร็วสุดจะดีกว่า”นายเฉลิม กล่าว
ส่วนวัคซีนโควิด-19 ทางเลือกอื่นๆที่ยังไม่ขึ้นทะเบียน โดยเฉพาะวัคซีนของ Sinopharm จากประเทศจีนที่เป็นวัคซีนที่พัฒนาจากเชื้อตาย ซึ่งเป็นวัคซีนทางเลือกหนึ่งที่โรงพยาบาลเอกชนต้องการนำเข้ามาให้บริการนั้น สามารถนำเข้ามาให้บริการได้ด้วยการสั่งซื้อจากบริษัทนำเข้าโดยตรง แต่ต้องนำไปให้องค์การเภสัชฯ ขึ้นทะเบียนก่อนจะนำมาจำหน่ายให้กับโรงพยาบาลเอกชนโดยตรง เพราะไม่สามารถนำเข้าวัคซีนเองได้ เนื่องจากใบอนุญาตโรงพยาบาลที่ไม่สามารถขอนำเข้าชีววัตถุเองได้ ต้องมีบริษัทที่ได้อนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และมีสถานที่จัดเก็บวัคซีนที่ได้รับอนุญาต นำมาขึ้นทะเบียนวัคซีน ถึงนำเข้ามาจำหน่ายให้กับโรงพยาบาลเอกชนได้
ขอบคุณข้อมูลจาก :: สำนักข่าวอินโฟเควสท์ วันที่ 6 พฤษาภาคม 2564
? สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม คลิก >> https://lin.ee/3LJM5pw